ทำไมต้องระเบิดโรงพยาบาลกาซา

 ถ้าโรงพยาบาลเป็นศูนย์ลับที่ทำให้ฝ่ายเราบาดเจ็บล้มตายก็อาจต้องทำลายมันเสียเพราะฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นเครื่องมือสงคราม ความรุนแรงจากสงครามฮามาส-อิสราเอลกำลังขยายตัว


โศกนาฎกรรมเหตุระเบิดโรงพยาบาล al-Ahli Baptist Hospital ในฉนวนกาซา หนึ่งในโรงพยาบาลสำคัญก่อตั้งโดยโบสถ์คริสต์ได้ถูกทำลายราบพร้อมกับ 500 ชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เป็นข่าวเศร้าสลดที่หลายคนทั่วโลกสนใจ 

รัฐบาลตุรเคีย (หรือตุรกี) ประกาศลดธงชาติครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วันทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโรงพยาบาลกาซา ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดกาน (Recep Tayyip Erdogan) กล่าวว่าหัวใจของพวกเราประเทศตุรเคียเจ็บปวดอย่างยิ่งต่อพี่น้องปาเลสไตน์ของเรา ขอไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วันแด่ผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กกับพลเรือนผู้บริสุทธิ์ 

ตุรเคียเป็นอีกประเทศที่ลดธงชาติครึ่งเสาแสดงจุดยืน การมีส่วนร่วมกับชาวปาเลสไตน์

เหตุระเบิดโรงพยาบาลกาซากลายเป็นที่ถกเถียงกันทั่ว มีจุดที่น่าคิดดังนี้ ...

อาวุธฮามาสหรืออิสราเอล:

เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าต้นเหตุจากจรวดที่ทำงานผิดพลาดโดยฝ่ายตรงข้ามอิสราเอล (อาจเกิดจากชิ้นส่วนที่เหลือหลังถูกยิงสกัด) จาก Palestinian Islamic Jihad สอดคล้องที่ทางการอิสราเอลยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือตน

Justin Bronk จาก Royal United Services Institute มีความเห็นว่าดูจากหลุมระเบิดกับสภาพความเสียหายไม่น่าจะมาจากขีปนาวุธอิสราเอลที่เห็นใช้อยู่

ถ้าคิดว่าเหตุระเบิดมาจากจรวดฝ่ายฮามาสที่ผิดพลาดหล่นใกล้โรงพยาบาล เช่นนั้นก็อาจจบเพียงเท่านี้

และยากที่ฮามาสหรือ Palestinian Islamic Jihad จะยิงโรงพยาบาลของตัวเอง (ตามข้อสันนิษฐานว่าจรวดถูกจุดติดจากพื้นดิน ไม่ได้ตกจากฟ้า แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ชี้ว่าเป็นอาวุธที่พุ่งใส่จากฟ้า)

เหลือคำถามว่าถ้าอิสราเอลเป็นฝ่ายยิง ... 

องค์กรตรวจสอบอิสระ Bellingcat ระบุว่าจรวจไม่ได้ตกใส่ตัวอาคารโรงพยาบาลโดยตรง แต่หล่นใส่พื้นที่จอดรถที่อยู่ติดกัน หลักฐานเรื่องนี้ชัดเจน ด้วยแรงระเบิดมหาศาลจึงสร้างความสูญเสียมาก (ไม่ใช่จรวดหรือขีปนาวุธขนาดเล็ก)

อาร์คบิชอป Hosam Naoum กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น 3 วันโรงพยาบาลถูกโจมตีทางอากาศ และได้รับคำเตือนให้อพยพออก ข้อมูลจากอาร์คบิชอปชี้ชัดว่าอิสราเอลเคยโจมตีโรงพยาบาลทางอากาศมาก่อนแล้ว เป็นไปได้ว่าการโจมตีรอบแรกคือคำเตือนเช่นเดียวกับคำเตือนจากทางการอิสราเอลให้อพยพออกจากอาคาร

ถ้าวิเคราะห์เข้าข้างอิสราเอล ในการโจมตีทางอากาศ 3 วันก่อนหน้านั้นอาจไม่พุ่งเป้าที่ตัวโรงพยาบาล อาจมุ่งเป้าหมายอื่นที่อยู่ใกล้เคียง

อย่างไรเสียการโจมตีโรงพยาบาลเป็นเรื่องต้องห้ามของสงครามที่ยึดถือทั่วไป ผู้โจมตีจะถูกประณามอย่างรุนแรง การโจมตีจุดที่ใกล้เคียงโรงพยาบาลถือว่าไม่สมควร สุ่มเสี่ยงที่จะ “ผิดพลาด” หรือทำร้ายที่คนสัญจรไปมาใกล้โรงพยาบาล

การโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 3 วันจึงไม่สมควร เช่นเดียวกับคำเตือนให้อพยพออกจากอาคาร เพราะเท่ากับไม่ให้มีโรงพยาบาลในพื้นที่ ทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างหากที่ต้องระวังไม่ให้กระทบโรงพยาบาลยิ่งกว่าหลีกเลี่ยงพลเรือน 

ฝ่ายสหรัฐสรุปรวบยอดจบที่จรวดทำงานผิดพลาด ประธานาธิบดีไบเดนสรุปว่าจากข้อมูลที่มีอยู่ชี้ว่าไม่ใช่ฝีมืออิสราเอล สอดคล้องกับทางการอิสราเอลที่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือตน แต่การด่วนสรุปเช่นนี้และคนทั้งโลกล้วนรู้ดีว่ารัฐบาลสหรัฐอยู่ข้างเดียวกับอิสราเอล กลายเป็นผลเสียมากกว่า ด้วยสามัญสำนึกย่อมคิดได้ว่า ‘พวกเดียวกัน พูดเข้าข้างกันเอง’ ความจริงคือหลังเหตุการณ์ผ่านไปหลายวัน หลายฝ่ายกำลังตรวจสอบแต่ยังไม่มีใครฟันธงว่า “ใครยิง” “ด้วยอาวุธอะไร” ดังนั้นรัฐบาลสหรัฐที่รีบเร่งสรุปจึงเป็นผลเสีย 

ความรุนแรงกำลังขยายตัว:

หลังเหตุระเบิดโรงพยาบาล Hossein Amir-Abdollahian รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่านทวิตข้อความว่าอิสราเอล “หมดเวลาแล้ว” ไม่มีฝ่ายใดยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุร้ายแรงนี้ ถึงเวลาแล้วที่คนทั้งโลกต้องรวมเป็นหนึ่งต่อต้านอิสราเอลและจักรกลสังหารของมัน (หมายถึงสหรัฐ) อีกไม่นานพวกเขาจะต้องเผชิญศึกหลายด้าน

ไม่กี่วันก่อนอิหร่านได้เตือนแล้วว่าอาจลงมืออย่างไรอย่างหนึ่งกับอิสราเอลที่รุนแรงขั้นแผ่นดินสะเทือน สถานการณ์ตอนนี้มีแต่ยิ่งร้อนแรง พื้นที่สงครามขยายวง ฝ่ายอิหร่านมีแผนกับแนวปฏิบัติที่กำหนดไว้แล้ว เป็นแผนอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าประสงค์ชัดเจน

สงครามแห่งความจงเกลียดจงชัง:

ในภาพรวมมุสลิมหลายคนทั่วโลกเคลื่อนไหวต่อต้านอิสราเอลมากขึ้นตามลำดับ บางประเทศอย่างเลบานอนกลายเป็นขบวนประท้วง เหล่านี้มักเป็นการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ มีแกนนำ มีเป้าหมายชัดเจน

ผลความตึงเครียดสะท้อนออกมาหลายแบบ ไกลไปถึงบางประเทศในยุโรป ทางการเยอรมนีรายงานว่ามีเหตุทำผิดกฎหมายต่อชาวยิวเยอรมัน 4 กรณี สำนักงานตำรวจอังกฤษรายงานว่าอาชญากรรมจากการเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobic crimes) เพิ่มสูงขึ้น โรงเรียนยิวในกรุงลอนดอนปิดการสอนชั่วคราวเพื่อป้องกันเหตุร้าย 

ด้านฝรั่งเศสที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในยุโรปต้องเพิ่มใช้ทหารป้องกันเหตุร้าย สนามบินหลายแห่งต้องอพยพคนออกจากสนามบินเนื่องจากคำขู่วางระเบิด เป็นไปได้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะรุนแรง

ขึ้นอีก

ข่าวสารที่ออกมาต่อเนื่องชี้ให้เห็นอานุภาพการทำลายล้างของกองทัพอิสราเอล ตึกพังราบเป็นหลัง ฝ่ายฮามาสที่เริ่มโจมตีก่อนไม่เห็นมีอาวุธร้ายแรงเช่นนั้น ตัวเลขผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นทุกวันและจำนวนมากเป็นพลเรือน สร้างความปวดร้าวหดหู่แก่คนทั้งโลก สัปดาห์หน้าเมื่อกองทัพอิสราเอลเข้ารบทางภาคพื้นดิน เชื่อว่าจะยิ่งนำความเศร้าสลดกว่าเดิม ความรุนแรงน่าจะกระจายตัวในหลายประเทศ 

