นโยบายของเวียดนามต่อทะเลจีนใต้

ไม่ว่าจะอย่างไรเวียดนามต้องรักษาผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ พร้อมกับที่ต้องพยายามหาทางอยู่ร่วมกับชาติมหาอำนาจ มีความร่วมมืออยู่คู่ความขัดแย้ง หวังเพียงไม่ขัดแย้งจนควบคุมไม่ได้

             ในบรรดาชาติที่พิพาทกับจีนเรื่องสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ เวียดนามพิพาทกับจีนแรงสุด เคยปะทะด้วยกำลังทหารมาแล้ว เผชิญหน้าต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและน่าจะตึงเครียดมากขึ้น ทั้งคู่มีข้อพิพาทหลายจุดตั้งแต่หมู่เกาะสแปรตลีย์ (Spratly Islands) หมู่เกาะพาราเซล (Paracel) เวียดนามเรียก Hoang Sa ส่วนจีนเรียกหมู่เกาะซีซา (Xisha Islands) และพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ)

            การจะเข้าใจท่าทีจุดยืนเวียดนามต้องเข้าใจเป้าหมายก่อน

            เวียดนามไม่ต่างจากประเทศทั่วไปที่ประกาศต้องการสันติภาพ เสถียรภาพ เพราะสันติภาพเท่านั้นที่ส่งเสริมบรรยากาศการพัฒนาเป็นประโยชน์ทั้งต่อเวียดนาม ภูมิภาคและโลก รัฐบาลเวียดนามเห็นว่าสันติภาพกำลังถูกคุกคามและเป็นอันตรายหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ยับยั้งชั่งใจ ต้องแสวงหาความร่วมมือแทนหาเรื่องใส่กัน อีกทั้งดุลอำนาจกำลังเปลี่ยนแปลง (จีนก้าวขึ้นมา) เกิดการเผชิญหน้า แสดงการยั่วยุเสมอ

เหตุที่เวียดนามต้องปกป้องทะเลจีนใต้ :

            ถ้าไม่นับเหตุผลเรื่องปกป้องอธิปไตย ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่สุดของเวียดนาม คาดว่าพื้นที่ทับซ้อนมีทรัพยากรมหาศาล นับจากปี 2007 เป็นต้นมาจีนพยายามกดดันบริษัทน้ำมันต่างชาติให้หยุดช่วยเวียดนามสำรวจทรัพยากรน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติแต่เวียดนามยังคงพยายามไม่ลดละ เกิดการตอบโต้ไปมาหลายครั้ง

            และในขณะที่ชาติมหาอำนาจแข่งขันช่วงชิงผลประโยชน์ในย่านนี้ เวียดนามเข้าเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เวียดนามใช้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นโอกาสเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองระหว่างประเทศเหมือนกัน

ท่าทีเวียดนามต่อทะเลจีนใต้ :

          ประการแรก หมู่เกาะสแปรตลีย์กับพาราเซลเป็นของเวียดนาม

            รัฐบาลเวียดนามเรียกร้องให้จีนยุติการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนเกาะแก่งต่างๆ ใน Truong Sa (หมู่เกาะสแปรตลีย์) กับ Hoang Sa (หมู่เกาะพาราเซลตามชื่อเวียดนาม) ย้ำว่าเวียดนามมีทั้งหลักฐานตามกฎหมายและประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์ว่าทั้ง 2 เกาะเป็นของเวียดนาม

การสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ Chau Vien (Cuarteron Reef) กับ Gac Ma (Johnson South Reef- ทั้ง 2 เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์) ละเมิดอธิปไตยเวียดนามและ DOC ขอให้ปฏิบัติตาม UNCLOS

          ประการที่ 2 ใช้ทั้งความร่วมมือและดิ้นรนต่อต้าน

            เวียดนามเรียกร้องรักษาสิทธิ อธิปไตยของตน ความสัมพันธ์สองประเทศมีทั้งความร่วมมือคู่ความขัดแย้ง แม้ขัดแย้งแต่ยังเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ จีนเข้าลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่องเป็นผลประโยชน์ร่วม

            ในภาคปฏิบัติสองฝ่ายต่างมีช่องทางการพูดคุยทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งระดับรัฐ ระดับพรรค ระดับรัฐมนตรี เช่น รัฐมนตรีกลาโหม เป็นกลไกควบคุมความขัดแย้ง

