6 เดือนสมรภูมิยูเครนสงครามดำเนินต่อไป

ยูเครนเป็นแค่เหยื่อเพื่อนำสู่การต่อสู้ระหว่างขั้วสหรัฐกับรัสเซีย ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐคือมุ่งทำลายเศรษฐกิจสังคมรัสเซีย ตอกย้ำการแบ่งขั้ว

        กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ นาโตยืนยันไม่ให้ทหารของตนปะทะกับทหารรัสเซีย เป็นจุดยืนที่ประกาศตั้งแต่ก่อนสงครามว่าสมรภูมินี้จะเป็นการปะทะระหว่างกองทัพยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น 6 เดือนให้หลังหลักฐานเชิงประจักษ์ชี้ว่ารัสเซียค่อยๆ รุกคืบกินพื้นที่ทางภาคตะวันออกกับภาคใต้ ทั้งกองทัพรัสเซียกับยูเครนต่างสูญเสียไม่น้อย แต่ไม่อาจสรุปว่าสูญเสียเท่าใดเนื่องจากข้อมูลขัดแย้งกัน

สงครามยืดเยื้อต่อไป :

       ประการแรก การต่อสู้ระหว่างนาโตกับรัสเซีย

        นาโตให้ความช่วยเหลือด้านการทหาร เศรษฐกิจและอื่นๆ อาวุธของยูเครนจึงถูกเติมเข้ามาเป็นระยะๆ ต้นเดือนสิงหาคมกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่าให้ความช่วยเหลือกองทัพยูเครนมูลค่ารวม 10,000 ล้านดอลลาร์แล้ว รัฐบาลไบเดนยืนยันให้ความช่วยเหลือต่อไป ดังนั้น สงครามยูเครนไม่ใช่เรื่องของยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น เป็นการขับเคี่ยวระหว่างนาโตกับรัสเซีย

       ประการที่ 2 สงครามเศรษฐกิจ

        เป้าหมายที่ฝ่ายสหรัฐวางไว้แต่แรกคือปิดล้อมรัสเซียทางเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ คว่ำบาตรการทำธุรกรรมการเงินกับรัสเซีย เป็นเหตุผลที่สมาชิกอียูหลายประเทศต้องทยอยลดเลิกนำเข้าพลังงานฟอสซิล (น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน) และมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหลายอย่าง

        รัสเซียได้รับผลกระทบไม่น้อยถึงขั้นเศรษฐกิจถดถอย สำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซีย (Rosstat) ประเมินว่า GDP ไตรมาส 2 ปีนี้จะหดตัว 4% ยอดค้าส่งลดลง 15.3% ยอดค้าปลีกลดลง 9.8% ค่าเงินรูเบิล อัตราดอกเบี้ยปั่นป่วนอยู่พักใหญ่ การส่งออกพลังงานฟอสซิสมีปัญหา ทหารบาดเจ็บล้มตาย ใช้จ่ายงบกลาโหมมหาศาล

        อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจรัสเซียที่สั่นสะเทือนช่วงแรกกลับมาตั้งตัวได้ พยายามหาตลาดส่งออกพลังงาน มีข่าวว่าจีน ตุรเคีย อินเดียนำเข้าพลังงานรัสเซียเพิ่มขึ้นมาก ปลายเดือนกรกฎาคมดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 9.5% จากจุดสูงสุดที่ 20%

โหมกระพือสงครามเย็น :

        สงครามยูเครนมองได้หลายกรอบ ทั้งใหญ่กับเล็ก กรอบใหญ่สุดคือโหมกระแสสงครามเย็นใหม่ เป็นการต่อสู้ระหว่างขั้ว การต่อต้านรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรทางการเมืองเศรษฐกิจดังที่เป็นอยู่สำคัญกว่าความเป็นไปของประเทศยูเครน ส่งผลระดับโลก ข้อมูลในอดีตชี้ชัดว่า รัฐบาลสหรัฐแทบทุกชุดจะทำเช่นนี้คือกระชับความเป็นขั้ว ให้ทุกประเทศเลือกข้างว่าจะอยู่ฝ่ายใด

        หลังเหตุวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อ 11 กันยา 2011 รัฐบาลสหรัฐสมัยนั้นประกาศให้นานาชาติเลือกข้างว่าจะร่วมต่อต้านก่อการร้ายหรือไม่ ประเทศใดไม่ช่วยต่อต้านก่อการร้ายคือศัตรูของอเมริกา การล้มรัฐบาลซัดดัมคือการเลือกข้างว่าจะอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยหรือเผด็จการซัดดัม กรณียูเครนตอกย้ำการเลือกข้างระหว่างฝ่ายเสรีประชาธิปไตยกับรัสเซีย รัฐบาลตะวันตกมักจะใช้คำว่าสงครามนี้คือสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตย เป็นวิธีการรักษาความเป็นมหาอำนาจของรัฐบาลสหรัฐ

คาดการณ์อนาคต :

       ประการแรก สงครามดำเนินต่อไป

        หลังกองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนไม่นาน รัฐบาลยูเครนร้องขอเจรจา ปลายเดือนมีนาคมมีความหวังว่าน่าจะตกลงกันได้ มีร่างข้อสรุปเรื่องประกันความมั่นคงของยูเครนโดยจะทำเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ มีผู้ค้ำประกันหลายชาติ เช่น อังกฤษ จีน สหรัฐ ตุรเคีย ฝรั่งเศส ให้มีผลบังคับใช้จริงเมื่อยูเครนผ่านประชามติเรื่องดังกล่าว และรัฐสภาของทั้ง 2 ประเทศรับรอง ส่วนประเด็นสถานะของไครเมีย สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (Donetsk People's Republic) กับสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ (Luhansk People's Republic) จะต้องหารือต่อไป ความเป็นกลางของยูเครนยังรวมถึงไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เป็นที่ตั้งฐานทัพของต่างชาติ ไม่เข้ากลุ่มร่วมมือทางทหารกับกลุ่มใดๆ

        แต่แล้วการเจรจาที่คืบหน้าดูเหมือนได้ข้อสรุปก็หยุดชะงักเมื่อรัฐบาลเซเลนสกีต้องการให้กองทัพรัสเซียถอนตัวกลับทั้งหมดก่อนจึงจะทำประชามติ รัฐบาลปูตินไม่ยอมรับข้อเสนอนี้

       ประการที่ 2 เป้าหมายรัสเซียเปลี่ยนไป

        เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่ารัสเซียประกาศมานานแล้วว่ายูเครนต้องไม่เป็นสมาชิกนาโต ถือว่าเป็นเส้นต้องห้าม (redline) เป็นยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของรัสเซียที่จะมีแนวรัฐกันชน (buffer state) กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนเพราะยูเครนไม่ยอมถอนนโยบายเป็นสมาชิกนาโต หลังการเจรจาเดือนมีนาคมล้มเหลวกองทัพรัสเซียรุกคืบกินดินแดนต่อไปอย่างช้าๆ และขยายไปทางทิศใต้ที่ติดทะเล มีแนวโน้มว่าอาจผนวกพื้นที่เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเหมือนกรณีไครเมีย ยูเครนจะไม่เหลือพื้นที่ติดทะเลอีกต่อไป

       ประการที่ 3 ยูเครนเหยื่อที่ถูกทำลาย

        ดังที่เคยนำเสนอในบทความก่อนว่าทั้งฝ่ายสหรัฐกับรัสเซียต่างได้ประโยชน์จากสงครามนี้ ยูเครนกลายเป็นประเทศที่ถูกทำลาย

