นโยบายของนายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์

ด้วยการยึดหลักประชาธิปไตยทำให้รัฐบาลเบนเน็ตต์ประกอบด้วยพรรคการเมืองทุกสาย แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม มีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำรงอยู่ของรัฐบาล

            13 มิถุนายน 2021 นาฟทาลี เบนเน็ตต์ (Naftali Bennett) หัวหน้าพรรค Yamina แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญและขยายความดังนี้

            อิสราเอลเป็นประเทศในฝันของชาวยิวทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก เผชิญความท้าทายทั้งจากนอกประเทศกับภายในประเทศ

นโยบายในประเทศ :

            ประการแรก รัฐบาลที่รวมคนทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน

            เป็นความสำเร็จของรัฐสภาอิสราเอลที่นำคนทุกกลุ่มเข้ามาอยู่ร่วมกัน เป็นตัวแทนของพลเมืองทั่วทั้งประเทศ ผู้นำพรรคการเมืองที่เปิดกว้าง ร่วมตั้งรัฐบาลจากหลากหลายแนวคิดเพื่อหยุดความแตกแยกของชาติ หลักการคือทุกกลุ่มมานั่งด้วยกัน ก้าวไปข้างหน้าในทางที่เห็นตรงกัน อะไรที่เห็นต่างกันให้เก็บไว้ก่อน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่ทำงานเพื่อประชาชนทุกคน

          ประการที่ 2 ขยายสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้ง Area C

            เพิ่มเติมสาธารณูปโภคทุกเขตให้มีมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้ง Area C (พื้นที่ปาเลสไตน์ที่อิสราเอลครอบครอง ย้ายเข้าไปอยู่อาศัย)

            ประการที่ 3 เพิ่มขยายความสัมพันธ์กับพลเมืองเชื้อสายอาหรับ

            ปี 2021 อิสราเอลมีประชากร 9,358,380 คน 74.2% เป็นยิว 20.9% เป็นเชื้อสายอาหรับ ที่เหลือ 4.8% เป็นพวกนับถือคริสต์กับศาสนาอื่นๆ

            คนยิวกับคนเชื้อสายอาหรับในอิสราเอลขัดแย้งเรื่อยมา รัฐบาลใหม่ของเบนเน็ตต์หวังปรับความสัมพันธ์ มอบให้ Mansour Abbas หัวหน้าพรรค United Arab List (Ra’am) ของพวกมุสลิมอาหรับที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ส่งเสริมพัฒนาชุมชนมุสลิมอาหรับ

            Mansour Abbas กล่าวว่าพรรคจะหาทางคืนที่ดินของชนเชื้อสายอาหรับในอิสราเอลที่ถูกเวนคืน (expropriated) ปัญหารัฐเวนคืนที่ดินไม่ใช่เรื่องประหลาดพบเห็นทุกประเทศ พรรคเห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลผสมที่รวมชนทุกเชื้อชาติทุกศาสนา รวมเป็นหนึ่งในฐานะพลเมืองอิสราเอล จะลดช่องว่างระหว่างศาสนากับประเทศ จะไม่มองอีกฝ่ายเป็นศัตรูต่อไป (ระหว่างยิวกับมุสลิมอาหรับในอิสราเอล)

            จะเห็นว่าแนวคิดของ Mansour Abbas ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมอย่างสันติของคนในชาติ ไม่ว่าจะเชื้อชาติศาสนาใดต่างเป็นพลเมืองอิสราเอล แก้ปัญหาความแตกต่างด้วยวิถีประชาธิปไตย

            ประการที่ 4 นโยบายอื่นๆ

            นโยบายที่จะดำเนินการทันที เช่น รัฐบาลจะดูแลการศึกษาของเด็กตั้งแต่แรกเกิด กระทรวงศึกษาจะเป็นผู้ดูแลเด็กเล็ก (infant daycare) หนุ่มสาวที่ยึดแนวทาง ultra-Orthodox สามารถประกอบอาชีพตั้งแต่อายุ 21 แทน 24 ตามความสมัครใจ

            นโยบายอื่นๆ เช่น ส่งเสริมให้มีงานทำ ตั้งเป้าภายในปี 2026 แรงงาน 15% จะทำงานด้านไฮเทค เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐ สร้างโรงพยาบาลกับมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม พัฒนากองทัพให้เข้มแข็ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีที่สุด ปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน เร่งก่อสร้างบ้านเรือนทั่วอิสราเอล ลดอุปสรรคต่างๆ แข่งกับราคาบ้านที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ส่งเสริมยิวต่างแดนที่จะอพยพเข้าอิสราเอล ส่งเสริมการศึกษา Torah (บัญญัติศาสนา)

