ทำไมโอบามาคิดส่งอาวุธหนักให้ยูเครน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา อังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกับ ฟร็องซัว ออล็องด์ (Francois Hollande) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสต้องเดินทางไปๆ มาๆ หลายเที่ยวหลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลโอบามาคิดส่งอาวุธหนักให้รัฐบาลยูเครน บทความนี้จะวิเคราะห์เหตุผลว่าทำไมรัฐบาลสหรัฐจึงคิดทำเช่นนั้นพร้อมข้อวิพากษ์ ดังนี้
เหตุผลและข้อวิพากษ์ :
            หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน เริ่มเกิดความรุนแรงในยูเครนตะวันออก ในตอนนั้นประธานาธิบดีโอบามาไม่เห็นด้วยที่จะตอบโต้ด้วยกำลังทหารเนื่องจาก เห็นว่าการใช้กำลังทหารไม่ช่วยแก้ปัญหา รัฐบาลกำลังใช้วิธีคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียซึ่งส่งผลในระดับหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าสามารถแก้ไขด้วยวิถีทางการทูต
            ต่อมาในเดือนสิงหาคม มีกระแสข่าวรัสเซียจะบุกยูเครนฝั่งตะวันออก ประธานาธิบดีโอบามายืนยันว่าจะไม่ตอบโต้ด้วยกำลังทหาร เนื่องจากยูเครนไม่ใช่สมาชิกนาโต สหรัฐจะปกป้องประเทศสมาชิกเท่านั้น แต่จะอาศัยนานาชาติกดดันรัสเซีย ให้นานาประเทศเลิกทำธุรกิจกับรัสเซีย
            แต่ในเดือนถัดมา รัฐบาลโอบามาเริ่มส่งความช่วยเหลือทางทหารแก่กองทัพยูเครน เป็นอาวุธที่ไม่ร้ายแรง (lethal weapons) เช่น อาวุธประจำกาย เชื้อเพลิง เวชภัณฑ์ การเคลื่อนกำลังของยูเครน ด้านการสั่งการและควบคุม

การเอ่ยถึงความช่วยเหลือครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรก เหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะ
          ประการแรก กองทัพรัฐบาลยูเครนต้องการกำลังบำรุงเพิ่ม
            นับจากเกิดการปะทะในเขตยูเครนตะวันออก รัฐบาลยูเครนร้องขอความช่วยเหลือทางทหารอย่างต่อเนื่อง อ้างว่ามีกองกำลังรัสเซียในยูเครนจำนวนมาก เป็นข้ออ้างที่รัฐบาลโอบามาให้น้ำหนักในขณะนี้
            ไม่ว่าจะมีทหารรัสเซียหรือไม่ หรือรัสเซียคอยสนับสนุนกำลังบำรุง ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ทหารยูเครนที่กำลังรบเป็นชาวยูเครน ใส่เครื่องแบบกองทัพยูเครน แต่คงไม่กล่าวเกินไปถ้าจะตั้งคำถามว่า “ทหารที่กำลังสู้รบนั้นมีฐานะเป็นทหารรับจ้างของรัฐบาลโอบามาหรือไม่” หากทหารเหล่านี้ใช้อาวุธและกระสุนของสหรัฐ น้ำมันและกำลังบำรุงต่างๆ มาจากงบประมาณของรัฐบาลอเมริกา
เฉพาะเดือนที่แล้ว อียูให้เงินยูเครนอีก 2,050 ล้านดอลลาร์ สหรัฐให้ 1,000 ล้านดอลลาร์ รวมที่สหรัฐให้ทั้งหมดเท่ากับ 2,000 ดอลลาร์ (ไม่รวมเงินกู้จาก IMF)

            เรื่องทำนองนี้ชวนให้นึกถึงสงครามอื่นๆ ที่สหรัฐเข้าพัวพันเต็มตัว เช่น สงครามเวียดนาม กองทัพเวียดนามใต้อยู่ได้ด้วยงบประมาณอเมริกัน หรือถ้าจะพูดให้ไกลกว่านั้นต้องกล่าวว่ารัฐบาลเวียดนามใต้ในสมัยนั้นอยู่ได้เพราะรัฐบาลอเมริกันยุคนั้นหนุนหลัง
            ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญคือความเป็นอิสระในการตัดสินใจของรัฐบาลยูเครนกับนโยบายแอบแฝงของรัฐบาลโอบามา
            น่าเห็นใจประธานาธิบดีโปโรเชนโกกำลังประสบปัญหารัฐบาลถังแตก งบประมาณบริหารประเทศที่ใช้คือเงินช่วยเหลือจากอียู เงินกู้จากไอเอ็มเอฟ ยามที่กองทัพต้องทำการสู้รบ ต้องใช้กำลังบำรุงมากกว่าปกติ คงไม่ผิดนักหากจะพูดว่า “กองทัพเดินด้วยยูเอสดอลลาร์” ต้องร้อนถึงรัฐบาลโอบามาให้ส่งเงิน ส่งกำลังบำรุงมาเพิ่ม
            และถ้าเป็นเช่นนี้ เมื่อผู้ให้เงินสั่งรบ ท่านก็ต้องรบ

