มาร์กอส จูเนียร์ฟื้นสัมพันธ์ฟิลิปปินส์-จีน

สัมพันธ์ฟิลิปปินส์-จีนภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะเป็นไปด้วยดีแต่ไม่ทิ้งสหรัฐ เพียงแต่รัฐบาลสหรัฐไม่อาจแทรกแซงข้อพิพาททะเลจีนใต้โดยยืมมือมาร์กอส จูเนียร์

            ต้นปี 2023 เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ (Ferdinand Marcos Jr.) ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เยือนจีนอย่างเป็นทางการ กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีมาแต่ครั้งอดีต ขยายความร่วมมือหลากหลายโดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน ประชาชนเดินทางไปมาหาสู่กัน

            เน้นพัฒนาเกษตรทันสมัย การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมภายใต้ห่วงโซ่อุปทานร่วมกัน ระบบสื่อสารสมัยใหม่ อี-คอมเมิร์ซ ความร่วมมือด้านพลังงานฟอสซิสและพลังงานสะอาด ร่วมสำรวจแหล่งพลังงานในทะเลจีนใต้ จีนจะซื้อสินค้าเกษตรฟิลิปปินส์มากขึ้น

ชัยชนะของจีน ประโยชน์ที่ฟิลิปปินส์ได้ :

            ประชุมสุดยอดฟิลิปปินส์-จีนครั้งนี้ ประกาศจุดยืนร่วม “แก้ไขความคิดต่างอย่างเหมาะสม” ต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ “ด้วยสันติวิธี” ไม่ให้ประเด็นนี้กระทบความสัมพันธ์รวม ย้ำความสำคัญของการเดินเรือเสรีในแถบนี้

            สังเกตว่าทั้งคู่ไม่เอ่ยว่าพื้นที่ส่วนใดเป็นของใคร จะแก้ไขอย่างเหมาะสมเป็นกรอบกว้างๆ คำที่สำคัญคือ “ด้วยสันติวิธี” ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์อื่นๆ เป็นบทสรุปที่ชัดเจนเมื่อตกลงไม่ได้ว่าอาณาบริเวณพิพาทนั้นเป็นของใคร รัฐบาลสหรัฐไม่สามารถใช้ประเด็นนี้เข้าแทรกแซงเหมือนกรณีไต้หวัน

            ทะเลจีนใต้สามารถเป็นทั้งจุดขัดแย้งกับร่วมมือ ถ้าไม่ขัดแย้งก็ร่วมมือกันได้ดี หากยึดความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจสถานการณ์จะตึงเครียด ประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคจะกลายเป็นเครื่องมือช่วงชิงของมหาอำนาจ (ยูเครนเป็นตัวอย่างล่าสุด ยิ่งรบยิ่งพัง อนาคตยูเครนไม่อยู่ในมือของคนยูเครนอีกต่อไป) ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฉบับล่าสุด “National Security Strategy October 2022” ระบุชัดว่าอเมริกาต้องมีบทบาทในโลกมากกว่านี้ ตอนนี้โลกถูกแบ่งแยกไร้เสถียรภาพ ชาติมหาอำนาจเสี่ยงขัดแย้งมากขึ้น ตอนนี้เขตที่แข่งขันดุเดือดมากที่สุดคืออินโด-แปซิฟิกและกำลังขยายเป็นทั้งโลก แข่งขันวางระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านต่างๆ ใน 10 ปีนี้เป็นช่วงสำคัญที่สุดห้วงเวลาชี้อนาคต

            ถามว่าควรวางตำแหน่งที่เป็นมิตรร่วมมือกับทุกประเทศหรือยอมตกเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ

            สมัยรัฐบาลเบนิกโน อากีโนที่ 3 (Benigno Aquino III) ยึดแนวทางอิงสหรัฐ ความขัดแย้งระหว่างฟิลิปปินส์-จีนรุนแรง รัฐบาลจีนลดการติดต่อทางเศรษฐกิจ