        ณ วันนี้ไม่ทราบชัดว่าทหารกับประชาชนยูเครนบาดเจ็บเสียชีวิตกี่หมื่นกี่แสนราย ที่แน่ๆ คือชาวยูเครนกว่า 10 ล้านคนอพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศนาน 6 เดือนแล้วและยังไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับบ้าน ชีวิตคนยูเครนหลายสิบล้านไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ประเทศยูเครนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รวมทั้งอนาคตของประเทศที่อาจไม่ขึ้นกับการตัดสินใจของคนยูเครนอีกแล้ว

        สิ่งที่ยูเครนสูญเสียไม่อาจหวนกลับ ไม่เหมือนเกมที่กดปุ่มเล่นใหม่ได้อีก เหตุเพราะมีผู้นำแปลกๆ อย่างประธานาธิบดีเซเลนสกีที่ตัดสินใจทำสงครามกับรัสเซีย เป็นเรื่องแปลกที่ยูเครนกล้าทำสงครามเพียงลำพังกับมหาอำนาจทางทหารรัสเซีย ยิ่งสงครามยืดเยื้อเพียงไรยูเครนก็ยิ่งพังพินาศมากแค่นั้น มีข้อสังเกตว่าการรบเกือบทั้งหมดจำกัดในพื้นที่ประเทศยูเครนเท่านั้น ขีปนาวุธนับร้อยนับพัน ระเบิด กระสุนตกในพื้นที่ยูเครน หากรัฐบาลยูเครนตัดสินใจตั้งแต่ต้นประกาศไม่เข้าร่วมนาโตเรื่องก็จะไม่เป็นเช่นนี้

        ในระยะหลังประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่าสงครามนี้เกิดขึ้นเพราะรัสเซียยึดไครเมียเมื่อ 2014 ยูเครนต้องนำไครเมียกลับมาเป็นของตน เงื่อนไขนี้ยิ่งทำให้สงครามไม่จบง่ายๆ

สงครามจบเมื่อไหร่ :

        หลังสงครามผ่านไปไม่กี่เดือนรัฐบาลเซเลนสกีร้องหาขอความช่วยเหลือด้านอาวุธ งบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ จากชาติตะวันตก อาวุธเครื่องกระสุนจากหลายประเทศทยอยส่งเข้ายูเครน การรบทุกวันนี้จึงขึ้นกับกำลังบำรุงจากต่างชาติโดยแท้ ตราบใดที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกยังส่งความช่วยแก่ยูเครน สงครามน่าจะดำเนินต่อไป ดังนั้นสงครามจะจบหรือไม่จึงขึ้นกับการตัดสินใจของนาโต โดยเฉพาะรัฐบาลไบเดน แม้ฝ่ายสหรัฐมีแรงกดดันจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจไม่น้อย แต่เนื่องจากเศรษฐกิจอเมริกาแข็งแรงจึงยังทนได้ เป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีไบเดนจะยืดการรบไปถึงหลังเลือกตั้งกลางเทอมในช่วงต้นพฤศจิกายนนี้ เพราะพรรคเดโมแครท (พรรคไบเดน) ไม่อยากถูกพรรครีพับลิกันตีตราว่าแพ้รัสเซีย ต้องรักษาจำนวน ส.ส. ส.ว. ในสภาให้มากที่สุด (และเป็นไปได้ว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียยังไม่ได้ข้อยุติ) รอพ้นเลือกตั้งกลางเทอมค่อยมาพิจารณาอีกรอบ ทั้งนี้ยุทธศาสตร์แม่บทของสหรัฐยังดำเนินต่อไปคือปิดล้อมจีนกับรัสเซีย โหมกระแสสงครามเย็นใหม่

        อย่างไรก็ตามน่าติดตามว่านานาชาติจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะตอนนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นมากทั้งจากราคาพลังงานกับอาหาร อันเป็นผลจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ภัยแล้งปีนี้ที่รุนแรงกว่าปกติ การแข่งขันช่วงชิงระหว่างมหาอำนาจกำลังก่อความทุกข์ยากแก่ประชากรโลกนับพันล้าน คนยากคนจนคือพวกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทุกวันนี้ 811 ล้านคนอดอยากเพราะยากจนหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะหาอาหารมาเลี้ยงปากท้อง

