แนวทางสร้างชาติซาอุฯด้วย AI
ซาอุฯ เป็นชาติที่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้นแบบแก่ชาวอาหรับและโลกมุสลิมทั้งปวง
พฤศจิกายน 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ลงนามคำสั่งให้พวกบริษัทเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยต่างๆ นักวิทยาศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ร่วมกันนำข้อมูลรัฐบาลทั้งหลายเข้าสู่ระบบ AI หนึ่งในโครงการชื่อว่า “Genesis Mission” เป็นนโยบายที่ชี้ว่าสหรัฐกำลังเข้าสู่โลกที่ให้ AI ได้ข้อมูลทั้งหมด
เพื่อใช้ความสามารถของ AI ตั้งแต่สร้างความรู้ใหม่ แนะนำนโยบายเศรษฐกิจ
การแก้ปัญหาสังคม จนถึงยุทธศาสตร์การครองความเป็นเจ้า
การเอาชนะจีนที่กำลังก้าวขึ้นมา
ซาอุฯกับ Genesis Mission:
ซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมในฐานะ
"หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และแหล่งทุนสำคัญ" (Strategic Partner
& Investor) สนับสนุนเงินทุนถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเปลี่ยนประเทศให้เป็น
"AI Data Hub" หรือศูนย์กลางข้อมูลโลก
เงินทุนนี้เป็นส่วนสำคัญที่สหรัฐมองว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเทคโนโลยีโลก ที่สหรัฐต้องการเป็นผู้นำผ่านโครงการ
Genesis Mission
ดังนั้นในขณะที่
Genesis Mission คือ "สมอง"
(การพัฒนาอัลกอริทึมและวิทยาศาสตร์) ซาอุฯ รับบทเป็น
"ท่อน้ำเลี้ยงกับฐานพลังงาน" (เงินทุนมหาศาล สถานที่ตั้ง Data
Center และแหล่งพลังงานไฟฟ้า) ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ระบบนิเวศ AI
ของสหรัฐ
ประการแรก จาก "Petro-Politics" สู่
"Techno-Politics"
แต่ไหนแต่ไรรัฐบาลซาอุฯ
พึ่งพาพลังงานฟอสซิลที่มีมหาศาล ความสัมพันธ์กับสหรัฐตั้งอยู่บน "Oil
for Security" (ความมั่นคงแลกน้ำมัน)
ในระยะหลังซาอุฯ
เมื่อเทคโนโลยีคือพลังขับเคลื่อน เป็นอนาคตโลก จึงปรับวิสัยทัศน์พัฒนาประเทศโดยลดความสำคัญของพลังงานฟอสซิล
ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด การสร้างเมืองด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น เมืองอัจฉริยะ
(Smart Cities)
บัดนี้ก้าวอีกขั้น
Genesis Mission คือการสร้างชาติด้วย AI ในแง่ความสัมพันธ์กับสหรัฐคือกำลังเปลี่ยนเป็น "Compute for
Security" (ความมั่นคงแลกพลังประมวลผล)
ประการที่ 2 ประกันความมั่นคงจากรัฐบาลสหรัฐ
นโยบายสำคัญที่สุดยังเป็นเรื่องประกันความมั่นคงจากรัฐบาลสหรัฐ คราวนี้มาในรูปแบบใหม่
ด้วยการเป็นเจ้าของ Infrastructure ด้าน AI ที่สหรัฐต้องพึ่งพาอีกยาวนาน ทำให้สหรัฐทิ้งซาอุฯ ไม่ได้
และเป็นการสร้างอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าแค่การปิด-เปิดวาล์วน้ำมัน
ซาอุฯ
ได้สิ่งสำคัญที่ตนต้องการ ด้วยการมอบสิ่งที่ตนมีอยู่แล้ว
สิ่งที่สหรัฐได้รับ:
สิ่งที่สหรัฐได้รับไม่ใช่แค่น้ำมันอันเป็นขุมพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบ Data
Center เท่านั้น ยังต้องการเงินทุนจำนวนมหาศาล และซาอุฯ
คือตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะ
1)
เป็นพันธมิตรเก่าแก่ ความร่วมมือใหม่นี้คือการต่อยอดความร่วมมือเดิม ก้าวสู่อนาคต
AI ด้วยกัน
2)
ผู้นำมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดี ตั้งแต่ทรัมป์สมัยแรก ความสัมพันธ์ 2 ครอบครัว
คือครอบครัวทรัมป์กับราชวงศ์ซาอุฯ ดีมาก แม้ข้อขัดแย้งบางเรื่อง เช่น ปาเลสไตน์
สถานการณ์กาซา โดยรวมความสัมพันธ์ดีมาก
ความร่วมมือโครงการนี้จะส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แนบสนิทยิ่งขึ้น
3)
ซาอุฯ มีเงินทุนสำรองมหาศาล ตอบโจทย์ที่รัฐบาลสหรัฐต้องการเงินลงทุนจำนวนมาก
และจบในที่เดียว ไม่ต้องหวังเงินทุนจากประเทศอื่น
4)
ซาอุฯ ยินดีร่วมมือแม้ขัดแย้งจีน ปฏิเสธไม่ได้ว่า Genesis Mission แข่งกับการพัฒนา AI ของจีน
และทั้งคู่ต้องการเป็นฝ่ายชนะ ต้องการเป็นที่ 1 ทางด้านนี้
ดังนั้น ซาอุฯ ที่ร่วมมือกับสหรัฐเท่ากับขัดแย้งจีนโดยปริยาย กำลังร่วมมือกับสหรัฐเพื่อต้านจีนโดยเฉพาะ
แนวทางสร้างชาติซาอุฯ ด้วย AI:
การ
"สร้างชาติ" ด้วย AI ภายใต้ Genesis
Mission สามารถใช้แนวทางดังนี้:
1.
เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Intelligent Economy)
เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมแบบเก่า
มาสู่การเป็นผู้สร้างนวัตกรรมมูลค่าสูงด้วย AI ใช้ AI
วิเคราะห์ข้อมูลธรณีวิทยาเพื่อค้นหาแร่ธาตุหายาก (Rare
Earth) และแหล่งน้ำใต้ดินที่มีค่ามหาศาลในทะเลทราย ช่วยบริหารจัดการแผงโซลาร์เซลล์กับพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อเป็นผู้นำพลังงานโลกยุคใหม่ (ซาอุฯ มีนโยบายนี้อยู่แล้ว AI ช่วยให้ดีกว่าเดิม)
นอกจากนี้
สามารถทำการเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ใช้ AI
และ IoT วิเคราะห์ดินฟ้าอากาศ ช่วยเพิ่มผลผลิต
ลดต้นทุน และคาดการณ์ราคาตลาดล่วงหน้า เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer สร้างประวัติศาสตร์เกษตรกรรมซาอุฯ ยุคใหม่
สังคมหุ่นยนต์ ใช้ AI และหุ่นยนต์อัตโนมัติเป็นแรงงานผู้ผลิต
งานบริการต่างๆ อาทิ หุ่นยนต์แม่บ้าน แท็กซี่ไร้คนขับ ลดปัญหาแรงงานในทุกสาขาอาชีพ
ลดการพึ่งพาแรงงานต่างชาติ
เศรษฐกิจสร้างสรรค์และบริการ
ใช้ Generative AI (AI สร้างเนื้อหา)
ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งการออกแบบ แฟชั่น ภาพยนตร์
และการท่องเที่ยวที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalized Tourism)
2.
รัฐบาลดิจิทัลและธรรมาภิบาลข้อมูล
เปลี่ยนระบบราชการที่อุ้ยอ้ายให้เป็น
"รัฐบาลอัจฉริยะ" ที่โปร่งใสและฉับไว ให้บริการภาครัฐไร้รอยต่อ
ประชาชนติดต่อราชการผ่าน AI Assistant ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ลดเอกสาร ลดขั้นตอนการอนุมัติด้วยระบบอัตโนมัติที่ตรวจสอบได้
การกำหนดนโยบายด้วยข้อมูล
(Data-Driven Policy) ใช้ Big Data และ
AI จำลองสถานการณ์ (Simulation) ก่อนออกนโยบายสาธารณะ
เช่น การจัดการน้ำ การวางผังเมือง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงจุดที่สุด
การปราบปรามคอร์รัปชัน ใช้ AI ตรวจสอบความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้งบประมาณแผ่นดิน
เพื่อสร้างความโปร่งใสสูงสุด
3.
การยกระดับคน (Human Empowerment)
ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว และต้องการลดการจ้างงานต่างชาติ AI
เน้น "เสริมศักยภาพ" คนให้เก่งขึ้น เปลี่ยนคนรุ่นใหม่จาก
"ผู้บริโภคเทคโนโลยี" เป็น "ผู้ควบคุม AI"
การศึกษาเฉพาะบุคคล ใช้ AI เป็น
"ครูผู้ช่วย"
ออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความถนัดและความเร็วของเด็กแต่ละคน
เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงที่ตอบโจทย์โลกอนาคต Genesis Mission สร้างความได้เปรียบแก่ซาอุฯ ดึงบริษัท Tech Giant (Google,
Microsoft, OpenAI) มาตั้งสำนักงานใหญ่
เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนท้องถิ่น
4.
โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
สร้างระบบคลาวด์กลางของชาติที่มีความปลอดภัยสูง
เพื่อเป็นแหล่งประมวลผลข้อมูลมหาศาล
สร้างเมืองอัจฉริยะ
(Smart Cities) ใช้ AI บริหารจัดการการจราจร
พลังงาน และความปลอดภัยในเมืองแบบเรียลไทม์
ใช้
AI เป็นเกราะป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ
5.
Hyper-Cognitive Cities
ซาอุฯ
กำลังสร้าง Smart City ตอนนี้สามารถใช้ AI เป็น "ระบบปฏิบัติการหลัก" (Central Operating System) ของเมืองเหล่านี้ตั้งแต่ฐานราก ตั้งแต่สาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้ทุกตึก
ทุกถนน สื่อสารกันเองเพื่อจัดการพลังงาน ขยะ และการจราจรแบบ Zero-waste
สรุป:
หากภารกิจนี้สำเร็จ ซาอุฯ จะไม่ใช่เพียงแค่ผู้ตามทางเทคโนโลยี
แต่จะเป็นชาติที่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ เป็นสังคมไฮเทค
ยกระดับคุณภาพชีวิตคนรุ่นใหม่สู่อนาคตใหม่
เป็นต้นแบบแก่ชาวอาหรับและโลกมุสลิมทั้งปวง
Genesis
Mission คือโอกาสสร้างชาติด้วย AI
ที่ล้ำหน้าที่สุดของโลกวันนี้ นำสู่ประเทศซาอุฯ ที่ไม่แพ้ชาติใด
สร้างชาติให้มั่นคั่งมั่นคง เป็นผู้นำในภูมิภาคตะวันออกกลางต่อไป
-------------------


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น