            ทั้งจีนกับสหรัฐต่างมีนโยบายยกระดับการค้าการลงทุนกับอาเซียน ประเด็นคืออาเซียนติดต่อการค้าเศรษฐกิจกับประเทศใดมากกว่า

            การค้าการลงทุนผ่านข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) แม้มีเสียงวิพากษ์ เช่น บางโครงการด้อยคุณภาพ บางโครงการขาดทุน ทำให้ประเทศร่วมโครงการเป็นหนี้จีน แต่นับวัน BRI มีแต่จะเฟื่องฟู เพิ่มขึ้นทั้งเม็ดเงินกับประเทศที่เข้าร่วม ล่าสุดภายใต้ BRI 2 ประเทศทำโครงการร่วมเกือบ 40 โครงการแล้ว หลายโครงการใช้เงินกู้เงินช่วยเหลือจากจีน ตั้งแต่การป้องกันโรคระบาด บรรเทาภัยพิบัติ ก่อสร้างสาธารณูปโภค การเกษตร ฯลฯ และอนาคตจะเพิ่มอีกหลายโครงการ

            ความจริงที่ลบล้างไม่ได้คือจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของฟิลิปปินส์และเป็นคู่ค้าที่มีโอกาสงามไม่ว่าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีการค้าจึงไหลลื่น จีนลงทุนในฟิลิปปินส์มากขึ้นหรือพูดอีกอย่างคือรัฐบาลฟิลิปปินส์นี่แหละเปิดทางให้จีนมาลงทุน

            ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์หวังว่านักลงทุนจีนจะเข้ามา ชาวจีนจะมาเที่ยว 2 ประเทศจะเดินหน้าโครงการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติในทะเลจีนใต้ต่อไป

จับมือจีนแต่ไม่ทิ้งสหรัฐ :

            มีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่านโยบายต่างประเทศบางเรื่องยังอยู่ฝ่ายตะวันตก เช่นฟิลิปปินส์โหวตสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันในที่ประชุมสหประชาชาติต่างจากชาติสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ

            ก่อนหน้าประชุมสุดยอดกับจีน ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวต่อแอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รมต.ต่างประเทศสหรัฐว่าฟิลิปปินส์กับสหรัฐ “มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากเพราะเป็นความสัมพันธ์พิเศษ .... และมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน” สนับสนุนที่แนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและคณะเยือนไต้หวันเมื่อต้นสิงหาคมปีก่อน จนเหตุการณ์ตึงเครียด

            ในด้านเศรษฐกิจนักวิชาการบางคนเห็นว่าฟิลิปปินส์จะเป็นประเทศแรกๆ ที่เข้าร่วมกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF)

            ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทหารเป็นส่วนที่ชัดเจนและสำคัญที่สุด ข้อตกลง Enhanced Defense Cooperation Agreement (EDCA) ทำให้ทหารสหรัฐสามารถประจำการในฟิลิปปินส์ยาวนาน อยู่ในฐานทัพหลายแห่งรวมทั้งฐานทัพอากาศ บางแห่งอยู่ที่หมู่เกาะ Mavulis กับ Fuga ทางตอนเหนือสุดใกล้ไต้หวัน รัฐบาลฟิลิปปินส์เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันประเทศ ต่อความขัดแย้งในทะเลจีนใต้

            โดยรวมแล้วการประชุมสุดยอดชี้ว่าสัมพันธ์ฟิลิปปินส์-จีนภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ใช่หลักฐานว่ามาร์กอส จูเนียร์ทิ้งสหรัฐ ฟิลิปปินส์ยังคงมีสัมพันธ์เก่าแก่ เป็นพันธมิตรเก่าแก่ เพียงแต่รัฐบาลสหรัฐไม่อาจแทรกแซงข้อพิพาททะเลจีนใต้โดยยืมมือรัฐบาลมาร์กอส จูเนียร์

            รวมความแล้วรัฐบาลมาร์กอส จูเนียร์ต้องการเป็นมิตรที่ดีทั้งต่อจีนและอเมริกา

ทิศทางอาเซียน :