นโยบายต่างประเทศ :

          ประการแรก นโยบายต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

            โครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุด จะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ อิสราเอลจะทำสิ่งที่ตนเห็นควร ไม่เห็นด้วยการกับรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA)

            นโยบายของรัฐบาลเบนเน็ตต์ไม่ต่างจากเนทันยาฮู เห็นว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ JCPOA ไม่ช่วยสร้างสันติภาพ หรือไม่ก็ต้องปรับเปลี่ยนข้อตกลง เช่น ห้ามอิหร่านมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เครื่องเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมจำนวนมาก ห้ามอิหร่านพัฒนาและประจำการขีปนาวุธที่ยิงไกลนับพันกิโลเมตร

          ประการที่ 2 สงครามต่อต้านก่อการร้าย

            กองกำลังคุดส์ (Quds Force) ของอิหร่านเป็นผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในซีเรีย กาซา เลบานอนและเยเมน ความขัดแย้งกับปาเลสไตน์ยังคงอยู่ การปะทะเดือนที่แล้วเตือนความจำว่าศัตรูไม่เห็นด้วยกับการมีอยู่ของดินแดนอิสราเอล

            Quds Force เป็นกองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังซึ่งอาจเป็นชาวอิหร่านหรือต่างชาติ

            อิสราเอลต้องการความสงบเรียบร้อยแต่ฮามาสเลือกที่จะใช้ความรุนแรงต่อพลเมืองอิสราเอล พวกปาเลสไตน์ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อิสราเอลพร้อมจะตอบโต้

            ฮามาส (Hamas) เป็นชาวปาเลสไตน์กลุ่มหนึ่งที่ต้องการปลดปล่อยตัวเองจากอำนาจของอิสราเอล ไม่ยอมรับรัฐอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นซุนนีกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) เริ่มเป็นหัวหอกต่อต้านอิสราเอลด้วยความรุนแรงตั้งแต่ปี 2000 ที่เรียกว่า ‘Palestinian intifada in 2000’ เทคนิคหนึ่งที่ใช้คือระเบิดพลีชีพ จุดระเบิดในเขตชุมชน ทำให้พลเรือนบาดเจ็บเสียชีวิตจำนวนมาก สร้างความหวาดวิตกวุ่นวายแก่อิสราเอล เป็นอีกสาเหตุที่อิสราเอลอ้างว่าปาเลสไตน์ไม่ต้องการสันติภาพ ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพออสโล

          ประการที่ 3 ขยายความสัมพันธ์กับรัฐอาหรับ

            รัฐบาลใหม่จะขยายความสัมพันธ์กับรัฐอาหรับทุกมิติ ส่งเสริมเศรษฐกิจภูมิภาค ธุรกิจเอกชน ความร่วมมือทางวัฒนธรรม ให้ประชาชน 2 ฝ่ายติดต่อกันมากขึ้น

            ด้านรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์กับบาห์เรนแสดงความยินดีต่อรัฐบาลใหม่อิสราเอล ยินดีร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ ยึดมั่น Abraham Accords (ยอมรับรัฐอิสราเอล อยู่ร่วมโดยสันติ ไม่เกลียดชังอีกฝ่ายด้วยเหตุผลศาสนา) ขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนา สร้างความมั่นคง สันติภาพแก่ภูมิภาคและโลก

วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :

            รัฐบาลใหม่ของนาฟทาลี เบนเน็ตต์ ยึดหลักประชาธิปไตยที่รวมคนทุกกลุ่มทุกเชื้อสายศาสนาเข้าด้วยกัน ลดความสุดโต่งของลัทธิไซออนิสต์ (Zionism) แม้นโยบายหลักหลายข้อยึดแนวทางของฝ่ายขวาไซออนิสต์เช่นเคย เช่น การผนวกพื้นที่บางส่วนของปาเลสไตน์เป็นของอิสราเอล อิหร่านเป็นภัยคุกคามร้ายแรงอันดับหนึ่งและการปรับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านอาหรับ เป็นแนวทางที่ทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลเนทันยาฮู

            พรรค United Arab List ที่เข้าร่วมรัฐบาลยึดหลักประชาธิปไตยเช่นกัน ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมในฐานะเป็นพลเมืองอิสราเอลภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหมายถึงให้ความสำคัญกับชาติมากกว่าศาสนา (ในความหมายยึดถือศาสนาแบบสุดโต่ง อยู่ร่วมกับยิวไม่ได้) ชนเชื้อสายมุสลิมอาหรับในอิสราเอลยินดีกับรัฐบาลใหม่