            เวียดนามใช้ความพยายามทั้งระดับพหุภาคีกับทวิภาคี ดังนั้นไม่ว่าจะมีอาเซียนหรือไม่ การเจรจาต่อรองระหว่างสองประเทศดำเนินไป ไม่ต้องขึ้นกับอาเซียนเสมอไป

          ประการที่ 3 ยึดกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง

            การแก้ไขข้อพิพาทให้ยึดกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea หรือ UNCLOS) ฉบับปี 1982 แนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the conduct of Parties in the South China Sea: DOC) และแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (Code of Conduct on South China Sea: COC) ที่กำลังหารือกันอยู่

          ประการที่ 4 ใช้สันติวิธี

            เป้าหมายบางข้อของเวียดนามสร้างความตึงเครียดขัดแย้งแต่จะยึดแนวทางสันติวิธีตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติสนับสนุนแนวทางนี้ รัฐบาลเวียดนามคิดเสมอว่าต้องหากลไกควบคุมความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพ ยึดสันติภาพเป็นเป้าหมายไม่ใช่สงคราม

            เวียดนามมักให้อาเซียนเป็นผู้แสดงหลักในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพในภูมิภาค ยึดมั่นสันติวิธี ตามกระบวนการกฎหมายและการทูต

          ประการที่ 5 ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคำนึงผลประโยชน์ของอีกฝ่าย

            การแก้ไขข้อพิพาทดินแดนไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกฝ่ายจำต้องคำนึงผลประโยชน์ของอีกฝ่าย ถ้ายึดผลประโยชน์เป็นที่ตั้งสิ่งที่ได้จากพื้นที่พิพาทเป็นชิ้นเล็กเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ระหว่างประเทศโดยรวม โอกาสความร่วมมือต่างๆ การปล่อยให้ผลประโยชน์ชิ้นเล็กทำลายผลประโยชน์ชิ้นใหญ่เป็นเรื่องไร้เหตุผล เพียงแต่เรื่องสูญเสียอธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นประเด็นอ่อนไหวที่ต่างยอมให้แก่กันไม่ได้

          ประการที่ 6 รับความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ

หลายครั้งที่เมื่อเผชิญหน้าจีนรัฐบาลเวียดนามจะร้องขอให้สหรัฐแสดงบทบาทเข้มแข็งขึ้น กีดกันไม่ให้จีนสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติม รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างทางทหารตามเกาะแก่งต่างๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิทธิ์

            นอกจากขอความช่วยเหลือจากสหรัฐแล้ว เวียดนามขอความช่วยเหลือจากอีกหลายประเทศ เช่นจากญี่ปุ่นซึ่งพยายามขยายบทบาท ยกตัวอย่างปี 2014 ญี่ปุ่นส่งมอบเรือรบ 6 ลำแก่เวียดนาม เป็นส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์เพื่อเสริมความเข้มแข็งในการปกป้องน่านน้ำเวียดนาม นาย Fumio Kishida รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า “หวังว่าความช่วยเหลือนี้จะช่วยเวียดนามให้สามารถบังคับใช้กฎหมายทะเลได้ดียิ่งขึ้น”

            เป็นประเทศที่ 2 ของอาเซียนที่ได้รับเรือตรวจการณ์จากญี่ปุ่นในช่วงนั้น

            โดยสรุปแล้วนโยบายของเวียดนามคือรักษาสันติภาพความมั่นคงแก่ประเทศกับภูมิภาค ยึดมั่นการเดินเรือเสรีตามกฎหมายระหว่างประเทศ ให้ทุกชาติค้าขายต่อไป ต่อต้านการแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังหรือบั่นทอนทำลาย เป็นแนวทางเดียวกับอาเซียนและมิตรประเทศที่หวังสร้างระเบียบความมั่นคงบนกฎเกณฑ์

ทำอย่างไรจะจึงอยู่ร่วมกับมหาอำนาจในระยะยาว :

            เวียดนามกับอาเซียนหวังสร้างระเบียบความมั่นคงที่ทุกชาติต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ แต่จีนซึ่งเป็นสมาชิก UNCLOS วางเงื่อนไขแต่แรกว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงเฉพาะส่วนที่ไม่ขัดกฎหมายจีน ด้านสหรัฐที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำตามกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ข้อเท็จจริงคือสหรัฐไม่เป็นสมาชิก UNCLOS ไม่มีใครสามารถกล่าวโทษสหรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว

            เพียงเท่านี้ก็ทราบเจตจำนงของชาติมหาอำนาจทั้งสอง

          โจทย์ที่เวียดนามคิดถึงเสมอคือทำอย่างไรจะจึงอยู่ร่วมกับมหาอำนาจในระยะยาว เวียดนามไม่อาจห้ามจีนที่ก้าวขึ้นมาเรื่อยๆ แผ่ขยายอิทธิพล เสริมสร้างกองทัพ ในขณะที่สหรัฐเห็นว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงขึ้นทุกที มีผลประโยชน์มหาศาลที่ต้องรักษา รัฐบาลทรัมป์ประกาศความเป็นปรปักษ์กับจีนอย่างชัดเจน

            เป็นความจริงที่สถานการณ์โดยรวมยังเป็นปกติ เรือสินค้าเครื่องบินโดยสารเดินทางไปมาสะดวก แต่บรรยากาศของ 2 มหาอำนาจตึงเครียดมากขึ้น รัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน หากรัฐบาลชุดต่อไปเป็นโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครทน่าติดตามว่าความตึงเครียดจะลดลงหรือไม่

26 กรกฎาคม 2020

ชาญชัย คุ้มปัญญา

(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ สถานการณ์โลกไทยโพสต์ ปีที่ 24 ฉบับที่ 8658 วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563)

------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 

อนาคตของการเจรจา “แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้” (COC)

อาเซียนกับจีนบรรลุกรอบเจรจา COC นับจากนี้คือการเจรจาเพื่อให้ได้ COC แต่ยากจะตอบว่าจะแล้วเสร็จช้าหรือเร็ว เพราะ COC จึงไม่ใช่เรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้เท่านั้น ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองภายในของบางประเทศ ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างบางประเทศ การแข่งขันของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาจเป็นมหากาพย์ที่ต้องติดตามอีกนาน

จีนเดินหน้าต่อต้านระเบียบโลกตะวันตก สร้างระเบียบโลกใหม่

สถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้จำต้องมองกรอบที่กว้างกว่าอาเซียน เกี่ยวข้องกับท่าทีของสหรัฐกับญี่ปุ่น ที่รัฐบาลอาเบะเพิ่งประกาศต้องการแสดงภาวะผู้นำเหนือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีนคงต้องการเตือนอาเซียนว่าอาเซียนควรร่วมมือกับจีน อยู่ร่วมกับจีนอย่างฉันท์มิตรมากกว่าที่จะเข้าพวกกับสหรัฐ ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในแนวทางต่อต้านยุทธศาสตร์ Pivot to Asia

บรรณานุกรม :

1. ASEAN-US Summit discusses peace, security in Asia-Pacific. (2016, February 17). VNS. Retrieved from http://vietnamnews.vn/politics-laws/282441/asean-us-summit-discusses-peace-security-in-asia-pacific.html

2. In California, Vietnam PM calls for greater US role in East Sea. (2016, February 17). Thanh Nien News. Retrieved from http://www.thanhniennews.com/politics/in-california-vietnam-pm-calls-for-greater-us-role-in-east-sea-59342.html

3. Hanoi demands that Beijing stop illegal construction in East Vietnam Sea. (2015, May 29). Tuoi Tre News. Retrieved from http://tuoitrenews.vn/politics/28382/hanoi-demands-that-beijing-stop-illegal-construction-in-east-vietnam-sea

4. Japan provides Vietnam with 6 vessels. (2014, August 1). China Daily. Retrieved from http://www.chinadaily.com.cn/world/2014-08/01/content_18232528.htm

5. Ponnudurai, Parameswaran. (2014, February 9). US Draws Own Line Over South China Sea Dispute. Radio Free Asia. Retrieved from http://www.rfa.org/english/commentaries/east-asia-beat/claim-02092014205453.html

6. Vietnam welcomes countries’ East Vietnam Sea stances in line with international law. (2020, July 16). Tuoi Tre News. Retrieved from https://tuoitrenews.vn/news/politics/20200716/vietnam-welcomes-countries-east-vietnam-sea-stances-in-line-with-international-law/55623.html

7. Vision needed for East Sea stability. (2015, May 29). Vietnam News. Retrieved from https://vietnamnews.vn/politics-laws/278928/vision-needed-for-east-sea-stability.html

8. Womack, Brantly. (2006). China and Vietnam: The Politics of Asymmetry. New York: Cambridge University Press.

9. Zewei, Yang. (2014, May 26). Sovereignty is indisputable. Xinhua. Retrieved from http://news.xinhuanet.com/english/indepth/2014-05/26/c_133361191.htm

--------------------------