20 ปีสงครามอัฟกานิสถาน ชัยชนะของสหรัฐ
กองทัพถอนตัวหลังเสร็จศึกเป็นเรื่องปกติ อัฟกานิสถานคือพื้นที่สมรภูมิเพื่อรักษาหรือแสดงความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐ เป้าหมายสำคัญคือสหรัฐยังคงเป็นความเป็นมหาอำนาจของตน
บทความนี้นำเสนอมุมมองในแง่การถอนทหารของสหรัฐคือชัยชนะ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ประการแรก
ตาลีบันใหม่ที่ไม่เป็นภัยคุกคามดังเช่นอดีต
กลุ่มตาลีบันประกาศชัดว่านโยบายยุคปี 2021 ของตนต่างจากเมื่อ 20 ปีก่อน
แม้จะยึดหลักศาสนา สถาปนารัฐอิสลามในนาม Islamic Emirate of Afghanistan แต่ตีกฎหมายชารีอะห์ (sharia) ต่างจากเดิม ประเด็นสิทธิสตรีเป็นกรณีตัวอย่าง
แม้ตาลีบันยังแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรต่อรัฐบาลสหรัฐ
มองว่าเป็นผู้รุกรานนักล่าอาณานิคม แต่อาจไม่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายอย่างอัลกออิดะห์ที่เป็นเป้าหมายของสหรัฐดังเช่นอดีต
ซึ่งหมายความว่าตาลีบันในปี 2021 นี้ไม่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากเช่นอดีต
ความสำเร็จข้อนี้สำคัญที่สุดเป็นเหตุผลหลักที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกส่งกองทัพนับแสนบุกถล่มอัฟกานิสถานเมื่อ
20 ปีก่อน หลายประเทศแสดงท่าทีนี้ชัดเจน เช่น โจเซฟ ฟอนเทลส์ (Josep
Fontelles) หัวหน้าฝ่ายการต่างประเทศอียูชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับอัฟกานิสถานใหม่ขึ้นกับการตั้งรัฐบาลใหม่โดยสันติ
เคารพสิทธิมนุษยชนของชาวอัฟกันทั้งมวล ไม่เป็นที่ซ่องสุมกบดานของผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะผู้ก่อการร้ายที่มุ่งโจมตีผลประโยชน์ของชาติตะวันตกกับพันธมิตร
อัฟกานิสถานมีภูมิศาสตร์เป็นภูเขาซับซ้อน
เป็นแหล่งกบดานซ่องสุมกำลังได้เป็นอย่างดี แม้สหรัฐมีหน่วยรบพิเศษมีเทคโนโลยีสูงสามารถปราบปรามผู้ก่อการร้ายแม้อยู่ห่างไกล
แต่จะเป็นการดีกว่าประหยัดกว่าหากมีใครสักกลุ่มควบคุมพวกสุดโต่งที่เหลือ (ให้พวกสุดโต่งจัดการด้วยกันเอง
ไม่ต้องส่งกองทัพนับแสนไปรบอีก) ตาลีบันที่รัฐบาลสหรัฐเดิมเคยตีตราว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเป็นตัวเลือกที่ดี
และได้ตกลงกันแล้วว่าตาลีบันจะไม่ปล่อยให้ใครใช้ประเทศนี้เป็นแหล่งซ่องสุมผู้ก่อการร้าย
ไม่โจมตีผลประโยชน์สหรัฐ
ข้อนี้จะทำสำเร็จได้มากน้อยเพียงไรเป็นเรื่องน่าติดตาม
ประการที่
2 ปรับนโยบายเพื่อสัมพันธ์กับประชาคมโลก
ตาลีบันประกาศนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ
สัมพันธ์กับนานาชาติ เพื่อเศรษฐกิจที่ประชาชนอยู่ดีกินดี
คนอัฟกันต้องการชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ตาลีบันจะส่งเสริมการค้าการลงทุนทั่วประเทศ ข้อมูลของธนาคารโลกเมื่อปี 2019
ระบุว่างบประมาณ 75% ของรัฐบาลมาจากความช่วยเหลือของต่างชาติ
โดยเฉพาะสหรัฐ
ไม่ว่าจะเพื่อการพัฒนาประเทศหรือค่าใช้จ่ายพื้นฐานของรัฐ
ตาลีบันจะต้องปรับความสัมพันธ์กับนานาชาติ เปิดประเทศต้อนรับการค้าการลงทุน
หากเป็นเช่นนี้จริงตาลีบันจะไม่ยึดแนวทางสุดโต่งเป็นที่พอใจของนานาชาติ ทุกวันนี้บางประเทศอย่างอิหร่าน
เกาหลีเหนือ เป็นตัวอย่างที่ถูกนานาชาติกดดันปิดล้อม
ตาลีบันยุคใหม่คงเข้าใจประเด็นนี้ดีและไม่เลือกเดินตามทาง 2 ประเทศนั้น ประชาคมโลกกำลังจับตาดูอยู่
ตาลีบันที่ไม่สุดโต่งสัมพันธ์ดีกับประชาคมโลกแม้ต่างศาสนานิกายคืออีกชัยชนะของสหรัฐและโลก
ประการที่
3 การถอนทัพไม่ใช่เพราะแพ้เสมอไป
บางคนยกประวัติศาสตร์ว่ามหาอำนาจในอดีตกับปัจจุบันต่างไม่สามารถยึดครองอัฟกานิสถานถาวร
เช่น สมัยอาณาจักรเปอร์เซีย สมัยอเล็กซานเดอร์มหาราช จักรวรรดิอังกฤษ โซเวียตรัสเซียและล่าสุดคือสหรัฐ