            การยึดหลักประชาธิปไตยเป็นที่มาของรัฐบาลชุดนี้ที่รวมพรรคจากสายต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งฝ่ายขวาไซออนิสต์ จนถึงฝ่ายซ้ายและพวกเชื้อสายมุสลิมอาหรับ เป็นความสำเร็จที่ชัดเจนอีกครั้งของลัทธิประชาธิปไตย ที่อาจสำคัญไม่แพ้กันคือ ความพยายามลดความขัดแย้งระหว่าง 2 ศาสนา 2 เชื้อสายที่แตกต่าง ทำอย่างไรจึงจะอยู่ด้วยกันได้ดี เรื่องนี้มีผลต่อประเด็นอิสราเอลจะอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านรัฐอาหรับอย่างไร

            แต่การเป็นประชาธิปไตยไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลชุดใหม่จะอยู่ครบเทอมหรือชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป คนอิสราเอลที่ต่อต้านพรรคร่วมเช่นนี้มีเหมือนกัน อีกมากที่ต้องการรัฐบาลฝ่ายขวา เหล่านี้เป็นประชาธิปไตยเช่นกัน

            ในกรอบระหว่างประเทศ รัฐบาลอิสราเอลตั้งแต่สมัยเนทันยาฮูปรับความสัมพันธ์กับรัฐอาหรับ เปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะ (รัฐบาลมุสลิมกับยิวอยู่ร่วมโลกกันได้) เหลือแต่อิหร่านเท่านั้นที่ยังเข้ากันไม่ได้ อีกทั้งอิสราเอลกับรัฐอาหรับต่างถือว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามร้ายแรง โครงการนิวเคลียร์อิหร่านยังเป็นประเด็นที่อิสราเอลให้ความสำคัญต่อไป

            ที่หลายคนยังตั้งข้อสงสัยคือเรื่องการขยายดินแดน ประเด็นเยรูซาเล็มตะวันออก เรื่องเหล่านี้จะได้คำตอบชัดเมื่อเกิดเหตุเท่านั้น

20 มิถุนายน 2021
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 25 ฉบับที่ 8986 วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2564)

---------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 
หากเบนเน็ตต์ได้นั่งตำแหน่งนายกฯ จะเป็นความสำเร็จทางการเมืองครั้งใหญ่ เมื่อผู้นำคนเก่าสะสมเรื่องอื้อฉาวเต็มตัวถึงคราวร่วงโรย ย่อมเป็นโอกาสแก่ผู้นำดาวรุ่งคนใหม่ เป็นวัฏจักรการเมืองอย่างหนึ่ง

บรรณานุกรม :

1. Cleveland, William L., Bunton, Martin. (2016). A History of the Modern Middle East (6th Ed.). USA: Westview Press.

2. Corsi, Jerome R. (2009). Why Israel Can't Wait: The Coming War Between Israel and Iran. New York: Threshold Editions.

3. Dabashi, Hamid. (2011). Shi'ism: A Religion of Protest. USA: The Belknap Press of Harvard University Press.

4. Full text: PM-to-be Bennett presents gov’t ‘that will work for the sake of all’. (2021, June 13). Time of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/full-text-pm-to-be-bennett-presents-govt-that-will-work-for-the-sake-of-all/

5. In speech before swearing-in, Ra’am leader vows to ‘reclaim expropriated lands’. (2021, June 13). Time of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/in-speech-before-swearing-in-raam-leader-vows-to-reclaim-expropriated-lands/

6. Israel. (2021). Wikipedia. Retrieved from https://en.wikipedia.org/wiki/Israel#Demographics2)

(NATO calls on Iran to cease all ballistic missile activities. (2021, June 14). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/nato-calls-on-iran-to-cease-all-ballistic-missile-activities/

7. Palestinian Authority: This is not a gov’t of change. (2021, June 14). The Jerusalem Post. Retrieved from https://www.jpost.com/opinion/how-will-israels-foreign-policy-change-with-new-govt-670922

8. Roshandel, Jalil., Lean, Nathan Chapman. (2011). Iran, Israel, and the United States: Regime Security vs. Political Legitimacy. Califronia: ABC-CLIO, LLC.

9. UAE, Bahrain welcome new Israeli government, signaling Abraham Accords stability. (2021, June 15). Time of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/uae-bahrain-welcome-new-israeli-government-signaling-abraham-accords-stability/

--------------------------