            ต้นเดือนกันยายน 2022 ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์กล่าวว่าตนกับผู้นำอินโดนีเซียมีความเห็นร่วมกันว่าอาเซียนเป็น “ตัวสร้างสันติภาพ” โดยเฉพาะในยามที่สถานการณ์ภูมิภาคอ่อนไหว สิ่งที่อาเซียนต้องการคือสันติภาพในหมู่ชาติสมาชิก

            การแข่งขันช่วงชิงระหว่างมหาอำนาจเป็นเรื่องเกิดขึ้นอยู่เสมอ หาก 10 ชาติอาเซียนสามัคคีเป็นหนึ่งไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ เมื่อนั้นโอกาสที่ภูมิภาคจะสงบสุขย่อยมีมาก แต่ต้องระวังนักการเมืองบางคนบางกลุ่ม บางสื่อที่พยายามเคลื่อนไหวให้อิงมหาอำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยูเครนเป็นตัวอย่างล่าสุดที่ประเทศเข้าสู่สถานการณ์เลวร้ายไม่อาจแก้ไขให้เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะมีผู้นำแปลกๆ อย่างเซเลนสกี

            สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศมีระบอบการปกครองหลากหลาย มีบริบทต่างกัน ภาพรวมอาเซียนจึงผันแปรไปตามสมาชิก ฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่างประเทศที่เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนนโยบายอาจเปลี่ยนตาม บัดนี้รัฐบาลมาร์กอส จูเนียร์ประกาศจะเป็นมิตรที่ดีกับจีน เป็นอีกปัจจัยที่ชี้ว่าภาพรวมอาเซียนใกล้ชิดเป็นมิตรกับจีนทางเศรษฐกิจต่อไป โดยไม่ทิ้งสหรัฐที่บางประเทศมีฐานะเป็นพันธมิตรเก่าแก่ มีสนธิสัญญาข้อตกลงด้านความมั่นคง อาเซียนขออยู่ร่วมกับมหาอำนาจอย่างสันติ

หวังการพัฒนามากกว่าความตึงเครียด :

            นโยบายแม่บทของจีนประกาศชัดต้องการพัฒนาประเทศ ต้องการทำมาค้าขายกับนานาชาติ การทำการค้าให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขย่อมดีกว่าทำสงคราม เป้าหมายนี้ไม่สำเร็จหากจีนทำสงครามหรือขัดแย้งรุนแรงกับเพื่อนบ้าน คำถามคือหากมีประเด็นขัดแย้งที่แก้ไม่ตกจะทำอย่างไร ความขัดแย้งเรื่องอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ที่ต่างฝ่ายต่างถอยไม่ได้ (จะมีรัฐบาลไหนที่ยอมสูญเสียดินแดน สูญเสียอธิปไตยให้อีกประเทศ) ทางออกคือแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เน้นพัฒนามากกว่าเผชิญหน้า

            ณ วันนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังสามารถบริหารจัดการ 2 มหาอำนาจได้ดี คำถามคือจะทำเช่นนี้ได้ตลอดไปหรือไม่ หากรัฐบาลสหรัฐในอนาคตเรียกร้องให้เลือกข้าง ต้องการตั้งฐานทัพที่นี่ ประจำการกองทัพขนาดใหญ่ สถานการณ์ไต้หวันเข้าสู่จุดเดือด

            ย้อนหลังความสัมพันธ์ฟิลิปปินส์-จีนคือสัมพันธ์ที่ปรับเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ ไม่อาจปฏิเสธว่าบางรัฐบาลอิงสหรัฐ บางรัฐบาลเข้าหาจีนรัสเซียมากขึ้น รวมความแล้วรัฐบาลล่าสุดหวังเป็นมิตรกับทุกมหาอำนาจ ขอบริหารจัดการความสัมพันธ์กับชาติมหาอำนาจทั้งหมด

15 มกราคม 2023
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 27 ฉบับที่ 9559 วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2566)