ทางฝั่งอิสราเอล ผลโพลของหนังสือพิมพ์มารีฟ (Maariv newspaper) ชี้คนอิสราเอล 65% เห็นด้วยที่กองทัพจะเข้ากวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซา มีเพียง 21% ที่ไม่เห็นด้วย แสดงถึงความคิดเห็นของพลเมืองอิสราเอลที่ส่วนใหญ่เห็นว่าจำต้องกวาดล้างพวกฮามาส

ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่าการช่วยอิสราเอลกับยูเครนให้ชนะสงคราม “เพื่อความมั่นคงที่สำคัญยิ่งยวดของอเมริกา” (vital for America’s national security) เป็นเหตุที่สหรัฐต้องมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิด หาก 2 ประเทศนี้พ่ายแพ้ความขัดแย้งกับความวุ่นวายจะขยายตัวไปสู่ส่วนอื่นๆ ของโลก ทั้งฮามาสกับปูตินต่างต้องการทำลายประเทศประชาธิปไตย 

สังเกตว่ารัฐบาลไบเดนผูกโยงสงครามเข้ากับความมั่นคงของประเทศตัวเอง และผูกโยงกับประชาธิปไตยโลก ด้วยความคิดเช่นนี้ ศึกฮามาส-อิสราเอลจึงเป็นสงครามที่สหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมนั่นเอง เพียงแต่ไม่ส่งทหารจำนวนมากเข้าร่วมรบโดยตรง

ที่ควรพูดถึงคือ เป็นหลักยึดว่าในสงครามเขตโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดภัย ห้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยิงโจมตี แต่ข้อนี้อาจเป็นเหตุใช้โรงพยาบาลเป็นจุดหลบซ่อน เป็นศูนย์ลับบัญชาการรบ ติดตั้งอุปกรณ์สำคัญในชั้นใต้ดินหรือพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อเกิดเหตุกับโรงพยาบาลจะไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมรับว่าตนเป็นผู้ลงมือ สงครามคือสงคราม ด้วยความคิดว่าถ้าโรงพยาบาลเป็นศูนย์ลับที่ทำให้ฝ่ายเราบาดเจ็บล้มตายก็อาจต้องทำลายมันเสียเพราะฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นเครื่องมือสงคราม

บทความนี้ไม่มีเจตนาชี้ถูกผิด เพียงเสนอให้เห็นมุมมองที่แตกต่าง ตั้งประเด็นว่า “คำถามที่ควรตั้งคือทำไมต้องระเบิดโรงพยาบาลกาซา” ณ ตอนนี้ไม่ว่าใครยิง พิสูจน์ได้หรือไม่ ความขัดแย้งกำลังขยายตัว

22 ตุลาคม 2023
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 28 ฉบับที่ 9838 วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566)

-------------------------------


บรรณานุกรม :

1. ‘Can’t stay silent any more’: Rage in Lebanon over Israel’s war on Gaza. (2023, October 18). Al Jazeera. Retrieved from https://www.aljazeera.com/news/2023/10/19/cant-stay-silent-any-more-rage-in-lebanon-over-war-on-gaza

2. Iran shares chilling message for Israel after Gaza hospital explosion kills 500: 'Time is OVER'. (2023, October 18). Fox News. Retrieved from https://www.foxnews.com/world/iran-shares-chilling-message-israel-gaza-hospital-explosion-kills-500-time-over

3. Tensions are high in Europe amid anger over Israel-Hamas war. (2023, October 18). CBS News. Retrieved from https://www.cbsnews.com/news/israel-hamas-war-tensions-high-europe-anger/

4. Türkiye declares 3-day mourning over Gaza hospital strike. (2023, October 19). Hurriyet Daily News. Retrieved from https://www.hurriyetdailynews.com/turkiye-declares-3-day-mourning-over-gaza-hospital-strike-187185

5. What is Al-Ahli Hospital that Israel has Just Bombed in Gaza? – EXPLAINER. (2023, October 17). Palestine Chronicle. Retrieved https://www.palestinechronicle.com/what-is-al-ahli-hospital-that-israel-has-just-bombed-in-gaza-explainer/

6. What we know about the Gaza hospital blast. (2023, October 19). NBC News. Retrieved https://www.nbcnews.com/news/world/gaza-hospital-bombing-what-know-experts-video-rcna121136

-----------------