แต่การยึดครองครอบงำต้องพิจารณาเป้าหมาย ผลประโยชน์ที่ได้คุ้มค่า
รวมทั้งบริบทอื่นๆ ด้วย
หากผลประโยชน์ที่ได้จากอาณานิคมน้อยกว่ารายจ่ายที่ต้องเสียไป
เช่นนี้ย่อมไม่ใช่การลงทุนที่ดี
20
ปีก่อนกองทัพสหรัฐกับพวกสามารถล้มรัฐบาลตีบัน ไล่ล่าพวกอัลกออิดะห์
แต่ความจริงแล้วทหารอเมริกันกับพวกยึดครองพื้นที่บางส่วนเท่านั้น
พื้นที่หลักคือเมืองหลวง เมืองสำคัญและบางพื้นที่ๆ อิทธิพลไปถึง (กับท้องถิ่นที่ต่อต้านตาลีบัน)
แม้ทหารสหรัฐกับทหารอัฟกันจะออกปฏิบัติการในบางพื้นที่เป็นระยะๆ
แต่ไม่ได้ครอบครองจริง ยิ่งในระยะหลังพื้นที่อิทธิพลลดน้อยลงเมื่อสหรัฐพยายามลดปฏิบัติการทางทหารบนภาคพื้นดิน
ปลายปี 2019 ฮามิด การ์ไซ (Hamid Karzai)
อดีตประธานาธิบดีอัฟกานิสถานกล่าวว่าทุกวันนี้พื้นที่กว่าครึ่งของประเทศยังอยู่ใต้การปกครองของพวกตาลีบัน
ถ้ายึดตามขนาดพื้นที่ ตาลีบันในวันนี้เป็นผู้ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่
เรื่องนี้เป็นอีกหลักฐานว่ารัฐบาลสหรัฐไม่คิดยึดครองอัฟกานิสถานตั้งแต่ต้น
ได้แต่เป็นฐานปฏิบัติการกวาดล้างอัลกออิดะห์ เกิดรัฐบาลประชาธิปไตย
ในช่วงสงครามดุเดือดสหรัฐกับพวกมีทหารในอัฟกานิสถานกว่าแสนนาย
เมื่อการสู้รบซาลงรัฐบาลสหรัฐเริ่มถอนทหาร
เมื่อเข้าสู่รัฐบาลโอบามาประกาศนโยบายถอนทหาร ปี 2014 เกิดข้อตกลง Bilateral
Security Agreement (BSA) สหรัฐจะคงทหารในอัฟกานิสถาน 9,800 นาย โดยจะไม่ส่งทหารราบปะทะกับศัตรูซึ่งหน้า (เช่นเดียวกับทหารนาโตอื่นๆ
ที่ประจำการอยู่)
การสังหารนายอุซามะห์
บินลาดิน หรือ โอซามา บินลาเดน (Osama Bin Laden) ผู้นำอัลกออิดะห์ ที่รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรม 9/11 เป็นอีกเหตุผลของการถอนทหาร
รัฐบาลโอบามาประกาศความสำเร็จในสงครามอัฟกานิสถาน แม้เป็นผลในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า
กุมภาพันธ์ 2020 รัฐบาลทรัมป์กับตาลีบันบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ระงับความรุนแรงระหว่างกันและเริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพ
สหรัฐจะถอนกำลังออกจากประเทศทั้งหมดภายใน 14 เดือน (ในขั้นแรกจะลดเหลือ 8,600 นายจากจำนวน 13,000 นาย)
ตาลีบันต้องไม่ปล่อยให้อัลกออิดะห์หรือกลุ่มอื่นๆ ใช้ประเทศเป็นฐานปฏิบัติการ ส่วนอนาคตของอัฟกานิสถานเป็นเรื่องที่คนอัฟกันต้องตัดสินใจเอง
หลักฐานมากมายชี้ว่าสหรัฐต้องการถอนทหารมานานแล้วและดำเนินการเรื่อยมา
ไม่คิดคงทหารเพื่อยึดครอง รัฐบาลไบเดนคือรัฐบาลที่ต่อจากบุช
โอบามาและทรัมป์ที่ทยอยถอนทหาร มาจบที่ไบเดนกินเวลาเกือบ 20 ปี การถอนทัพหลังเสร็จภารกิจเป็นเรื่องปกติทุกประเทศทำเช่นนี้
ประการที่ 4 ทำสงครามเพื่อความเป็นอภิมหาอำนาจ
ถ้ามองในกรอบกว้างกว่าอัฟกานิสถาน
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าสงครามอัฟกานิสถานเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์
“สร้างศัตรู” ตัวใหม่ของสหรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกระแสหวาดกลัวมุสลิม (Islamophobia) ที่เกิดขึ้นหลังเหตุก่อการร้ายเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อวันที่ 11 กันยา 2001
James O. Ellis III วิเคราะห์อย่างน่าสนใจว่าภัยก่อการร้าย
(เน้นให้ชัดคือผู้ก่อการร้ายมุสลิม) กลายเป็นภัยคุกคามใหม่แทนที่คอมมิวนิสต์ เหตุ
9/11 คือจุดเริ่มต้น นับจากบัดนั้นเป็นต้นมาสงครามต่อต้านก่อการร้ายกลายเป็นสงครามหลักของสหรัฐ
ในช่วงนั้น
รัฐบาลสหรัฐประกาศให้นานาชาติเลือกข้างว่าจะสนับสนุนก่อการร้ายหรือต่อต้านก่อการร้าย
