20 ปีสงครามอัฟกานิสถาน ความล้มเหลวของสหรัฐ

20 ปีที่สหรัฐกับพวกทำสงครามในอัฟกานิสถาน ทุ่มเทงบประมาณนับล้านล้านดอลลาร์ สุดท้ายประวัติศาสตร์หน้านี้อาจเขียนว่าพวกตาลีบันต่อต้านต่างชาติอย่างทรหดถึง 20 ปีจนได้ชัยชนะ

            มีผู้วิพากษ์ทั้งความสำเร็จและล้มเหลวของสหรัฐต่อสงครามอัฟกานิสถาน ในที่นี้จะนำเสนอมุมมองความล้มเหลว ดังนี้

          ประการแรก ตาลีบันครองกรุงคาบูลจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

            ย้อนหลังเมื่อสหรัฐกับพวกบุกอัฟกานิสถาน ธันวาคม 2001 Mullah Omar ผู้นำตาลีบันกับกองกำลังที่เหลือยอมแพ้ ยุติช่วงตาลีบันปกครองอัฟกานิสถาน 1996-2001 สหรัฐสามารถตั้งรัฐบาลปกครองกรุงคาบูล แต่เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านี้ เป็นจุดเริ่มของสงครามยืดเยื้อ 20 ปี และสุดท้ายตาลีบันกลับมาเป็นฝ่ายชนะ เนื้อหาประวัติศาสตร์หน้านี้อาจเขียนว่าพวกตาลีบันต่อต้านต่างชาติอย่างทรหดถึง 20 ปีจนได้ชัยชนะ คล้ายกับเวียดนามที่ต่อต้านฝรั่งเศส สหรัฐ

          ประการที่ 2 กองทัพรัฐบาลอัฟกันไม่ยอมรบ

            หัวข้อที่เอ่ยถึงกันมากคือทำไมทหารตำรวจของรัฐบาลประชาธิปไตยไม่รบหรือแทบไม่สู้เลย เรื่องนี้อาจอธิบายได้ว่าเป็นจุดอ่อนร้ายแรงและรับรู้นานแล้วนั่นคือ รัฐบาลประชาธิปไตยอัฟกันไม่สามารถสร้างกองทัพที่เข้มแข็งและยืนด้วยขาตนเอง

            ประธานาธิบดีโอบามากล่าวเมื่อพฤษภาคม 2014 ว่านโยบายต่อจากนี้คือ “ขจัดภัยคุกคามจากอัลกออิดะห์ สนับสนุนกองกำลังรักษาความมั่นคงของอัฟกานิสถาน และช่วยให้ชาวอัฟกันได้โอกาสที่จะยืนด้วยลำแข้งของตนเอง”

            ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไปกองทัพสหรัฐจะไม่ปฏิบัติภารกิจสู้รบ (combat mission) อีกต่อไป ซึ่งหมายถึงทหารสหรัฐจะไม่ตรวจตราสถานที่ต่างๆ ให้เป็นบทบาทของทหารอัฟกันโดยสมบูรณ์ บทบาทของกองทัพสหรัฐจะอยู่ใน 2 ภารกิจ คือ “ฝึกฝนกองกำลังอัฟกันและสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายอัลกออิดะห์” สังเกตว่าเรื่องของตาลีบันอยู่ในของความรับผิดชอบทหารรัฐบาลอัฟกันแล้ว

            นับจากปี 2009 ทหารสัมพันธมิตรเริ่มฝึกทหารตำรวจอัฟกัน จำนวนทหารตำรวจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 4 หมื่นนายเป็น 350,000 นาย มีข้อมูลว่าสหรัฐใช้งบประมาณถึง 83,000-145,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างและพัฒนากองกำลังดังกล่าว ตัวเลข 3 แสนนายไม่นับว่าน้อยแต่ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าความจริงแล้วมีน้อยกว่านั้นมาก เป็นบัญชีปลอมที่มีแต่ชื่อแต่ไม่มีตัวตน เหตุเนื่องจากการทุจริตคอร์รัปชัน

