ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าพรรค Liberal Democratic Party (LDP)
คือผู้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นอย่างถล่มทลาย
เพียงพรรคเดียวสามารถกวาดที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาล่างเกินกึ่งหนึ่งคือคาดว่าจะได้
294 ที่นั่งจากทั้งหมด 480 ที่นั่งใกล้เคียงกับผลโพลล์ก่อนเลือกตั้ง
ผลที่ตามมาคืออดีตนายกรัฐมนตรีนายชินโซ
อาเบะจะได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกสมัย
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศรายงานข่าวต่อเนื่องว่านายอาเบะคือว่าที่นายกฯ
สายเหยี่ยว พร้อมกับนำเสนอความเป็นสายเหยี่ยว
เช่นไปวัดยาซูคูนิเพื่อเคารพชาวญี่ปุ่นผู้เสียชีวิตจากสงคราม นายอาเบะกล่าวว่า
“ผมไปในฐานะหัวหน้าพรรค Liberal Democratic Party เพื่อแสดงความเคารพต่อดวงวิญญาณของวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตเพื่อประเทศ”
ตลอดชีวิตการเป็นผู้นำทางการเมือง
นายอาเบะประกาศว่าไม่เสียใจที่ไปเคารพทหารญี่ปุ่นที่วัดยาซูคูนิ
และย้ำว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าทหารญี่ปุ่นบีบบังคับคนจีน คนเกาหลี
หรือให้ผู้หญิงเป็นโสเภณีสำหรับทหารญี่ปุ่นในช่วงญี่ปุ่นทำสงครามกับเอเชีย
แม้ว่าจะแสดงตัวเป็นสายเหยี่ยวและประกาศนโยบายการเมืองระหว่างประเทศ
นโยบายด้านความมั่นคงที่แข็งกร้าวแต่หลายข้อไม่น่าจะทำได้จริง
นโยบายข้อแรกที่ไม่น่าจะทำได้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเสริมสร้างกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น
อนุญาตให้ทหารญี่ปุ่นเข้าร่วมการรบ “เพื่อการป้องกันร่วม” (collective
self-defense)
กับพันธมิตรในสมรภูมิที่แม้ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศญี่ปุ่นโดยตรง
เหตุผลที่นโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวยากจะสำเร็จเพราะเป็นนโยบายที่พรรคได้นำเสนอต่อเนื่องอย่างยาวนานหลายสิบปีแล้วแต่ยังไม่เคยแก้จริง
ที่ผ่านมาแนวนโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนจากพวกขวาจัดกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น สำหรับการเมืองภายในญี่ปุ่นการประกาศนโยบายนี้จึงเป็นการนำเสนอนโยบายเดิมๆ
มากกว่า
เหตุผลในบริบทที่กว้างขึ้นคือหลายชาติในเอเชียจะต่อต้านเพราะเกรงว่าญี่ปุ่นจะฉวยโอกาสสร้างเสริมกำลังรบขนาดใหญ่
วาทะกรรมอ้างญี่ปุ่นจะก่อมหาสงครามในอนาคตจะผุดขึ้นซ้ำอีกครั้ง
อีกทั้งสหรัฐอเมริกาคงไม่อยากเห็นญี่ปุ่นมีอำนาจทางทหารที่มากจนกลายเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง
นโยบายต่อกรกับจีนในกรณีข้อพาทหมู่เกาะเซนกากุ เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่น่าอาเบะใช้วาจาแสดงความเป็นสายเหยี่ยวโดยกล่าวด้วยถ้อยคำลึกซึ้งว่า
“ผมเชื่อว่าเราต้องมองไปที่แผนที่โลกเมื่อเราคิดถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน”
คำกล่าวดังกล่าวพูดเป็นนัยว่าต้องไม่มองว่าเป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศเท่านั้นแต่จะดึงสหรัฐฯ
เข้ามาต่อต้านอิทธิพลของจีน
นักวิเคราะห์ชาวตะวันตกบางคนเห็นว่าท่วงทำนองวาจาของอาเบะจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์จีนญี่ปุ่นตึงเครียดกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโยชิฮิโกะ โนดะถึงกับเอ่ยว่า
“วาจะที่แข็งกร้าวและรวดเร็วเป็นอันตราย”
ข้อพิพาทการอ้างสิทธิหมู่เกาะดังกล่าวย้อนหลังได้อย่างน้อยตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
บางช่วงสงบบางช่วงเกิดเหตุพิพาทและเป็นเช่นนี้เรื่อยมา
แต่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบันทั้งสองประเทศต่างระมัดระวังไม่ต้องการให้เหตุบานปลายกลายเป็นสงครามระหว่างประเทศ
ส่วนสหรัฐฯ แม้จะเป็นพันธมิตรญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ประสงค์ให้เกิดความรุนแรง รัฐมนตรีกลาโหมลีออน
พาเนตตา กล่าวแสดงจุดยืนสหรัฐฯ ว่า “เราขอให้ทุกฝ่าย (จีนกับญี่ปุ่น)
ยับยั้งชั่งใจและอยู่ในความสงบ ...
