ข้อเสียของการคว่ำบาตร

บ่อยครั้งที่การคว่ำบาตรไม่สำเร็จตามเป้าหรือได้ผลช้า มีราคาต้องจ่าย โดนโต้กลับ แต่ยังเป็นแนวทางที่นิยมและใช้วิธีนี้ก่อนเครื่องมืออื่นๆ

            ส่วนนี้นำเสนอข้อเสียของการคว่ำบาตร ดังนี้

          ประการแรก ไม่สำเร็จตามเป้า

            งานวิจัยของเมื่อปี 1990 ของ Gary Hufbauer ให้ข้อสรุปว่าการคว่ำบาตรได้ผลตามเป้าหมายเพียง 34% ส่วนใหญ่ได้ผลบ้างแต่ไม่สมบูรณ์

            คิวบาในสมัยฟิเดล คาสโตร (Fidel Castro) เป็นตัวอย่างที่รัฐบาลสหรัฐคิดว่าการคว่ำบาตรจะเป็นเหตุให้รัฐบาลสังคมนิยมนี้ต้องล่มสลาย พยายามกดดันด้วยการไม่ซื้อสินค้า คว่ำบาตรยาวนานกว่า 4 ทศวรรษแต่ไม่สำเร็จ กุมภาพันธ์ 2008 ประธานาธิบดีคาสโตร ก้าวลงจากตำแหน่งด้วยดีหลังครองอำนาจยาวนาน

            ในสงครามยูเครน 2022 รัฐบาลสหรัฐกับพวกคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย หวังให้กระทบเศรษฐกิจรัสเซียที่พึ่งพาการส่งออกพลังงานเป็นหลัก แต่จีนเร่งนำเข้าพลังงานรัสเซียอย่างรวดเร็ว

            ที่น่าสนใจคืออินเดียกับจีนซื้อน้ำมันรัสเซียแล้วขายต่อในราคาตลาดโลก หลายประเทศซื้อน้ำมันรัสเซียผ่านอินเดียกับจีนที่เป็นคนกลาง

            ล่าสุดสิงหาคม 2025 ทรัมป์ 2.0 ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียถึง 50% หากยังเป็นคนกลางขายน้ำมันรัสเซีย แต่รัฐบาลอินเดียไม่สนใจ

            การคว่ำบาตรจะไม่ค่อยได้ผลหากนานาชาติไม่ให้ความร่วมมือ

            อย่างไรก็ตาม แม้ไม่สำเร็จสมบูรณ์ตามเป้า อย่างน้อยได้แสงออก ฝ่ายตรงข้ามรับผลเสียหายบางส่วน หากยอมรับเป้าหมายเพียงเท่านี้อาจนับว่ามาตรการคว่ำบาตรบรรลุผลแล้ว เช่น แม้ล้มรัฐบาลคาสโตรไม่ได้แต่ช่วยสกัดไม่ให้คิวบาพัฒนา เป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่นๆ ว่าจะรับผลอย่างไรหากไม่ยอมจำนนต่อสหรัฐ

            การคว่ำบาตรช่วยลดทอนรายได้ บั่นทอนการพัฒนา สกัดการเสริมสร้างกองทัพของฝ่ายตรงข้าม

          ประการที่ 2 ได้ผลช้า

            การคว่ำบาตรมักต้องกินเวลา ได้ผลช้า ไม่ทันสถานการณ์

            มีข้อมูลว่านับจากกองทัพรัสเซียบุกยูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ 2022 จนกรกฎาคม 2025 (2 ปีครึ่ง) สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกว่า 2,500 เรื่อง ทั้งกระทำต่อประเทศ บริษัทเอกชนและรายบุคคล แต่ยังไม่สามารถหยุดสงคราม

            การคว่ำบาตรจึงถูกเลือกใช้เป็นเครื่องเตือนหรือบั่นทอนบ่อนทำลายระยะยาว ยุทธศาสตร์ปิดล้อมที่ตั้งใจใช้เครื่องมือนี้ยาวนานหลายปีหลายทศวรรษ