            ปี 2020 Transparency International จัดให้อัฟกานิสถานเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่คอร์รัปชันมากที่สุด การทุจริตพบมากในหมู่นักการเมือง เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ บางคนรับสินบนและไม่สนใจปราบปรามอาชญากร บ่อยครั้งที่หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจและยังคงขูดรีดประชาชนที่ตนดูแล

            กองทัพที่มากถึง 3 แสนจึงไม่ใช่ของจริง ไร้ประสิทธิภาพ

            เรื่องพึ่งพาเงินต่างชาติคืออีกปัจจัยสำคัญ ข้อมูลปี 2014 ระบุว่ารัฐบาลอัฟกันจัดเก็บภาษีได้เพียง 1,700 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่เฉพาะงบกลาโหมต้องใช้ถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี นาย Mark Sedra จาก University of Waterloo in Ontario กล่าวว่าสหรัฐกับชาตินาโตเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณกลาโหมแก่รัฐบาลอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะสหรัฐจะต้องจัดสรรให้เงิน 4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี เนื่องจากรัฐบาลอัฟกานิสถานขาดแคลนรายได้
            เกิดคำถามว่าสหรัฐจะต้องให้เงินอุดหนุนงบกลาโหมอัฟกานิสถานอีกกี่ปี ซ้ำร้ายกว่านั้นคือต้องรวมงบประมาณของทหารอเมริกันในประเทศนี้ด้วย คุ้มค่าหรือไม่

            Brown University ประเมินว่าในเวลา 20 ปีสหรัฐใช้เงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์กับประเทศนี้ (เฉลี่ยวันละ 300 ล้านดอลลาร์) ประธานาธิบดีไบเดนยอมรับว่าน่าจะนำเงินเหล่านี้ไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ไม่อาจทนแบกรับภาระนี้อีกต่อไป

            การที่สหรัฐหยุดหรือลดการสนับสนุนกำลังทางอากาศเป็นอีกเหตุผลที่น่าเชื่อว่าทำให้กองทัพรัฐบาลอัฟกันไม่คิดจะรบ เพราะที่ผ่านมาพวกเขารบภายใต้การสนับสนุนของหน่วยข่าว กำลังทางอากาศของอเมริกัน

            อันที่จริงแล้ว ฝ่ายข่าวสหรัฐรับรู้เรื่องที่กองทัพอัฟกันไม่มีใจรบมานานแล้ว รัฐบาลสหรัฐประเมินได้ว่าหากตนถอนทัพ ตาลีบันจะเข้ามาแทนที่รัฐบาลประชาธิปไตยแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้น

            บัดนี้กลายเป็นพวกตาลีบันได้อาวุธจำนวนมาก ตั้งแต่ปืนไรเฟิล M4 กับ M18 และปืนสุ่มยิง M24 ปืนใหญ่ มีข้อมูลว่าไม่กี่ปีมานี้สหรัฐมอบรถฮัมวี่แก่อัฟกานิสถานถึง 4,700 คัน ไม่นับเครื่องกระสุนอีกนับไม่ถ้วน ให้ตาลีบันใช้ฟรีได้อีกนาน ที่น่ากังวลคืออาวุธเหล่านี้จะถึงมือกลุ่มก่อการร้ายหรือไม่ เป็นไปได้มากว่าอาวุธบางส่วนจะถูกประเทศต่างๆ ซื้อไป

            ในอนาคตคงมีข้อมูลเพิ่มว่าทำไมกองทัพรัฐบาลไม่ยอมสู้ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง

          ประการที่ 3 การสร้างรัฐประชาธิปไตยล้มเหลว

            ในอดีตรัฐบาลสหรัฐสามารถสร้างรัฐประชาธิปไตยในหลายประเทศ เยอรมันตะวันตก (ในขณะนั้น) กับญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชม สามารถเปลี่ยนนาซีกับพวกนิยมลัทธิทหารของญี่ปุ่น สร้างประชาธิปไตยเกาหลีใต้ ไต้หวัน แต่มาล้มเหลวในอัฟกานิสถานอย่างเหลือเชื่อ

