นโยบายป้องกันประเทศจีนยุคใหม่ 2019

บทบาทของกองทัพกับความเป็นไปของประเทศเป็นของคู่กันแยกออกจากกันไม่ได้ เป็นเครื่องทดสอบและให้คำตอบในตัวเองว่ากองทัพสนับสนุนการก้าวขึ้นมาของจีนอย่างสันติหรือไม่ อย่างไร
            กรกฎาคม 2019 รัฐบาลจีนนำเสนอนโยบายป้องกันประเทศฉบับใหม่ชื่อ China’s National Defense in the New Era มีสาระสำคัญดังนี้
ว่าด้วยบริบท :
            เป็นหลักพื้นฐานว่าประชาคมโลกใฝ่หาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนา แต่ระบบความมั่นคงระหว่างเทศถูกบั่นทอนด้วยลัทธิความเป็นเจ้า การเมืองแห่งอำนาจ (power politics) เอกภาคีนิยม (unilateralism) ความขัดแย้งภูมิภาคและสงคราม สหรัฐยั่วยุและทำให้การแข่งขันระหว่างประเทศเข้มข้นขึ้นด้วยการเพิ่มงบประมาณกลาโหม ดำเนินนโยบายบั่นทอนความมั่นคงโลก นาโตยังคงขยายตัว ส่งกองทัพเข้าไปในยุโรปกลางกับยุโรปตะวันออก ลัทธิสุดโต่งกับลัทธิก่อการร้ายยังคงแพร่กระจาย ความมั่นคงรูปแบบใหม่ (non- traditional security) ทวีความสำคัญ
            โดยรวมแล้วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งทะเลจีนใต้อยู่ในความสงบเรียบร้อย การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (ADMM-PLUS) มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่น โครงสร้างความมั่นคงอาเซียนที่สมดุลมีเสถียรภาพและเปิดกว้างแก่ทุกประเทศกำลังพัฒนาไปด้วยดี
การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้กระทบสมดุลภูมิภาคอย่างรุนแรง ญี่ปุ่นกับออสเตรเลียเสริมสร้างกองทัพ เพิ่มขยายบทบาทความมั่นคงมากขึ้น
พลังอำนาจแห่งชาติจีนทยอยเพิ่มขึ้น บทบาทต่อโลกเด่นชัดขึ้น แต่จีนยังอยู่ในช่วงพัฒนาประเทศ เผชิญความท้าทายหลายอย่าง เช่น พรรค Democratic Progressive Party (DPP) ของไต้หวันยึดมั่นนโยบายไต้หวันที่เป็นไท เกาะแก่งหลายแห่งยังเป็นพื้นที่พิพาท งานการทูตของจีนในต่างแดน บริษัทเอกชนและคนจีนทั่วโลกโดนเล่นงานหลายครั้ง
มหาอำนาจทั่วโลกกำลังปรับแต่งยุทธศาสตร์ความมั่นคงและการทหาร พัฒนากองกำลังรบแบบใหม่ ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่นปัญญาประดิษฐ์ (AI), quantum information, big data, cloud computing และ the Internet of Things พัฒนาการทำสงครามข่าวสารและสงครามข่าวกรอง (intelligent warfare)
นโยบายความมั่นคง :
            ภายใต้ระบบสังคมนิยมจีน รัฐบาลยึดมั่นการพัฒนาด้วยสันติ นโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ ส่งเสริมสันติภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ จึงสร้างนโยบายป้องกันประเทศที่เน้น “การป้องกัน” เป็นพื้นฐาน มีหลักสำคัญดังนี้
            ประการแรก ปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์จากการพัฒนา เช่น ปกป้องความมั่นคงทางการเมืองและสังคม ต่อต้านการประกาศอิสรภาพไต้หวันและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนต่างๆ ปกป้องสิทธิผลประโยชน์ทางทะเล ในอวกาศ ระบบไซเบอร์ ผลประโยชน์จีนในต่างแดน จีนยึดมั่นแก้ไขพื้นที่พิพาทด้วยการเจรจากับประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรง ยึดมั่นการเดินเรือและเดินอากาศเสรีตามกฎหมายระหว่างประเทศ