เรื่องนี้เท่ากับสหรัฐกระชับความเป็นอภิมหาอำนาจของตน อัฟกานิสถานเป็นแพะที่จะต้องถูกรุกรานทำลาย
วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :
สงครามอัฟกานิสถานที่ยาวนาน 20 ปีสร้างความสูญเสียมากมาย มีข้อมูลว่าฝ่ายทหารอเมริกันเสียชีวิต
2,443 นายส่วนคนอัฟกันเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 114,000 ราย ประธานาธิบดีการ์ไซกล่าวเมื่อปี 2014 อย่างน่าคิดว่า
“ชาวอัฟกันต้องตายในสงครามที่ไม่ใช่ของเรา” การทำสงครามในอัฟกานิสถานมี
“เพื่อความมั่นคงของสหรัฐและเพื่อผลประโยชน์ของชาติตะวันตก”
คำพูดนี้น่าจะเป็นข้อสรุปที่ดี บัดนี้กองทัพสหรัฐกับพวกถอนตัวเพราะบรรลุภารกิจ ทั้งนี้ทั้งนั้น
สหรัฐไม่ได้ชนะทั้งหมด มีที่ไม่เป็นไปตามหวังเช่นกัน
เรื่องราวของอัฟกานิสถานเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเทศนี้อีก
การเป็นมหาอำนาจยังเป็นเป้าหมายหลักที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นผลประโยชน์สำคัญยิ่งของอเมริกัน
นี่คือข้อที่ต้องระลึกถึงเสมอ
----------------------
20 ปีที่สหรัฐกับพวกทำสงครามในอัฟกานิสถาน ทุ่มเทงบประมาณนับล้านล้านดอลลาร์ สุดท้ายประวัติศาสตร์หน้านี้อาจเขียนว่าพวกตาลีบันต่อต้านต่างชาติอย่างทรหดถึง 20 ปีจนได้ชัยชนะ
1. Afghanistan’s Karzai tells AP that US cash fed
corruption. (2019, December 11). AP.
Retrieved from https://apnews.com/1419420df4e2e7186222c38db3be707d
2. Afghanistan, U.S. sign long-delayed security pact. (2014,
September 30). USA Today/AP. Retrieved from http://www.usatoday.com/story/news/world/2014/09/30/afghan-us-security-pact/16467441/
3. Baudrillard, Jean. (2003). The Spirit of Terrorism.
UK: Verso.
4. Ellis, James O. (2011). The Impact of 9/11 on U.S.
Foreign Policy. In The 9/11 encyclopedia. (2nd Ed. pp.1-4).
USA: ABC-CLIO, LLC.
5. EU foreign policy chief: Taliban ‘WON THE WAR,’ we’ll
have to talk to them – and acknowledge mistakes. (2021, August 17). RT.
Retrieved from https://www.rt.com/news/532330-eu-taliban-won-war-afghanistan/
6. Interview: Karzai says 12-year Afghanistan war has left
him angry at U.S. government. (2014, March 3). The Washington Post.
Retrieved from
http://www.washingtonpost.com/world/interview-karzai-says-12-year-afghanistan-war-has-left-him-angry-at-us-government/2014/03/02/b831671c-a21a-11e3-b865-38b254d92063_story.html
7. Statement by the President on Afghanistan. (2014, May 27). The White House. Retrieved
from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/05/27/statement-president-afghanistan
8. Taliban declares formation of the Islamic Emirate of
Afghanistan, just days after taking over Kabul. (2021, August 19). RT.
Retrieved from https://www.rt.com/news/532470-taliban-declares-islamic-emirate-afghanistan/
9. The Taliban Are Only Pretending They Aren’t Barbaric.
(2021, August 18). Bloomberg. Retrieved from
https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2021-08-17/the-taliban-is-only-pretending-they-aren-t-barbaric
10. The U.S. Once Wanted Peace in Afghanistan. (2020, February 29). The Atlantic.
Retrieved from https://tass.com/world/1124783
11. What the US didn’t learn in Afghanistan. (2021, August
25). Asia Times. Retrieved from https://asiatimes.com/2021/08/what-the-us-didnt-learn-in-afghanistan/
--------------------------