          ประการที่ 3 มีราคาที่ต้องจ่าย

            การคว่ำบาตรประเทศอื่นมักต้องจ่ายราคา บางครั้งราคาที่จ่ายสูงกว่าความสูญเสียของผู้ถูกคว่ำบาตร ราคาที่ต้องจ่ายจึงเป็นข้อจำกัด ไม่สามารถคว่ำบาตรรุนแรงตามต้องการ โดยเฉพาะหากกระทบประชาชนของตน กลุ่มผลประโยชน์ การสนับสนุนจากภายในประเทศจึงสำคัญ

            ในสงครามยูเครนรัฐบาลสหรัฐกับพันธมิตรตั้งใจคว่ำบาตรให้เศรษฐกิจรัสเซียพัง เรื่องนี้จำต้องคว่ำบาตรพลังงานซึ่งส่งผลต่อชาติสมาชิกอียูด้วย การที่อียูเลิกนำเข้าก๊าซธรรมชาติรัสเซียที่ราคาถูก หันไปนำเข้าจากประเทศอื่นที่ราคาสูงกว่า (ต้นทุนสูงกว่า เช่น ค่าขนส่ง กระบวนการผลิต) ส่งผลต่อเศรษฐกิจอียู การตีตราว่ารัสเซียเป็นศัตรูจึงมีราคาที่ต้องจ่าย

            ตลกร้ายคือการจ่ายราคาของอียูไม่ค่อยได้ผลเพราะจีนเข้าซื้อแทนทันที สิงหาคม 2022 จีนนำเข้าพลังงานรัสเซียถึง 8,300 ล้านดอลลาร์ (เพิ่ม 68% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) เป็นสถิติสูงสุด นำเข้าทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ถ้านับครึ่งปีแรกจีนนำเข้าเกือบ 44,000 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 74% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ตัวเลขนำเข้าเหล่านี้ไม่นับรวมที่ส่งผ่านท่อที่จีนไม่เปิดเผยข้อมูล

            บางครั้งฝ่ายการเมืองจะพยายามปกปิดไม่ให้สังคมรับรู้ตัวเองเสียหายหนักมากเพียงไร ข่าวตามสื่อจึงไม่ใช่ทั้งหมด ความเสียหายจริงมีมากกว่านั้นมาก ในกรณีสงครามยูเครน (2022) อียูแบกรับความเสียหายมากกว่าสหรัฐหลายเท่า และสร้างความเสียหายแก่คนทั้งโลก พวกที่ได้รับผลรุนแรงสุดคือประเทศยากจน พวกคนรากหญ้าทั้งหลาย

            ประธานาธิบดีปูตินกล่าวซ้ำหลายครั้ง ยอมรับว่าการคว่ำบาตรทำให้เศรษฐกิจรัสเซียเสียหาย แต่ส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ จนถึงระดับโลก

            น่าคิดว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐพวกกับสร้างความเสียหายแก่ประชาชน ประเทศที่ไม่ใช่คู่
กรณีมากน้อยเพียงไร

            พฤศจิกายน 2023 อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำจิตวิญญาณอิหร่าน เรียกร้องให้ชาติอิสลามทั้งหลายคว่ำบาตรอิสราเอล โดยเฉพาะน้ำมันกับอาหาร ตัดขาดอิสราเอลทางเศรษฐกิจอย่างสิ้นเชิง หลังอิสราเอลปิดล้อมและถล่มฉนวนกาซาอย่างหนัก แต่ไม่มีชาติใดทำตามข้อเรียกร้อง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเมืองระหว่างประเทศ มีผลต่อเศรษฐกิจตัวเอง ราคาที่ต้องจ่ายสูงเกินไป

            ราคาที่ต้องจ่ายจึงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง

          ประการที่ 4 ประชาชนรับผลรุนแรง

            ทุกครั้งที่คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ประชาชนจะรับผลก่อนและรับผลรุนแรงสุด มีงานวิจัยพบว่าในสงครามอ่าวเปอร์เซีย (Gulf War, 1990–1991) คณะมนตรีความมั่นคงใช้มาตรการแรงมาก ผลคือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเสียชีวิตมากกว่า 500,000 ราย (ข้อมูลบางแหล่งสูงกว่านี้) อันเป็นผลทั้งทางตรงทางอ้อมจากการคว่ำบาตร

