สงครามอิสราเอล-อิหร่าน (ไซออนิสต์-ชีอะห์) 2025 (4)

หากย้อนดูอดีต มองภาพรวม ข้อมูลต่างๆ ล้วนบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์มีนโยบายตรงกัน สนับสนุนกันและกัน

            แต่ไหนแต่ไรไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครท ต่างต่อต้านโครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน สองพรรคต่างกันตรงการแสดงออกที่ดูก้าวร้าวรุนแรงมากน้อยเท่านั้น

            เนทันยาฮูกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหยุดภัยคุกคามก่อนคุกคามจริง รอบก่อนคือนาซีที่สังหารอิสราเอล 6 ล้านคน คราวนี้คืออาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องชิงลงมือก่อน เป็นการป้องกันตัวเอง

ย้อนหลัง JCPOA:

            หากจะเข้าใจต้นเหตุของสงครามอิสราเอล-อิหร่าน (ไซออนิสต์-ชีอะห์) 2025 ต้องเท้าความอย่างน้อยถึงข้อตกลง JCPOA

            ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับอิหร่านเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหลังรัฐบาลทรัมป์ (สมัยแรก) ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) เพียงฝ่ายเดียว ในขณะที่คู่สัญญาอื่นๆ (รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันและอิหร่าน) ยังคงรักษาข้อตกลงเดิม พร้อมกับออกมาตรการคว่ำบาตร ห้ามบริษัทเอกชนซื้อขายน้ำมันกับอิหร่าน ทั้งยังห้ามประเทศอื่นๆ ด้วย ขู่ว่าใครซื้อขายน้ำมันอิหร่านจะถูกเล่นงาน

            รัฐบาลทรัมป์ตีตราอิหร่านเป็นปรปักษ์สำคัญลำดับต้น ขู่โจมติหร่านตั้งแต่สมัยนั้น การย้ำว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามร้ายแรง หวังสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ส่งเสริมก่อการร้าย บ่อนทำลายความมั่นคงประเทศเพื่อนบ้าน ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องเก่าที่พูดซ้ำไปซ้ำมา

            ข้อสรุปคือ ยุทธศาสตร์แม่บทสหรัฐตั้งเป้าหมายล้มล้างระบอบอิหร่านหลายทศวรรษแล้ว ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาอิหร่านจึงตกเป็นเป้า รัฐบาลสหรัฐทุกชุดจะหาเรื่องเล่นงาน ออกมาตรการคว่ำบาตรยืดหยุ่นตามบริบท รวมความแล้วรัฐบาลสหรัฐหวังล้มระบอบอิหร่าน เป็นนโยบายเดียวกับอิสราเอล

            การยกเลิก JCPOA เพียงฝ่ายเดียวนำสู่สงครามปี 2025

สหรัฐคือสนับสนุนรายใหญ่:

            อาวุธหลักที่อิสราเอลใช้หลายอย่างมาจากสหรัฐ เครื่องบินรบ F-35 ระเบิดนำวิถี ขีปนาวุธต่างๆ อีกทั้งสหรัฐช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสาร ชี้จุดโจมตีคล้ายกรณีสนับสนุนยูเครนรบรัสเซีย

            การสนับสนุนอาวุธเครื่องกระสุนสำคัญมาก เหตุที่ยูเครนรบได้นานหลายปีเพราะนาโตส่งอาวุธให้ต่อเนื่อง ถึงขั้นมอบปืนใหญ่ รถถัง เครื่องบินรบของสมาชิกนาโต

            ในกรณีอิสราเอล รัฐบาลสหรัฐส่งเครื่องกระสุนให้ต่อเนื่อง ต่างจากอิหร่านที่ไม่มีผู้สนับสนุน ดังนั้น นานวันเข้าอาวุธกองทัพอิหร่านจะร่อยหรอ ท้ายที่สุดกองทัพอิหร่านจะไม่เหลืออาวุธสู้อิสราเอล (อาวุธอิหร่านที่สามารถโจมตีอิสราเอล คือขีปนาวุธกับโดรนพิสัยกว่าพันกิโลเมตร และเครื่องบินรบจำนวนหนึ่ง ส่วนปืนใหญ่ รถถัง ทหารนับแสนนับล้านไม่มีประโยชน์)

            รัฐบาลตะวันตกที่ประณามความก้าวร้าว การละเมิดสิทธิมนุษยชน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของ

อิสราเอล หากต้องการหยุดอิสราเอลทำได้ง่ายนิดเดียว คือ ไม่ขายอาวุธให้ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะระงับขายช่วงหนึ่งแล้วรีบกลับมาขายอีกครั้งเมื่อสบโอกาส เรื่องนี้สะท้อนว่าแท้จริงแล้วพวกตะวันตกกำลังทำอะไรอยู่

ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ:
            นับจากเริ่มสงคราม ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าไม่อยากให้แค่หยุดยิง ต้องการขจัดภัยนิวเคลียร์นี้อย่างราบคาบ หลังรบเพียงสัปดาห์เดียว ประธานาธิบดีทรัมป์ขอให้อิหร่านยอมแพ้โดยไร้เงื่อนไข ทั้งยังขู่รู้ว่าผู้นำสูงสุดอิหร่านอยู่ที่ใด เป็นเป้าหมายง่ายๆ (easy target) แต่ตอนนี้ยังไม่คิดว่าต้องสังหารท่าน เรื่องนี้จะตัดสินใจอีกที

            ผู้นำสหรัฐอาจเพียงแค่ขู่และอาจลงมือจริงก็เป็นได้ สงครามรอบนี้อิสราเอลสังหารผู้นำกองทัพ นักวิทยาศาสตร์ บุคคลสำคัญหลายคน อิสราเอลใช้แนวทางนี้เรื่อยมา

            เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 เครื่องบินรบสหรัฐเข้าโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่านหลายแห่ง ที่ตั้งในฐานลึกในภูเขาหรือชั้นใต้ดิน (เมือง Fordow กับ Natanz และ Isfahan) ที่กองทัพอิสราเอลไม่สามารถทำลาย การโจมตีนี้ช่วยอิสราเอลโดยตรง ตรงตามที่ทางการอิสราเอลร้องขอ

            วิเคราะห์: เรื่องที่รัฐบาลสหรัฐกับอิสราเอลไม่เอ่ยถึงคือ การโจมตีของตนละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ  ผู้พยายามอ้างตัวเป็นผู้นำฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตยกับอิสราเอล ไม่ลดละเล่นงานโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน โดยใช้ข้อมูลเท็จ บอกให้นานาชาติยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ตัวเองละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติอเสมอ ใช้กำลังทหารกับอิหร่านด้วยข้ออ้างเทียมเท็จ ไม่แปลกที่จีน รัสเซียและอีกหลายประเทศกำลังร่วมกันสร้างระเบียบโลกใหม่ที่เท่าเทียมเป็นธรรมกว่าที่เป็นอยู่

            พวกตะวันตกเล่นงานรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครน ชี้ว่าละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ แสดงอำนาจบาตรใหญ่ สหรัฐไม่ต่างจากรัสเซียเลย

            ทางการจีนออกมากล่าวถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ชี้ว่าสหรัฐโจมตีอิหร่าน ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติกับกฎหมายระหว่างประเทศ ขยายความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง

            แต่รัฐบาลสหรัฐไม่สนใจกฎบัตรสหประชาชาติ เรื่องราวสงครามอิสราเอล-อิหร่านเป็นประเด็นเดียวในหลายเรื่อง มหาอำนาจฝ่ายประชาธิปไตยไม่สนใจกฎระเบียบนานาชาติ

รัฐบาลสหรัฐหนุนไซออนิสต์:

            ในทางวิชาการ บางคนผูกรัฐบาลสหรัฐเข้ากับลัทธิไซออนิสต์อย่างแนบแน่น

            ตามข้อตกลงสันติภาพออสโล 1993 (Oslo Peace Accords) ปาเลสไตน์รับรองสถานะความเป็นประเทศของอิสราเอล พร้อมกับที่อิสราเอลรับรองสถานะขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ว่าเป็นตัวแทนปาเลสไตน์ ผู้ดูแลบริหารปกครองภายในดินแดนส่วนต่างๆ ของเวสต์แบงก์ (West Bank) กับฉนวนกาซา (แต่ยังไม่ได้รับรองรัฐปาเลสไตน์) อิสราเอลต้องทยอยมอบอำนาจการดูแลพื้นที่คืนแก่ PLO (ปัจจุบันคือ PA) ท้ายที่สุดจะเกิดรัฐปาเลสไตน์มีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง

            แต่สหรัฐเปลี่ยนท่าที ธันวาคม 2017 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามยอมรับเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงของอิสราเอล (ขัดข้อตกลงออสโล) เป็นรัฐบาลต่างชาติประเทศแรกที่รับรอง ในขณะที่นานาชาติไม่เห็นด้วย

            ทรัมป์เริ่มต้นด้วยการพูดว่าที่ตัดสินใจทำเช่นนี้ เพื่อให้การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เข้าสู่มิติใหม่ เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อการแสวงหาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

            ในอนาคตเยรูซาเล็มจะยังคงเป็นดินแดนของคนหลายศาสนา พวกยิวจะยังคงอธิษฐานที่ Western Wall พวกนับถือคริสต์ที่เดินทางไปที่ Stations of the Cross ส่วนมุสลิมจะละหมาดที่มัสยิด Al-Aqsa

พูดเสริมว่าการตัดสินใจดังกล่าว ไม่มีผลต่อผลลัพธ์สุดท้าย ทั้งเรื่องเขตแดนของรัฐอิสราเอลในเยรูซาเล็ม

            รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะให้เกิดข้อตกลงสันติภาพถาวร เรื่องเขตพรมแดนจะขึ้นอยู่กับการเจรจา รวมทั้งอธิปไตยของอิสราเอลต่อกรุงเยรูซาเล็ม ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับการเจรจาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สหรัฐยังคงสนับสนุนแนวทางทวิรัฐ (two-state solution) หากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นร่วมกัน

            เมื่อย้อนดูเหตุผลที่ทรัมป์พูดสมัยนั้น พบว่าหลายเรื่องเป็นข้ออ้างให้ฟังดูดีมากกว่า ความจริงที่ปรากฎคืออิสราเอลกินดินแดนปาเลสไตน์มากขึ้นทุกปี และปฏิเสธแนวทางทวิรัฐแล้ว กาซาดูเหมือนกำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล

            ข่าวรายวันจะเห็นภาพความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิสราเอลเป็นระยะ แต่หากย้อนดูอดีต มองภาพรวม ข้อมูลต่างๆ ล้วนบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์มีนโยบายตรงกัน สนับสนุนกันและกัน ข่าวความขัดแย้งที่เห็น เป็นเพียงภาพหนึ่งที่ปรากฏเท่านั้น ต้องแยกภาพลวงตาออกจากความจริง

            สงครามอิสราเอล-อิหร่าน (ไซออนิสต์-ชีอะห์) 2025 เป็นหลักฐานอีกชิ้นว่ารัฐบาลสหรัฐกับไซออนิสต์ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด มียุทธศาสตร์ตะวันออกกลางร่วมกัน

13 กรกฎาคม 2025
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 29 ฉบับที่ 10466 วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568)

--------------

ภาพ: กรุงเยรูซาเล็มในจินตนาการ

เครดิตภาพ: ภาพจากปัญญาประดิษฐ์

บรรณานุกรม :

1. China strongly condemns US attacks on Iran and the bombing of nuclear facilities under the safeguards of the IAEA: Chinese envoy. (2025, June 23). Global Times. Retrieved from https://www.globaltimes.cn/page/202506/1336736.shtml

2. Cleveland, William L., Bunton, Martin. (2016). A History of the Modern Middle East (6th Ed.). USA: Westview Press.

3. Intense Israeli strikes hit Tehran after Trump demands ‘unconditional surrender’. (2025, June 18). AP. Retrieved from https://apnews.com/article/israel-iran-missile-attacks-nuclear-news-tehran-trump-06-17-2025-3f08988b5e8fd375645967b6e22916f3

4. 'Never again is now': Netanyahu announces strikes on Iran nuclear targets. (2025, June 13). Jpost. Retrieved from https://www.jpost.com/israel-news/defense-news/article-857577

5. The White House. (2017, December 6). Statement by President Trump on Jerusalem. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/the-press-office/2017/12/06/statement-president-trump-jerusalem

6. Trump Calls for Iran to ‘Surrender’ as He Weighs Military Action. (2025, June 17). WSJ. Retrieved from https://www.wsj.com/world/middle-east/trump-calls-for-unconditional-surrender-as-he-loses-patience-with-iran-773cb20d

-----------------