            ประการที่ 2 ไม่แสวงหาความเป็นเจ้า ไม่ขยายอิทธิพล นับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนไม่เคยก่อสงครามสักครั้งเดียว ขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมาจากการทำงานหนักและพยายามรักษาสันติภาพ สันติภาพส่งเสริมการพัฒนา จีนพัฒนาสัมพันธภาพกับมิตรประเทศตามหลักอยู่ร่วมกันโดยสันติ 5 ประการ (Five Principles of Peaceful Coexistence) เคารพการตัดสินใจของประชาชนประเทศต่างๆ ที่จะเลือกแนวทางการพัฒนาของตนเอง (ระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจ) จะไม่คุกคามประเทศใดๆ เพื่อขยายอิทธิพลของตน
            ประการที่ 3 แนวยุทธศาสตร์การทหารยุคใหม่ (Military Strategic Guideline for a New Era) เน้นการป้องกัน ปกป้องตัวเอง โต้กลับทีหลัง การป้องกันประเทศเชิงรุก (active defense) จะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อนไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ไม่คุกคามชาติอื่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ไม่แข่งขันอาวุธนิวเคลียร์กับประเทศใด
ประการที่ 4 เสริมสร้างกองทัพอย่างต่อเนื่องตามแนวทางจีน กองทัพมีเพื่อประกันการพัฒนาประเทศโดยสันติ พัฒนาทฤษฎีทางทหารสมัยใหม่ ปรับปรุงโครงสร้างกองทัพสู่กองทัพระดับโลกภายในกลางศตวรรษที่ 21
ประการที่ 5 เสริมสร้างชุมชนและมีส่วนในอนาคตของมนุษยชาติ ร่วมมือกับนานาประเทศสร้างโครงสร้างความมั่นคงบนความเท่าเทียม ไว้วางใจต่อกัน ยุติธรรม แบ่งปันผลประโยชน์ร่วม มีส่วนร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ร่วมต่อต้านประเด็นท้าทายโลก เช่น การก่อการร้าย ความมั่นคงทางไซเบอร์ ภัยธรรมชาติต่างๆ
พันธกิจของกองทัพ :
            จากนโยบายข้างต้นแปรเป็นพันธกิจดังนี้ กองทัพจีนมีหน้าที่พิทักษ์อธิปไตยแห่งดินแดน สิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล ในการนี้จีนร่วมมือกับหลายประเทศที่มีชายแดนติดต่อกัน กองทัพจะต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ตรวจสอบความพร้อมของกองกำลังอยู่เสมอ ซ้อมรบในสถานการณ์เสมือนจริง ดูแลระบบอาวุธนิวเคลียร์ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ รวมทั้งความมั่นคงทางอวกาศ ระบบไซเบอร์ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม
ต่อต้านก่อการร้ายและรักษาเสถียรภาพ จีนต่อต้านลัทธิสุดโต่งกับลัทธิก่อการร้ายทุกรูปแบบ กองทัพจีนมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ปกป้องผลประโยชน์ต่างแดน เช่น คนจีนในต่างแดน องค์กร สถาบันจีนในต่างแดน ปกป้องเรือบรรทุกสินค้า พร้อมกับหน้าที่ช่วยเหลือกู้ภัยจากภัยพิบัติต่างๆ
การปฏิรูปกองทัพ งบประมาณและอื่นๆ :
            ตลอดประวัติศาสตร์กองทัพจีนปฏิรูปเรื่อยมา การปฏิรูปครั้งนี้ให้ความสำคัญกับระบบสั่งการและควบคุมให้สอดคล้องกับยุคข้อมูลข่าวสาร พัฒนาระบบสั่งการร่วม พัฒนาระบบตรวจสอบกำกับที่ยึดกฎเกณฑ์ เมื่อไม่นานนี้จีนปรับลดกำลังพล 300,000 นายเหลือเพียง 2,000,000 นาย ย้ายงานบางส่วนแก่เจ้าหน้าที่พลเรือน ลดสายบังคับบัญชา ปฏิรูปนโยบายและสถาบันทางทหาร พัฒนาหลักสูตรการฝึกทหาร ยึดมั่นหลักคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง การนำของพรรค พัฒนาอาวุธทุกรูปแบบ ทั้งอาวุธหลัก ระบบข้อมูลข่าวสาร อุปกรณ์สนับสนุน มองการพัฒนากองทัพอย่างเป็นระบบ