การเพิ่มความขัดแย้งในสถานการณ์ตรงนี้ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศใด มีแต่จะบั่นทอนสันติภาพ
ความมั่นคงแก่ภูมิภาคที่สำคัญนี้”
ดังนั้น
ไม่ว่าจะทะเลาะรุนแรงเพียงใดก็จะถูกจำกัดขอบเขตเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมา
ในภาพรวม หากวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งในกรอบกว้างๆ เหตุที่ LDP ชนะไม่ใช่เพราะคนญี่ปุ่นหันกลับมาชอบพรรคนี้ แต่เพราะรัฐบาลภายใต้ Democratic
Party of Japan (DPJ)
ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศทำให้ประชาชนผิดหวัง ดังนั้นลำพังที่ LDP พรรคเดียวกวาดคะแนนส.ส.ได้กว่าครึ่งจึงไม่ได้หมายความว่าว่าที่นายกฯ
อาเบะจึงสามารถดำเนินนโยบายทุกประการตามอำเภอใจ
นโยบายด้านความมั่นคงที่น่าจะบรรลุผลได้จริง คือการยกระดับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ
กับญี่ปุ่นและเพิ่มงบประมาณกลาโหม นโยบายดังกล่าวจะได้ประโยชน์หลายประการ เช่น
เพิ่มขีดความสามารถด้านการทหารของประเทศ กระชับความสัมพันธ์สหรัฐฯ
โดยแบ่งเบาภาระงบประมาณที่รัฐบาลอเมริกาต้องจ่ายเพื่อป้องปรามจีนกับเกาหลีเหนือ
นายอาเบะอธิบายว่าภาวะที่กำลังรบของสหรัฐฯ ถดถอยลง
“ทำให้จีนก้าวร้าวยิ่งขึ้นต่อกรณีทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก”
มีข้อสังเกตว่านโยบายความมั่นคงของนายชินโซ
อาเบะสอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงของประธานาธิบดีบารัก
โอบามาอย่างน่าอัศจรรย์ใจทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ
ดังนั้นคำว่า ‘นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยว’
ภายใต้บริบทโลกปัจจุบันไม่ได้หมายความว่าเตรียมจะทำสงครามกับต่างประเทศหรือจะข่มขู่ก้าวร้าวโดยไม่คำนึงถึงมิติอื่นๆ
เช่นผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ความคิดความเห็นของประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย การแสดงออกทั้งหลายทั้งปวงจะถูกจำกัดให้อยู่ในขอบเขต
แต่การหาเสียงนั้นจำต้องวางภาพลักษณ์ของผู้นำประเทศที่เข้มแข็ง
พร้อมจะปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดิน
เพียงแต่จะปรับสมดุลอย่างไรระหว่างการสื่อกับคนในชาติกับการแสดงออกต่อต่างชาติ อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าพรรคการเมืองญี่ปุ่นโดยเฉพาะพรรค
LDP มีสัมพันธ์ยาวนานกับสหรัฐฯ หลายทศวรรษแล้ว
17 ธันวาคม 2012
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน ไทยโพสต์ ปีที่ 17 ฉบับที่ 5890 วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2555)
----------------------
บรรณานุกรม:
1. Japanese Defense and Security Policy and the “National
Defense Program Guidelines” (NDPG): Radical Changes or Business as Usual? http://www.ispionline.it/it/documents/WP%2045_2012.pdf
2. Postclassical realism and Japanese security policy. http://www.sfu.ca/~kawasaki/Kawasaki.pdf
3. LDP cruises to victory in Japan
election. http://www.ft.com/intl/cms/s/0/41186cb6-4735-11e2-8f03-00144feab49a.html#axzz2FDpwD0Xw
4. LDP heads for majority in return to power. http://www.japantimes.co.jp/text/nn20121216x1.html
--------------