          ประการที่ 2 สหรัฐต้องการควบคุมฝ่ายต่อต้านให้อยู่ในพื้นที่
            ตั้งแต่ฝ่ายต่อต้านเริ่มก่อการก็เข้ายึดพื้นที่บางส่วนใน 2 เมืองหลัก คือ โดเนตสค์ (Donetsk) กับลูกันสก์ (Lugansk) รัฐบาลยูเครนตอบโต้ด้วยการส่งทหารเข้าปราบ แม้ไม่สามารถปราบปรามได้อย่างราบคาบ เพียงช่วยจำกัดขอบเขตพื้นที่อิทธิพลของฝ่ายต่อต้าน
            ภายใต้สถานการณ์ขณะนี้ที่รัฐบาลโอบามากับพันธมิตรกำลังกดดันรัฐบาลปูตินทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลโอบามาเห็นว่าจำต้องให้ความช่วยเหลือกองทัพยูเครนล้อมกรอบฝ่ายต่อต้านต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์บ่อนทำลายรัสเซีย

Elvira Nabiullina ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศรัสเซียประเมินว่า หากราคาน้ำมันอยู่ที่ 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รัสเซีย “จะสูญเสียรายได้จากการส่งออกน้ำมันปีละ 160,000 ล้านดอลลาร์” ปกติรัสเซียจะส่งออกน้ำมันปีละ 500,000 ล้านดอลลาร์ ด้านอัตราเงินเฟ้อสิ้นเดือนมกราคม 2015 สูงถึงร้อยละ 13.1 รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับราคาสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าจะดูแลเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้กระทบประชาชน
            ภายใต้การวิเคราะห์นี้ให้ข้อสรุปว่า หากสหรัฐส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนก็เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์บั่นทอนรัสเซียเป็นหลัก สหรัฐหวังคงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ามาตรการเริ่มได้ผลจริงจังหลังโอเปกประกาศคงกำลังการผลิตน้ำมัน
            ตอนที่ยูเครนตะวันออกเริ่มเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลโอบามากล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังสนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วง รัฐมนตรีต่างประเทศแคร์รีชี้ว่ารัสเซีย “พยายามบ่อนทำลายรัฐ (ยูเครน) และสร้างสถานการณ์วิกฤต” เพื่อเป็นข้ออ้างให้รัสเซียบุกยูเครน จะเห็นว่ารัฐบาลโอบามาพยายามโน้มน้าวว่ารัสเซียคือผู้สร้างวิกฤต แต่ขณะนี้กระแสการส่งอาวุธหนักให้กองทัพยูเครนเป็นตัว “สร้างสถานการณ์วิกฤต” มากกว่า

จะกลายเป็นสงครามใหญ่หรือไม่ :
            ประเด็นหนึ่งที่ให้ความสำคัญคือ ความกังวลว่าหากสหรัฐส่งอาวุธหนักให้ฝ่ายรัฐบาลยูเครน ความขัดแย้งในยูเครนฝั่งตะวันออกจะกลายเป็นสงครามใหญ่ และจะยิ่งร้ายแรงหากสามารถดึงรัสเซียกับอีกหลายประเทศเข้าร่วมสมรภูมิ
            ประธานาธิบดีออล็องด์ถึงกับกล่าวว่าหากการเจรจาล้มเหลวหมายถึงจะเกิดสงคราม สอดคล้องกับ Ursula von der Leyen รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมันกล่าวว่า “การมุ่งแต่เรื่องจะให้อาวุธจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง” เกรงว่าสถานการณ์จะบานปลาย