            เนื่องจากสงครามทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โรงไฟฟ้า โรงบำบัดน้ำเสีย และระบบชลประทาน การคว่ำบาตรทำให้อิรักไม่สามารถนำเข้าอะไหล่หรือเทคโนโลยีเพื่อซ่อมแซมสิ่งเหล่านี้ น้ำดื่มไม่สะอาด เกิดโรคระบาด เช่น อหิวาตกโรคและไทฟอยด์ โรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้า ตู้เย็นสำหรับเก็บวัคซีนกับยาปฏิชีวนะใช้การไม่ได้ เครื่องมือแพทย์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าก็กลายเป็นเศษเหล็ก เป็นเหตุเด็กเล็กเสียชีวิต

            การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรุนแรงส่งกระทบต่อประชาชนวงกว้าง ยิ่งคว่ำบาตรนานยิ่งกระทบรุนแรง โดยเฉพาะต่อคนรากหญ้าที่จะโดนก่อนและรับผลกระทบแรงสุด แต่การเมืองระหว่างประเทศจะให้ความสำคัญกับการกดดันฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมักหมายถึงตัวรัฐบาล ไม่ค่อยเอ่ยถึงผลกระทบต่อประชาชน

            อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) กล่าวว่า “ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม” หมายถึงปฏิบัติต่อคนต่างชาติด้วย “ควรปฏิบัติต่อคนเกาหลีเหนือด้วยความเคารพ ข้าพเจ้าคิดว่าการคว่ำบาตรที่เรากระทำต่อพวกเขาทำร้ายประชาชนที่ทุกข์ยากจากจอมเผด็จการ (ของพวกเขาอยู่แล้ว) แต่ไม่ส่งผลต่อผู้นำเกาหลีเหนือเท่าไรนัก”

            วิเคราะห์: อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์เตือนว่าการคว่ำบาตรรุนแรงกระทบต่อประชาชนมากเกินไป ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว แต่อีกมุมมองเห็นว่าด้วยการคว่ำบาตรรุนแรงช่วยหยุดหรือสกัดสงคราม จึงลดความสูญเสีย และกระตุ้นให้คนในประเทศนั้นจัดการรัฐบาลตัวเอง เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน ให้คนในประเทศศัตรูฆ่าทำลายกันเองย่อมดีกว่าให้ทหารของเราจำนวนมากบาดเจ็บล้มตาย โลกเป็นเช่นนี้

          ประการที่ 5 ต่างชาติตอบโต้

            ต่างชาติในที่นี้หมายถึงประเทศที่ไม่ใช่คู่กรณี ตอบโต้ด้วยหลายวิธี ตั้งแต่ประณาม คว่ำบาตร

            ในสงครามฮามาส-อิสราเอล รัฐบาลซาอุฯ คว่ำบาตรอิสราเอล ระงับเจรจาปรับสัมพันธ์กับอิสราเอล ประณามการโจมตีที่ทำร้ายพลเรือน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ บ่อนทำลายความมั่นคงของภูมิภาค สันติภาพโลก ขอให้นานาชาติร่วมกดดันอิสราเอลหยุดการโจมตีนี้ นอกจากซาอุฯ แล้ว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โอมาน ได้ประณามเช่นกัน สมาชิกทั้งหกของ GCC ขอให้หยุดยิงทันที

            องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) แถลงว่าอิสราเอลเป็นฝ่ายรุกรานก่อน ละเมิดข้อมติสหประชาชาติ ทำร้ายชาวปาเลสไตน์ทุกวัน เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติทำหน้าที่หยุดอิสราเอล ปกป้องปาเลสไตน์ ปฏิบัติตามข้อมติต่างๆ

            การตอบโต้จากนานาชาติสร้างแรงกดดัน อิสราเอลเป็นตัวอย่างที่ภาพลักษณ์เสียหาย เกิดกระแสต้านยิว

