26 กันยายน 2012
ชาญชัย
ข้อพิพาทหมู่เกาะเตียวหยู/เซนกากุ
เป็นประเด็นในสื่อระหว่างประเทศอีกครั้ง รอบนี้ตัวละครเปลี่ยนแปลงบางส่วน คือเป็นการตอบโต้ระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน
ไต้หวันเป็นอีกประเทศหนึ่งที่อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะเหนือน่านน้ำบริเวณดังกล่าว
เคยมีปัญหากับญี่ปุ่นในเรื่องนี้หลายครั้ง
ครั้งล่าสุดดูเหมือนไต้หวันจะออกโรงช้าเล็กน้อยแม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนจะเรียกร้องให้ไต้หวันออกมาร่วมกับจีนต่อต้านการอ้างสิทธิของญี่ปุ่น
เหตุการณ์รอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อทางการไต้หวันประกาศว่ากองเรือประมงเอกชนหลายสิบลำจะเข้าไปทำประมงในน่านน้ำเกาะเตียวหยู
เป็นการทำประมงที่ชาวประมงไต้หวันกระทำมานานจนถือว่าเป็นประเพณีอย่างหนึ่ง [เทียบเคียงกับชาวนาไทยที่ลงมือทำนาเมื่อเข้าฤดูทำนา]
โดยทางการจะส่งเรือลาดตระเวนยามฝั่งร่วมเดินทางไปด้วย (Taipei Times)
รัฐบาลญี่ปุ่นย่อมเห็นว่าพฤติกรรมของไต้หวันคือความตั้งใจที่จะรุกน่านน้ำประเทศของตน
จึงส่งเรือลาดตระเวนยามฝั่งของตนไปเฝ้าน่านน้ำ พร้อมกับเตือนว่าจะยิงปืนฉีดน้ำความแรงสูงใส่เรือไต้หวันหากลุกล้ำเข้ามา
(The Japan Times)
นั่นคงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่เรือยามฝั่งไต้หวันจึงเตรียมปืนฉีดน้ำความแรงสูงไปด้วย
เหตุการณ์เป็นอย่างที่เห็นในข่าว
เมื่อเรือลาดตระเวรยามฝั่งญี่ปุ่นยิงปืนฉีดน้ำใส่เรือประมงไต้หวัน
เรือยามฝั่งไต้หวันจึงตอบโต้กลับด้วยการยิงปืนฉีดน้ำใส่เรือญี่ปุ่น (NHK/
Taipei Times)
ถ้าจะวิเคราะห์เรื่องนี้แบบมองภาพลบ ถือว่าเรื่องนี้มีความรุนแรง เพราะญี่ปุ่นได้กระทำตามสิ่งที่ตนประกาศล่วงหน้า เช่นเดียวกับไต้หวันที่ได้กระทำในสิ่งที่ตนประกาศล่วงหน้าเช่นกัน
เกิดการกระทำจริง มีการตอบโต้กันจริง ทั้งสองฝ่าย ‘พูดจริงทำจริง’
ในอีกมุมหนึ่ง วิเคราะห์ได้ว่า รัฐบาลทั้งสองฝ่ายตอบโต้ในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
อธิบายได้ว่า
ณ เวลาที่รัฐบาลไต้หวันเห็นเหมาะสม จึงประกาศว่าเรือประมงเอกชนจะไปทำประมงในน่านน้ำของประเทศ
ถือเป็นการอ้างสิทธิเหนือหมูเกาะเตียวหยู เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นทราบเรื่องจึงส่งเรือลาดตระเวนไปปกป้องน่านน้ำของตนเอง
(รัฐบาลญี่ปุ่นทำการอ้างสิทธิเช่นกัน)
เมื่อเรือประมงไต้หวันเข้าน่านน้ำที่ญี่ปุ่นอ้างสิทธิ เรือยามฝั่งญี่ปุ่นจึงยิงปืนฉีดน้ำใส่
เป็นการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของตนเอง และทันทีที่เรือประมงไต้หวันถูกฝ่ายญี่ปุ่นยิง
เรือยามฝั่งไต้หวันจึงยิงปืนฉีดน้ำใส่เรือยามฝั่งญี่ปุ่น เป็นการปกป้องประชาชนกับอธิปไตยของไต้หวันเช่นกัน
ดังนั้นเอง
ทั้งสองรัฐบาลจึงได้ทำหน้าที่ของตนในการปกป้องอธิปไตยของตนเหนือหมู่เกาะเตียวหยู/เซนกากุ
โดยไม่มีฝ่ายใดต้องบาดเจ็บล้มตาย สื่อทั้งสองประเทศนำเสนอข่าวและแพร่ภาพการยิงปืนฉีดน้ำใส่กันอย่างชัดเจน
ถ้าเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนละครตอนหนึ่ง
ถือว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศได้ร่วมกันถ่ายทำหนังแอคชั่นให้คนทั่วโลกชมฟรี
ส่วนที่ว่าใครเป็นผู้กำกับหรือใครอยู่เบื้องหลังการกำกับการแสดงนั้น
ขึ้นกับว่าจะวิเคราะห์แบบใด ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูเอาเอง
สุดท้ายนี้ ข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวันจะรุนแรงจริงหรือไม่
ขึ้นกับเรื่องราวหลังจากนี้ว่าสถานการณ์จะลุกลามบานปลายหรือไม่ รัฐบาลทั้งสองประเทศจะ
‘พูดจริงทำจริง’ ในรูปแบบการตอบโต้อย่างรุนแรงหรือไม่
ประชาชนทั้งสองชาติจะประท้วงแบบสงบเรียบร้อยหรือต้องถึงขั้นเลือดตกยางออก
เผาบ้านเผาเมือง ฯลฯ
แต่ ณ วันนี้ ทั้งสองรัฐบาลได้ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของตน
ไม่อาจให้ใครมาต่อว่าได้อีกแล้ว
สื่อของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่าง NHK ยังช่วยเสนอข่าว
กองเรือประมงไต้หวันได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อกลับถึงประเทศ พวกเขาได้ทำการปกป้องสิทธิการทำประมงในน่านน้ำที่พวกเขาอ้างสิทธิ