        ข่าวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อกลางเดือนสิงหาคมด้วยแรงกดดันจากองค์การสหประชาชาติ ซึ่งหมายถึงนานาชาติร่วมมือร่วมใจเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐกับพวกเปิดทางให้สามารถซื้อขายสินค้าเกษตรของรัสเซีย ผลคือธนาคารยุโรปบางแห่งยอมรับการชำระเงินเพื่อซื้อขายอาหารกับปุ๋ยของรัสเซียแล้ว รัฐบาลสหรัฐยอมให้ซื้อขายสินค้าเกษตรกับเวชภัณฑ์ เรื่องนี้ลดแรงกดดันอาหารแพง

        โดยสรุปแล้ว ยูเครนเป็นแค่เหยื่อเพื่อนำสู่การต่อสู้ระหว่างขั้วสหรัฐกับรัสเซีย ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐหวังว่าถ้าเศรษฐกิจรัสเซียพังจะทำให้คะแนนนิยมปูตินตกต่ำ นำสู่การเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ขั้วการเมืองใหม่ พร้อมกับโหมกระแสสงครามเย็นใหม่ กระตุ้นให้นานาประเทศเลือกข้าง ท้ายที่สุดแล้วแรงกดดันจากนานาชาติจะส่งผลต่อสงครามยูเครนอย่างไร ความเป็นไปของยูเครนเชื่อมโยงคนทั้งโลก

28 สิงหาคม 2022
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 26 ฉบับที่ 9419 วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2565)

--------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 
การศึกในยูเครนไม่ใช่เรื่องที่อยากเลิกก็เลิกได้ทันที เพราะสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญยิ่งกว่าความเป็นไปของยูเครนที่มหาอำนาจไม่อาจสูญเสีย
เมื่อต้นเหตุเงินเฟ้อมาจากการคว่ำบาตรน้ำมันก๊าซธรรมชาติรัสเซีย วิธีแก้คือระงับหรือชะลอคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียออกไปก่อน ปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐกับเงินเฟ้อโลกจะลดลง เศรษฐกิจฟื้นตัวทันที

บรรณานุกรม :

1. Russia slashes key interest rate by 150 basis points in shock move. (2022, July 22). Bloomberg. Retrieved from https://www.cnbc.com/2022/07/22/russia-slashes-key-interest-rate-by-150-basis-points-in-shock-move.html

2. Russia’s economy gets boost from wartime grain shipments. (2022, August 15). AP. Retrieved from https://apnews.com/article/russia-ukraine-middle-east-africa-global-trade-2ab926262e914e70d2abf6ca0c319f5f

3. Russia’s GDP down 4% in Q2 2022 — statistics. (2022, August 12). TASS. Retrieved from https://tass.com/economy/1492979

4. Russia’s war in Ukraine started 6 months ago — and there appears to be no end in sight. (2022, August 24). CNBC. Retrieved from https://www.cnbc.com/2022/08/24/russias-war-in-ukraine-has-gone-on-for-6-months-what-next.html

5. Ukraine ready to accept neutral, non-nuclear status. (2022, March 29). Pravda. Retrieved from https://english.pravda.ru/news/world/150894-russia_ukraine_talks/

6. Ukraine's Zelensky questions UN Security Council's mandate in speech on alleged Russian atrocities. (2022, April 5). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2022/04/05/world/zelensky-ukraine-united-nations-speech-intl/

7. U.S. authorizes largest-yet military package to Ukraine. (2022, August 8). Politico. Retrieved from https://www.politico.com/news/2022/08/08/largest-military-package-ukraine-00050368

-----------------------