            ข้อเสียของการคว่ำบาตรเป็นมุมมองเชิงลบ ในมุมมองที่เป็นบวก ความมั่นคงของชาติสำคัญที่สุด บางครั้งจำต้องเสียสละบางอย่าง แม้กระทั่งเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผลประโยชน์สำคัญยิ่ง (vital interest) ประชาชนผู้รักชาติต้องรู้จักบทบาทหน้าที่ของตน จะมัวแต่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้

            เมื่อมีราคาที่ต้องจ่ายแต่หากคุ้มค่า หรือจ่ายราคาน้อยกว่าวิธีการอื่น การคว่ำบาตรยังเป็นวิธีที่น่าสนใจ สามารถปรับราคาที่ต้องจ่ายตามต้องการ ยังเป็นแนวทางที่นิยมและใช้วิธีนี้ก่อนใช้เครื่องมืออื่นๆ

14 กันยายน 2025
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 29 ฉบับที่ 10529 วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568)

------------

บรรณานุกรม :

1. Are Donald Trump's tariffs the new sanctions? (2025, July 22). DW. Retrieved from https://www.dw.com/en/are-donald-trumps-tariffs-the-new-sanctions/a-73280374

2. China’s Spending on Russian Energy Climbs to Record $8.3 Billion. (2022, September 20). Bloomberg. Retrieved from https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-09-20/china-s-spending-on-russian-energy-climbs-to-record-8-3-billion?srnd=premium-asia&leadSource=uverify%20wall

3. Donald Trump says India's 50% tariff was 'big blow' to Russia's economy. (2025, August 12). Hindustan Times. Retrieved from https://www.hindustantimes.com/india-news/donald-trump-says-indias-50-tariff-was-big-blog-to-russias-economy-101754959652389.html

4. If Trump can achieve North Korea peace, he would be Nobel-worthy: Carter. (2018, May 23). The Japan Times. Retrieved from https://www.japantimes.co.jp/news/2018/05/23/asia-pacific/politics-diplomacy-asia-pacific/trump-can-achieve-north-korea-peace-nobel-worthy-carter/#.WwTbGO6FPZ4

5. India and China snap up Russian oil in April above ‘price cap’. (2023, April 19). Al Jazeera. Retrieved from https://www.aljazeera.com/economy/2023/4/18/india-and-china-snap-up-russian-oil-in-april-above-price-cap

6. Iran urges sanctions on Israel, says Hamas ready for more 'surprise' attacks. (2023, November 1). Al-monitor. Retrieved from https://www.al-monitor.com/originals/2023/11/iran-urges-sanctions-israel-says-hamas-ready-more-surprise-attacks#ixzz8Hrm6zdKK

7. Kurian, George Thomas (Ed.). (2011). Sanctions and Embargoes. In The Encyclopedia of Political Science. (pp.1507-1509). DC: CQ Press.

8. OIC slams Israeli military aggression against Palestinians. (2023, October 9). New Strait Times. Retrieved from https://www.nst.com.my/world/world/2023/10/964680/oic-slams-israeli-military-aggression-against-palestinians#google_vignette

9. Palmer, Glenn., Morgan, T. Clifton. (2006). A Theory of Foreign Policy. UK: Princeton University Press.

10. Putin: Russia won’t demand $3bn early repayment that would ruin Ukraine. (2014, November 15). Xinhua. Retrieved from http://rt.com/politics/official-word/205887-putin-interview-sanctions-ukraine/

11. Russia overtakes Saudi Arabia as China’s top oil supplier. (2023, March 20). CNN. Retrieved from https://www.aljazeera.com/economy/2023/3/20/russia-overtakes-saudi-arabia-as-chinas-top-oil-supplier

12. Saudis said to tell US they are halting normalization talks with Israel. (2023, October 14). Times of Israel. Retrieved from https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/saudis-said-to-tell-us-they-are-halting-normalization-talks-with-israel/

13. Tyler, Patrick. (2006). A World of Trouble: The White House and the Middle East--from the Cold War to the War on Terror. USA: Farrar, Straus and Giroux.

-----------------