สวีเดนเลือกข้าง ขอเข้าร่วมนาโต

การเลือกข้างก่อให้เกิดคำถามว่าคือการเปลี่ยนปรปักษ์ให้กลายเป็นศัตรูจริงๆ ใช่หรือไม่ ทำอย่างไรรัสเซียจึงจะวางใจแม้สวีเดนเลือกข้าง 

        หลังสวีเดนสูญเสียฟินแลนด์แก่จักรวรรดิรัสเซียในสงครามช่วง ค.ศ.18081809 นับจากนั้นเป็นต้นมาเปลี่ยนจากประเทศที่ขยายดินแดนด้วยการทำสงครามสู่ประเทศที่หลีกเลี่ยงสงคราม ยึดนโยบายเป็นกลางหรือไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ถึงกระนั้นทุกวันนี้ชาวสวีเดนจำนวนหนึ่งยังมองรัสเซียเป็นภัยคุกคาม บรรดาพรรคการเมืองโน้มเอียงเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ 2 ฝั่งแอตแลนติก (นาโตคือตัวแทนความสัมพันธ์นี้) ล่าสุดรัฐบาลสวีเดนยื่นเรื่องขอเข้าร่วมนาโตแล้ว เปลี่ยนนโยบายที่ยึดถือมากว่า 2 ศตวรรษ

มุมมองของสวีเดน :

        ประการแรก สัมพันธ์ที่เลวร้ายลง

        รัสเซียบุกไครเมียเมื่อกุมภาพันธ์ 2014 เป็นเหตุการณ์สำคัญทำให้สวีเดนมองรัสเซียในแง่ลบเพิ่มขึ้นชัดเจน Peter Hultqvist รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสมัยนั้นกล่าวว่าเรื่องนี้ผลักดันให้สวีเดนต้องเพิ่มงบป้องกันประเทศ นักการเมืองหลายพรรคเห็นพ้องว่าถึงเวลาแล้วที่สวีเดนต้องเป็นสมาชิกนาโต หันไปร่วมมือทางทหารกับสหรัฐมากขึ้น

        ปี 2015 สวีเดนมีสัมพันธ์ทางการกับรัสเซียเพียงเล็กน้อย เฉพาะด้านการค้าที่ดำเนินได้ดี คิดว่ารัฐบาลรัสเซียมักถือว่าสวีเดนมีอำนาจน้อยกว่าตน ความสัมพันธ์อยู่ในสภาพเป็นมิตรภาพอันเยือกเย็น (cold friendship)

        กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ชี้ว่ารัสเซียทำลายความมั่นคงยุโรป

        ประการที่ 2 มีทั้งที่มองว่าเป็นภัยคุกคามและไม่เป็น

        เป็นธรรมดาที่มีทั้งพวกที่มองรัสเซียเป็นภัยคุกคามกับไม่เป็น ฝ่ายที่ไม่ถือว่ารัสเซียเป็นศัตรูอธิบายว่ารัสเซียไม่คิดจะรุกรานสวีเดน ไม่มีสัญญาณเช่นนั้นเลย แต่ถ้าสวีเดนเข้าร่วมนาโต รัสเซียย่อมถือว่าสวีเดนมีโอกาสเป็นศัตรูทันที (potentially hostile state) ไม่แปลกเมื่อถึงตอนนั้นรัสเซียจะต้องคิดแผนโจมตีเป้าหมายในสวีเดน (หากเกิดสงคราม)

        พวกที่สนับสนุนเข้านาโตจะชี้ภัยคุกคามรัสเซีย อ้างเหตุต่างๆ จากรัสเซียตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนถึงแทรกแซงเลือกตั้ง คิดอยู่เสมอว่ารัสเซียจะบุกสวีเดนในที่สุด มีกระบวนการปั่นกระแสภัยคุกคามรัสเซียอยู่เสมอจนสังคมแบ่งขั้ว

        ไม่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สังคมสวีเดนถูกครอบงำด้วยกระแสหวาดกลัวรัสเซีย สื่อจะนำเสนอภัยรัสเซียเป็นระยะๆ ผู้คนเอ่ยถึงจนเป็นนิสัย ที่น่าสนใจคือทุกภัยจากรัสเซียมักจะลงเอยด้วยการเข้านาโต

       ประการที่ 3 ทางเลือกมีทางเดียวคือนาโต

        เป็นความจริงที่ว่าหากสวีเดนทิ้งหลักการเป็นกลาง องค์การนาโตย่อมเป็นทางเลือกที่ดีและอาจเป็นทางเลือกเดียวที่มีอยู่ Mark Brzezinski อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสวีเดนกล่าวว่านาโตคือบริษัทประกันภัย (insurance company) ของสวีเดน ความคุ้มครองจะเกิดขึ้นหากคุณซื้อประกันก่อนประสบเหตุร้าย นาโตเท่านั้นที่จะช่วยปกปักษ์รักษา