            ถ้ามองสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง ขณะนี้ความขัดแย้งจำกัดขอบเขตในอาณาบริเวณของเมืองใหญ่เพียง 2 เมือง คือโดเนตสค์กับลูกันสก์ที่ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียทางด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ (เมืองอื่นๆ มีชาวยูเครนพูดภาษารัสเซียเช่นกัน แต่มีจำนวนน้อย) เป็นตัวตั้งตัวตีขอแยกตัวเป็นอิสระจากรัฐบาลยูเครน
            ข้อพิพาทอยู่ในพื้นที่ขนาด 400-500 ตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับขนาดประเทศที่กว้างใหญ่ถึง 579,330 ตร.กม. จะเท่ากับร้อยละ 0.07 -0.09 ของพื้นที่ทั้งประเทศ (ขนาดพื้นที่ยูเครนดังกล่าวยังรวมไครเมีย ส่วนประเทศไทยมีขนาด 513,120 ตร.กม. กรุงเทพมหานครมีขนาดพื้นที่ 1,568 ตร.กม.)
            การปะทะทางทหารในขณะนี้จึงจำกัดขอบเขตมาก
            ถามว่าฝ่ายต่อต้านจะสามารถขยายพื้นที่อิทธิพลได้หรือไม่ คำตอบคือยังพอทำได้ แต่จะเต็มด้วยอุปสรรคเนื่องจากเขตพื้นที่อื่นๆ สภาพประชากรแตกต่างจาก 2 เมืองนี้ สัดส่วนประชากรที่ใกล้ชิดรัสเซียมีน้อย ยิ่งในฝั่งยูเครนตะวันตกส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายยูเครนแท้ๆ เป็นถิ่นอาศัยของพวกหัวรุนแรงต่อต้านรัสเซีย ต่อต้านชาวยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย
            นอกจากนี้ เป้าหมายของฝ่ายต่อต้านคือการสถาปนาเขตปกครองตนเองเฉพาะเมืองโดเนตสค์กับลูกันสก์เท่านั้น เช่นเดียวกับเป้าหมายของรัฐบาลปูตินที่มุ่งให้ความสำคัญกับ 2 เมืองนี้ ไม่ได้คิดยึดครองยูเครนทั้งประเทศ
            การกล่าวอ้างว่าจะเกิดสงครามใหญ่จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

วาทกรรมการให้อาวุธหนัก :
            รัฐบาลโอบามากำลังคิดเรื่องให้อาวุธหนัก คำพูดสั้นๆ นี้ตีความได้หลากหลาย เช่น อาจหมายถึงอาวุธหนักสำหรับกำลังพลนับแสน ในขณะเดียวกันอาจเป็นเพียงรถถังไม่กี่คัน ปืนใหญ่ไม่กี่กระบอก
            แต่ขณะนี้ผู้นำบางประเทศ สื่อตะวันตกหลายสำนักแสดงให้เห็นภาพรุนแรง น่ากลัว ทั้งๆ ที่รัฐบาลโอบามายังไม่ได้สรุปด้วยซ้ำว่าหากมอบอาวุธหนักให้ยูเครน หมายถึงอะไรบ้าง จำนวนเท่าใด

            เป็นไปได้หรือไม่ว่าการสร้างภาพให้ใหญ่โตน่ากลัว เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงกดดัน เพื่อให้ฝ่ายต่อต้านกับรัฐบาลปูตินยอมรับเงื่อนไขหยุดยิงของฝ่ายตะวันตก

            ในอีกมุมหนึ่ง เป็นการตอกย้ำความอ่อนแอของกองทัพรัฐบาลยูเครน ที่ไม่สามารถชนะฝ่ายต่อต้าน ขาดแคลนแม้กระทั่งอาวุธหลัก ไม่แปลกใจที่รัสเซียเคยพูดในทำนองว่า หากต้องการยึดยูเครนทั้งประเทศ สามารถทำสำเร็จภายในเวลาเพียงเดือนเดียว
            แม้กระทั่งสื่อตะวันตกบางสำนักยังเคยเสนอข่าวความอ่อนแอของกองทัพรัฐบาลยูเครน โดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐชี้ว่ากองทัพยูเครนไม่เข้มแข็งอย่างที่ควร อาวุธไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ขาดแคลนงบประมาณ ขวัญกำลังใจตกต่ำ
            ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ แมร์เคิลพูดย้ำเตือนว่าถึงจะให้อาวุธหนักก็ใช่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะสามารถเอาชนะฝ่ายต่อต้านที่รัสเซียหนุนหลัง
ทั้งหมดนี้สะท้อนความอ่อนแอของประเทศยูเครน รัฐบาลยูเครนปัจจุบัน จึงต้องช่วยอีกแรงด้วยการสร้างกระแสข่าวเพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าควรหยุดยิง