            โจเซฟ ฟอนเทลส์ (Josep Fontelles) หัวหน้าฝ่ายการต่างประเทศอียู ยอมรับว่าการทำให้อัฟกานิสถานเป็นรัฐสมัยใหม่ (รัฐประชาธิปไตย) ล้มเหลว แม้กระทั่งตาลีบันอาจยังงงว่าทำไมชนะง่ายดายเช่นนี้ หนึ่งบทเรียนที่สำคัญคือกองทัพอัฟกันสลายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่คิดต่อต้านตาลีบันเลย

            อาจวิพากษ์ว่าประชาธิปไตยอัฟกานิสถานล่มสลายเป็นผลพวงเมื่อตาลีบันกลับเข้ามาครองอำนาจ ในอีกด้านหนึ่งที่น่าคิดคือ 20 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างชาวอัฟกันที่มีใจประชาธิปไตยสักกี่คน ถ้ามีชาวอัฟกันผู้รักประชาธิปไตยมากพอ รัฐบาลอัฟกันคงไม่แพ้ง่ายๆ แท้จริงแล้วในขณะที่บางคนอาจคิดว่าประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ยอมรับเช่นนี้ บางคนแสวงหาแนวทางที่ดีกว่า

          ประการที่ 4 ภาพลักษณ์มหาอำนาจเสื่อมเสีย

            ไม่ว่าความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐลดลงจริงหรือไม่ หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ความเสื่อมถอยของสหรัฐ ตีความว่าเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือไม่ได้ เป็นอีกเหตุการณ์ที่ทับถมการถดถอยของประเทศนี้

            พันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตยเอเชียหลายประเทศกลับสู่คำถามเดิมอีกครั้งว่า พึ่งหวังการปกป้องคุ้มครองจากรัฐบาลสหรัฐได้มากน้อยเพียงไร วันหนึ่งอเมริกาจะถอนการปกป้องหรือไม่ พันธมิตรนาโตฝั่งยุโรปเอ่ยเรื่องการพึ่งตนเองด้านความมั่นคงทางทหารอีกรอบ

            บางคนตีความในแง่ศาสนาว่าฝ่ายมุสลิมสุดโต่งได้ชัย ทำให้มุสลิมทั่วโลกที่ต่อต้านตะวันตกฮึกเหิม

วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :

            การที่กองทัพรัฐบาลประชาธิปไตยอัฟกันไม่ยอมสู้ทำให้ภาพลักษณ์สหรัฐเสียหายโดยเฉพาะการสูญเสียกรุงคาบูล หากยอมรบต่อต้านตาลีบันไม่ให้เข้าเมืองพื้นที่สำคัญ การรบยืดเยื้อ เช่นนี้สถานการณ์อาจพลิกผัน เช่น สหรัฐอาจให้อาวุธเพิ่ม สนับสนุนข้อมูลการข่าว และอาจเกิดรัฐบาลใหม่ที่รวมฝ่ายอัฟกันประชาธิปไตยกับตาลีบัน หรือเจรจาสันติภาพที่ต่างคนต่างอยู่ การที่ตาลีบันยึดกรุงคาบูลง่ายๆ ทำให้ตาลีบันได้เปรียบชิงสถาปนารัฐอิสลาม ตั้งรัฐบาลที่ผู้นำของตนเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ ที่เหลือเป็นการบริหารจัดสรรอำนาจให้กับกลุ่มต่างๆ