       ประการที่ 4 มุมมองเข้านาโตเสี่ยงกว่าเดิม

        Anders Österberg จากพรรค Social Democrat ชี้ว่าหากเป้าหมายคือเลี่ยงสงครามก็ไม่ควรเข้านาโต การเข้าร่วมจะยิ่งเสี่ยงเกิดสงครามกว่าเดิม ทางออกคือต้องดำเนินนโยบายผ่อนคลายความตึงเครียด (détente) ลดความตึงเครียดในภูมิภาค หลักการไม่เข้าร่วมพันธมิตรทางทหารพิสูจน์นับร้อยปีแล้วว่าใช้ได้ผล ดังนั้นจึงไม่เห็นความจำเป็นต้องทิ้งหลักนิยมนี้

        อีกทั้งจะสูญเสียการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ภาพลักษณ์ของประเทศเปลี่ยนไป

มุมมองแบบรัสเซีย :

       ประการแรก ไม่ได้ให้ความสำคัญ

        ในขณะที่สวีเดนมองรัสเซียเป็นภัยคุกคามร้ายแรง ฝ่ายรัสเซียตอบกลับว่าตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับสวีเดนมากนัก มีประเด็นหรือประเทศอื่นที่รัสเซียต้องให้ความสำคัญยิ่งกว่าสวีเดนมากนัก

       ประการที่ 2 สวีเดนกลัวเกินเหตุ ไร้เหตุผล

        เนื่องจากสวีเดนกังวลต่อเนื่องไม่หยุด ฝ่ายรัสเซียจึงชี้ว่าเป็นความกังวลเกินเหตุ คิดไปเอง มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่กองทัพรัสเซียจะบุกสวีเดนตราบเท่าที่ยังยึดความเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด รัสเซียไม่ค่อยคาดหวังประโยชน์จากสวีเดน มองมุมบวกต่อประวัติศาสตร์สวีเดนที่ยึดมั่นความเป็นกลาง

       ประการที่ 3 ที่ผ่านมาสวีเดนอิงอียู

        รัสเซียเห็นว่าอียูมีอิทธิพลต่อนโยบายสวีเดน (สวีเดนเป็นสมาชิกอียู) ดังนั้นความสัมพันธ์ทวิภาคีจึงขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียู ถ้าสวีเดนเข้าร่วมนาโตย่อมต้องยึดแนวนโยบายนาโต

ท่าทีนาโต :

       ประการแรก หวังให้สวีเดนร่วมเป็นสมาชิกเสมอ

        แม้ในช่วงแรกเมื่อสิ้นสงครามเย็นภัยคุกคามจากโซเวียตรัสเซียหมดไปแต่นาโตยังอยากให้สวีเดนเป็นสมาชิก (นาโตเกิดขึ้นเพื่อต้านโซเวียตในสมัยสงครามเย็น) ข้อนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์นาโตขยายตัว (NATO Enlargement, NATO expansion) ที่ตั้งเป้าให้ยุโรปทุกประเทศเป็นสมาชิกนาโตรวมทั้งรัสเซียด้วย บนหลักคิดที่ว่าถ้าอยู่องค์กรเดียวกันจะไม่เป็นศัตรูต่อกัน

        ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในยุคสงครามเย็น สิ้นสงครามเย็น รัสเซียกับจีนที่ก้าวขึ้นมาใหม่ในศตวรรษที่ 21 นาโตพยายามดึงสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกอยู่เสมอ

       ประการที่ 2 ใช้ทุกเหตุการณ์เพื่อโน้มน้าวใจ

        ทุกเหตุการณ์ที่บ่งบอกถึงภัยรัสเซียไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเล็ก นาโตไม่พลาดที่จะเข้าหาหว่านล้อมทั้งทางตรงทางอ้อมให้เห็นว่าการเข้าร่วมนาโตคือทางออก

       ประการที่ ภัยรัสเซียนั้นรุนแรงเหลือเกิน

        ในบางกรณีรัสเซียเป็นภัยจริงแต่ถูกนำเสนอให้รุนแรงเกินควร คาดการณ์หรือจินตนาการให้ใหญ่โตรุนแรงอยู่เสมอ มักนำสู่ความขัดแย้งทางทหาร กองทัพรัสเซียคิดจะรุกรานฟินแลนด์กับสวีเดน ซึ่งหากพิจารณาลงรายละเอียดจะพบว่าภัยคุกคามที่เอ่ยถึงไม่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน มักจะระบุว่า “เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ” (credible information) “มีความเป็นไปได้สูง” (highly likely) หรือด้วยการคาดเดาว่ามีแต่รัสเซียที่จะทำเช่นนั้น อ้างอิงภาพถ่ายมัวๆ (hazy photos) บางครั้งกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็ถูกตีความล่วงหน้าแล้วว่าต้องเป็นรัสเซีย

วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :

        ล่าสุดสวีเดนขอเข้าร่วมนาโตอย่างเป็นทางการแล้ว Magdalena Andersson นายกฯ สวีเดนกล่าวว่าเพราะต้องการหลักประกันความมั่นคง รัสเซียบุกยูเครนได้ทำลายระบบความมั่นคงของสวีเดนและยุโรปทั้งมวล Ann Linde รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยอมรับว่าการเข้านาโตจะขัดแย้งรัสเซีย แต่ไม่ถึงขั้นทำสงครามต่อกัน

        ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงว่าฝ่ายการเมืองของสวีเดนถูกอำนาจรัฐบาลสหรัฐกดดันให้เลิกสัมพันธ์กับรัสเซีย

        สงครามในอดีตระหว่างสวีเดนกับรัสเซียยังฝังจิตฝังใจคนสวีเดนแม้จะผ่านไปกว่า 200 ปีแล้ว รัสเซียในวันนี้ไม่ใช่ระบอบกษัตริย์ สังคมวัฒนธรรมเปลี่ยนไปมาก แต่คนสวีเดนจำนวนมากไม่ลืมอดีตและนำมาผนวกกับสถานการณ์ปัจจุบันมองรัสเซียเป็นปรปักษ์หลัก แต่การเลือกข้างก่อให้เกิดคำถามว่าคือการเปลี่ยนปรปักษ์ให้กลายเป็นศัตรูจริงๆ ใช่หรือไม่ นำสู่การเผชิญหน้าใช่หรือไม่ ต้องคิดหนักว่าทำอย่างไรรัสเซียจึงจะวางใจแม้สวีเดนเลือกข้าง แม้สุ่มเสี่ยงแต่จำต้องไหลไปตามบริบทของโลกแห่งการช่วงชิงระหว่างมหาอำนาจ

        อย่างไรก็ตามลึกๆ แล้วนาโตไม่ได้เป็นเอกภาพ สงครามยูเครนเป็นเพียงเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ชาติสมาชิกแสดงตัวให้ความร่วมมือต่อต้านรัสเซีย แท้จริงแล้วภายในนาโตแยกออกเป็นกลุ่มประเทศที่ต้องการเป็นอิสระอย่างแท้จริงกับกลุ่มประเทศที่หวังอิงความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ การเข้ามาของสวีเดนกับฟินแลนด์อาจยิ่งทำให้ความเป็นเอกภาพลดน้อยลง อาจเป็นผลดีต่อประเทศที่ใฝ่หาสันติมากกว่าสงคราม ในระยะยาวจะเห็นภาพเหล่านี้เด่นชัดขึ้น

22 พฤษภาคม 2022
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 26 ฉบับที่ 9321 วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565)

----------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง: 
ข้อวิพากษ์ทั้งหมดนำสู่คำถามว่ายุทธศาสตร์นาโตขยายตัวมีไว้เพื่อสันติภาพ เคารพอธิปไตยของกันและกันหรือเป็นเครื่องมือที่บางประเทศใช้ขยายอำนาจอิทธิพล
ชาติมหาอำนาจมั่นคงมั่งคั่งขึ้นบนความสูญเสียของยูเครน เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นกับหลายประเทศ เป็นอุทาหรณ์แก่ประเทศอื่นๆ ที่เหลือ

บรรณานุกรม :

1. Simons, Greg., Manoylo, Andrey Viktorovich. (2019). Sweden and the NATO debate: views from Sweden and Russia. Retrieved from https://www.researchgate.net/publication/336952060_Sweden_and_the_NATO_debate_views_from_Sweden_and_Russia

2. Sweden joining NATO would 'deter the threat of military conflict in northern Europe', says report. (2022, May 13). Euro News. Retrieved from http://www.euronews.com/my-europe/2022/05/13/sweden-joining-nato-would-deter-the-threat-of-military-conflict-in-northern-europe-says-re

3. Swedish PM says ‘best thing’ for her country’s security is to join Nato. (2022, May 16). The National News. Retrieved from https://www.thenationalnews.com/world/2022/05/15/swedish-pm-says-best-thing-for-her-countrys-security-is-to-join-nato/

4. US Frees Russia’s Hands to Act by Forcing Finland, Sweden to Join NATO - Moscow. (2022, May 17). Sputnik News. Retrieved from https://sputniknews.com/20220517/us-frees-russias-hands-to-act-by-forcing-finland-sweden-to-join-nato---moscow-1095562362.html

-----------------------