ความขัดแย้งซ้อน :
เมื่อพูดถึงความขัดแย้งยูเครนในขณะนี้ สถานการณ์ได้พัฒนากลายเป็นความขัดแย้งซ้อนกัน 2 ระดับ
            ระดับแรก คือความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับยูเครนโดยตรง อันหมายถึงบูรณภาพแห่งดินแดน การเมืองการปกครองภายในของยูเครน
            ระดับที่ใหญ่กว่า คือการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายสหรัฐกับรัสเซีย เป็นเรื่องสืบเนื่องจากความขัดแย้งยูเครน ฝ่ายสหรัฐดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจการเมืองต่อรัสเซีย กระทบเศรษฐกิจรัสเซียอย่างหนัก แต่รัสเซียยังไม่ยอมแพ้ และ/หรือยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงประนีประนอม รัฐบาลปูตินเชื่อมั่นเศรษฐกิจของตน และยังเห็นว่ามีโอกาสชนะในที่สุดถ้าสามารถทนแรงกดดัน

            ความขัดแย้งในขณะนี้จึงเป็นความขัดแย้งซ้อน เป็นความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจซึ่งเกิดขึ้นตามมา แต่กลายเป็นประเด็นหลัก ส่งผลกระทบย้อนกลับต่อการแก้ปัญหายูเครน การแก้ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องยูเครนเท่านั้น ต้องแก้ปัญหาระหว่างชาติมหาอำนาจด้วย
            การคาดการณ์ว่าเรื่องจะจบลงเมื่อใดเป็นเรื่องยาก ในกรณียูเครนมีการพูดคุยเจรจาอย่างต่อเนื่อง ติดตรงที่ต่างฝ่ายต่างยึดมั่นจุดยืนของตนเอง วิธีหนึ่งที่จะติดตามว่าสถานการณ์คลี่คลายหรือไม่คือดูจากดัชนีราคาน้ำมัน ถ้าเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดต่ำผิดปกติเกิดจากความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ

วิเคราะห์องค์รวมและสรุป :
            ถ้ามองในภาพกว้างๆ ข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลยูเครนที่อิงตะวันตกขอความช่วยเหลือทางการเงินครั้งแล้วครั้งเล่า ก้อนเงินที่ตกลงครั้งแรกไม่เพียงพอ ต้องขอก้อนใหม่และดูเหมือนว่าจะต้องขอต่ออีกในอนาคต หากรัฐบาลยูเครนไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะเป็นเหมือนบ่อทรายดูดที่ถมไม่เต็ม ชาติตะวันตกคงต้องคิดหนักเรื่องนี้ และจะส่งผลต่อยุทธศาสตร์ใหญ่ในที่สุด

เช่นเดียวกับเรื่องราคาน้ำมัน ราคาที่ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นราคาที่หลายประเทศขาดทุน ไม่สามารถแบกรับภาระงบประมาณ ที่สุดแล้วราคาต้องกลับไปสู่ระดับที่ทุกฝ่ายอยู่ได้ ยอมรับได้ นี่เป็นความจริงตามหลักพื้นฐานเศรษฐศาสตร์การเมือง
เป็นจุดอ่อนสำคัญของยุทธศาสตร์นี้ ไม่ช้าก็เร็วเศรษฐกิจรัสเซียจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