-----------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 
สหรัฐฯ หวังติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้และไทย เป้าหมายหลักคือต่อต้านจีน อเมริกาครองความเป็นเจ้าในอินโด-แปซิฟิก
นับตั้งแต่ข้อพิพาททะเลจีนใต้กลายเป็นประเด็นสำคัญ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยึดหลักสันติวิธีเรื่อยมา แม้บางช่วงจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวบ้าง เห็นความแตกแยกในอาเซียนบ้าง ความสัมพันธ์ทวิภาคีฟิลิปปินส์-จีนมีมากกว่าเรื่องทะเลจีนใต้ ทุกฝ่ายระวังที่จะไม่ให้ความขัดแย้งบานปลาย อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งยังคงอยู่ จีนยังรุกคืบแสดงความเป็นเจ้าของอย่างต่อเนื่อง
ในยุคประธานาธิบดีอากีโนที่ 3 รัฐบาลยึดว่าพื้นที่พิพาทสการ์โบโรห์เป็นของฟิลิปปินส์ ดังนั้น ต้องปกป้องอธิปไตย มิฉะนั้นอาจเสียดินแดนมากกว่านี้ จึงดำเนินนโยบายใกล้ชิดสหรัฐ ผลคือจีนคว่ำบาตรเศรษฐกิจฟิลิปปินส์บางอย่าง เมื่อมาถึงสมัยประธานาธิบดีดูเตร์เต รัฐบาลใช้หลักคิดใหม่ เห็นว่าไม่ควรอยู่ท่ามกลางการเผชิญหน้าของ 2 มหาอำนาจ การเจรจากับจีนน่าจะให้ผลประโยชน์เศรษฐกิจที่จับต้องได้มากกว่า สัมพันธ์ทวิภาคีกับจีนจึงดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ต้องเผชิญหน้าด้วยเรื่องอธิปไตยที่ต่างยอมให้กันไม่ได้อีกต่อไป
บรรณานุกรม :

1. Bongbong Marcos: Asean will champion peace in troubled times. (2022, September 5). inquirerdotnet. Retrieved from https://globalnation.inquirer.net/206463/bongbong-marcos-asean-will-be-lead-agent-of-peace-during-difficult-times

2. China, Philippines cement ties in new year. (2023, January 5). Xinhua. Retrieved from http://eng.chinamil.com.cn/view/2023-01/05/content_10210008.htm

3. China, Philippines to manage South China Sea differences peacefully. (2023, January 5). Kyodo News. Retrieved from https://english.kyodonews.net/news/2023/01/402db48925d4-china-philippines-to-manage-s-china-sea-differences-peacefully.html

4. China-Philippines ties enter ‘new golden age,’ cooperation to be greatly enhanced. (2023, January 5). Global Times. Retrieved from https://www.globaltimes.cn/page/202301/1283214.shtml

5. Marcos Jr looks to China for money, US for muscle. (2022, November 1). Asia Times. Retrieved from https://asiatimes.com/2022/11/marcos-jr-looks-to-china-for-money-us-for-muscle/

6. Marcos Jr reboots Duterte’s foreign policy. (2022, July 6). Asia Times. Retrieved from https://asiatimes.com/2022/07/marcos-appointments-risk-ructions-with-the-dutertes/

7. Marcos’ visit makes China-Philippines ‘tension’ collapse on itself: Global Times editorial. (2023, January 5). Global Times. Retrieved from https://www.globaltimes.cn/page/202301/1283154.shtml

8. This Asian country is strategically critical to both China and the US. Who will it choose? (2023, January 6). RT. Retrieved from https://www.rt.com/news/569437-philippines-china-us-relations/

9. The White House. (2022, October 11). National Security Strategy 2022. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2022/10/Biden-Harris-Administrations-National-Security-Strategy-10.2022.pdf

10. US, Philippines flex alliance in heat of Taiwan crisis. (2022, August 8). Asia Times. Retrieved from https://asiatimes.com/2022/08/us-philippines-flex-alliance-in-heat-of-taiwan-crisis/

-----------------------