            20 ปีหลังตาลีบันสูญเสียกรุงคาบูลให้ฝ่ายอเมริกา บัดนี้กลับคืนมาเป็นของตาลีบันอีกครั้ง อาจตีความว่า หลังสงครามยืดเยื้อ 20 ปีสหรัฐกับพวกสูญเสียชีวิตทหารหลายพัน สหรัฐใช้เงินนับล้านล้านดอลลาร์ ท้ายที่สุดคือตาลีบันกลับมาครองประเทศอีกครั้ง

            เกิดคำถามตามมาอีกมากว่าการตัดสินใจเข้าทำสงครามอัฟกานิสถานถูกหรือผิด เพื่อที่จะปราบอัลกออิดะห์จำต้องส่งกองทัพนับแสนเข้าประเทศนี้หรือไม่ อะไรคือเป้าหมายของรัฐบาลสมัยนั้น อะไรคือยุทธศาสตร์แม่บทของสหรัฐต่อภูมิภาคนี้และต่อโลก สิ่งที่ได้คุ้มกับสิ่งที่เสียหรือไม่ ผู้ที่ควรใคร่ครวญและหาคำตอบมากที่สุดคือพลเมืองอเมริกัน

12 กันยายน 2021
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 25 ฉบับที่ 9070 วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2564)

-----------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 
กองทัพถอนตัวหลังเสร็จศึกเป็นเรื่องปกติ อัฟกานิสถานคือพื้นที่สมรภูมิเพื่อรักษาหรือแสดงความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐ เป้าหมายสำคัญคือสหรัฐยังคงเป็นความเป็นมหาอำนาจของตน
ความเป็นไปของอัฟกานิสถานชี้ชัดว่ารัฐบาลประชาธิปไตยอยู่ได้เพราะกองทัพกับเงินดอลลาร์ของอเมริกัน เป็นอีกครั้งที่ประชาธิปไตยอเมริกันพ่ายแพ้แก่ระบอบการปกครองอื่น

บรรณานุกรม :

1. 6 lies Joe Biden told about Afghanistan. (2021, September 1). New York Post. Retrieved from https://nypost.com/2021/09/01/6-lies-president-joe-biden-told-about-afghanistan/

2. Afghan failure haunts Washington as Biden stalls troop withdrawal. (2021, August 19). Daily Sabah. Retrieved from https://www.dailysabah.com/world/asia-pacific/afghan-failure-haunts-washington-as-biden-stalls-troop-withdrawal

3. Afghan mission far from ending. (2013, July 23). Asia Times. Retrieved from http://www.atimes.com/atimes/South_Asia/SOU-01-230713.html

4. Afghanistan collapsed because corruption had hollowed out the state. (2021, August 30). The Guardian. Retrieved from https://www.theguardian.com/commentisfree/2021/aug/30/afghanistan-us-corruption-taliban

5. EU foreign policy chief: Taliban ‘WON THE WAR,’ we’ll have to talk to them – and acknowledge mistakes. (2021, August 17). RT. Retrieved from https://www.rt.com/news/532330-eu-taliban-won-war-afghanistan/

6. Interview: Karzai says 12-year Afghanistan war has left him angry at U.S. government. (2014, March 3). The Washington Post. Retrieved from http://www.washingtonpost.com/world/interview-karzai-says-12-year-afghanistan-war-has-left-him-angry-at-us-government/2014/03/02/b831671c-a21a-11e3-b865-38b254d92063_story.html

7. Statement by the President on Afghanistan. (2014, May 27). The White House. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/05/27/statement-president-afghanistan

8. Taliban’s return to power in Afghanistan is ‘moral victory of Islamism over the West’ – top Merkel ally. (2021, August 19). RT. Retrieved from https://www.rt.com/news/532501-germany-afghanistan-moral-victory/

9. The White House. (2021, August 31). Remarks by President Biden on the End of the War in Afghanistan. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/briefing-room/speeches-remarks/2021/08/31/remarks-by-president-biden-on-the-end-of-the-war-in-afghanistan/

10. Three Historical Lessons from the Afghan Moment. (2021, August 19). Pravda. Retrieved from https://english.pravda.ru/opinion/38898-afghan_moment/

--------------------------