            การพัฒนาประเทศกับความมั่นคงเป็นของคู่กัน จำต้องพัฒนาประเทศควบคู่พัฒนากองทัพ หลายปีที่ผ่านมาทยอยเพิ่มงบประมาณควบคู่กับการพัฒนาประเทศที่ค่อยๆ ดำเนินไป แต่ลดลงถ้ายึดจีดีพี เช่น ปี 1979 งบกลาโหมคิดเป็นร้อยละ 5.43 ของจีดีพี ปี 2017 เหลือเพียงร้อยละ 1.26 และอยู่ในระดับต่ำกว่า 2 มา 3 ทศวรรษแล้ว
            กองทัพจีนยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกองทัพกับประเทศต่างๆ กว่าร้อยประเทศ แม้กระทั่งกับสหรัฐ ยุโรป ส่งเสริมโครงสร้างความมั่นคงระดับภูมิภาค เช่น องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่พัฒนาความสัมพันธ์ทุกมิติรวมทั้งด้านการป้องกันประเทศ กลไกของกลุ่มความร่วมมืออื่นๆ เช่น ADMM-Plus, ASEAN Regional Forum (ARF), Shangri-La Dialogue
            ท้ายนี้ จีนเชื่อว่าชนทุกชาติปรารถนาสันติภาพกับการพัฒนา บั้นปลายของความเป็นเจ้าและการรุกรานคือความล้มเหลว จีนจะยังคงยึดมั่นการพัฒนาด้วยสันติ ทำงานร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อรักษาสันติภาพ ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน จีนจะพัฒนากองทัพให้เป็นกองทัพระดับโลก ต้านภัยคุกคามทุกรูปแบบ มุ่งสู่ความใฝ่ฝันของจีน (Chinese Dream) เสริมสร้างชุมชนและมีส่วนในอนาคตของมนุษยชาติ
วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :
            นับจากสงครามปฏิวัติสู่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนจนถึงปัจจุบัน กองทัพเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงและเสถียรภาพของรัฐบาล เผชิญความท้าทายทั้งจากภายในกับภายนอกประเทศ และยังต้องเผชิญความท้าทายเช่นนี้ต่อไปอีกนาน บทบาทของกองทัพกับความเป็นไปของประเทศเป็นของคู่กันแยกออกจากกันไม่ได้ เป็นเครื่องทดสอบและให้คำตอบในตัวเองว่ากองทัพสนับสนุนการก้าวขึ้นมาของจีนอย่างสันติหรือไม่ อย่างไร
4 สิงหาคม 2019
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ สถานการณ์โลกไทยโพสต์ ปีที่ 23 ฉบับที่ 8302 วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2562)
----------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง 
กองทัพจีนพัฒนาโดยยึดแนวการรบแบบชาติตะวันตก หากเศรษฐกิจพัฒนาเติบโตต่อไป ผลประโยชน์ที่ขยายตัวทั่วโลกย่อมเป็นเหตุให้กองทัพจีนต้องสามารถปกป้องผลประโยชน์ประเทศที่กระจายทั่วโลก
โอริตะ คูนิโอะ แสดงความคิดเห็นว่าภายในปี 2025 จีนจะก่อสงครามใหญ่ เพื่อยึดครองไต้หวัน ควบคุมทะเลจีนใต้ ข้อวิพากษ์คืออย่างไรเป็นประโยชน์ต่อจีนมากกว่าระหว่างสงครามกับสันติภาพ
บรรณานุกรม :
Full Text: China's National Defense in the New Era. (2019, July 24). Xinhua. Retrieved from http://www.xinhuanet.com/english/2019-07/24/c_138253389.htm
ที่มาของภาพ : http://eng.chinamil.com.cn/view/2019-06/22/content_9535939.htm