ดังที่เคยสรุปในบทความก่อนว่าการต่อสู้ในขณะนี้จึงเป็นเรื่องของเวลา ดูว่าประเทศใดจะทนได้นานกว่า ความพยายามส่งอาวุธหนักให้กองทัพยูเครนอาจเป็นเพียงการยื้อเวลาออกไปอีกช่วงเท่านั้น นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับต่ำอีก 1 ปีซึ่งหมายความว่าจะไปถึงช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปี 2016 บางคนเห็นว่าจะทรงไปตัวถึง 3 ปีซึ่งหมายถึงประธานาธิบดีคนใหม่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ หรือไม่ก็ต้องรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียครั้งหน้าในเดือนมีนาคม 2018
             ผลการเจรจารอบล่าสุดจบลงแค่ขอให้ทุกฝ่ายหยุดยิง (อีกครั้ง) และถอนทหารถอยห่างมากกว่าเดิมเท่านั้น นั่นหมายถึงการคว่ำบาตรดำเนินต่อไป และความขัดแย้งในยูเครนฝั่งตะวันออกพร้อมจะปะทุขึ้นอีกในอนาคต
15 กุมภาพันธ์ 2015
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 19 ฉบับที่ 6675 วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558)
------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง 
ตอนที่กองกำลังไร้สังกัดเข้าควบคุมไครเมีย สื่อนานาชาติหลายสำนักแสดงภาพถ่ายอย่างชัดเจนถึงการมีตัวตน แต่สถานการณ์ยูเครนตะวันออกในขณะนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เกิดข้อสงสัยว่ามีกองกำลังรัสเซียอยู่จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเชิงทฤษฎีมีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียให้การสนับสนุน โดยเฉพาะด้านกระสุน กำลังบำรุง กลยุทธ์การรบ และการข่าวแก่ฝ่ายต่อต้านอย่างลับๆ
การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 5.5 เป็น 17 ปรับประมาณการเติบโตของจีดีพีจากบวกเป็นติดลบร้อยละ 5 เป็นเรื่องเหลือเชื่อ สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น สหรัฐกับอียูคว่ำบาตรรัสเซีย เศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัว แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือราคาน้ำมันดิบโลกอ่อนตัว คืออ่อนตัวจากราคาปกติที่ระดับ 90 กว่าต่อดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาเป็น 55 ดอลลาร์ต่อบาร์ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวในลักษณะเช่นนี้ยิ่งเป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ “ผิดปกติ” เป็นต้นเหตุให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่ารุนแรงในขณะนี้
3.ยูเครนวิกฤตรัสเซียสู้ไม่ถอย (Ookbee)
ยูเครนเป็นประเทศที่น้อยคนจะรู้จัก เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต เริ่มเป็นรัฐอธิปไตยหลังสิ้นสุดสงครามเย็น ตั้งแต่ปลายปี 2013 เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่บานปลายจนรัสเซียส่งกองกำลังเข้ายึดไครเมีย และเกิดสงครามกลางเมืองขนาดย่อมในฝั่งตะวันออกของประเทศ แต่ความสำคัญของสถานการณ์ยูเครนในขณะนี้คือการเผชิญหน้า ความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือรัสเซีย อีกฝ่ายคือสหรัฐฯ กับพันธมิตรอียู การเผชิญหน้าครั้งนี้อาจรุนแรงยืดเยื้อกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากรัฐบาลรัสเซียสู้ไม่ถอย
สนใจอีบุ๊ค คลิกที่รูป
บรรณานุกรม:
1. Central Intelligence Agency. (2014, June). Ukraine. In The World Factbook. Retrieved from https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/up.html
2. Faiola, Anthony., Birnbaum, Michael., & Morello, Carol. (2015, February 7). Urgency increases from world leaders trying to broker Moscow-Ukraine cease-fire. The Washington Post. Retrieved from http://www.washingtonpost.com/world/us-european-leaders-to-try-again-with-moscow-for-cease-fire-in-ukraine/2015/02/07/652ef282-aeb7-11e4-9c91-e9d2f9fde644_story.html
3. IMF wary of providing Kiev with extra bailout funds. (2015, February 5). RT. Retrieved from http://rt.com/news/229515-imf-ukraine-economy-aid/
4.  Marsden, Chris. (2014, April 9). U.S. Hypocrisy Over Ukraine: Accusing Russia of Illegally Trying to Destabilize a Sovereign State. Global Research. Retrieved from http://www.globalresearch.ca/u-s-hypocrisy-over-ukraine-accusing-russia-of-illegally-trying-to-destabilize-a-sovereign-state/5377246
5. Russia to lose 160 bln USD a year on oil price slump, central bank says. (2015, February 4). Xinhua. Retrieved from http://news.xinhuanet.com/english/europe/europe/2015-02/04/c_133967924.htm
6. The White House. (2014, April 24). Joint Press Conference with President Obama and Prime Minister Abe of Japan. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/04/24/joint-press-conference-president-obama-and-prime-minister-abe-japan
7. The White House. (2014, August 28). Statement by the President. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/08/28/statement-president
8. The White House. (2014, September 5). Remarks by President Obama at NATO Summit Press Conference. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2014/09/05/weekly-address-time-give-middle-class-chance
9. Ukraine Uses Military Force for First Time. (2014, April 15). The Wall Street Journal. Retrieved from http://online.wsj.com/article/BT-CO-20140415-711992.html?mod=googlenews_wsj
10. Ukrainian troop defections escalate tensions in eastern Ukraine. (2014, April 16). The Washington Post. Retrieved from http://www.washingtonpost.com/world/ukrainian-troop-defections-escalate-tensions-in-eastern-ukraine/2014/04/16/4d36b1b6-c532-11e3-b574-f8748871856a_story.html
---------------------------------