America First ในอีกมุมมอง (2)
แต่แล้วการเป็นสมาชิกนาโต พันธมิตรใกล้ชิดกลับไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เมื่อสหรัฐต้องการครอบครองกรีนแลนด์ หวังให้แคนาดาสิ้นชาติ
คอลัมนิสต์จีนวิพากษ์
“ลัทธิคุ้มครองทางการค้า" (trade protectionism) ของทรัมป์
2.0 บทความนี้เป็นตอนที่ 2 พร้อมการวิเคราะห์ ดังนี้
โลกต้องร่วมมือไม่แบ่งแยกสร้างขั้ว:
มนุษย์มีสิทธิ์มีชีวิตที่ดี เจริญก้าวหน้า เลือกเส้นทางชีวิต
ประเทศชาติก็เช่นกัน ทุกชาติไตร่ตรองเลือกเส้นของตนโดยไม่จำต้องเหมือนคนอื่น ยึดค่านิยมของตน
รัฐบาลสหรัฐเปิดฉากมาตรการกำแพงภาษี โดยมีวาระซ่อนเร้น
เป้าหมายสุดท้ายคือเพื่อความเป็นเจ้า ครอบงำประเทศอื่นๆ
ไม่สนใจว่าสร้างความเสียหายแก่ประเทศอื่นอย่างไร
ในงานประชุมสมัชชาสหประชาชาติประจำปี
2022 นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติแสดงสุนทรพจน์
ชี้ว่า “โลกกำลังเจอปัญหาใหญ่ นับวันยิ่งแบ่งแยก ความไม่เท่าเทียมขยายกว้าง ความท้าทายแผ่ขยายออกไป”
เราต้องไม่อยู่กับภาพลวงตา ค่าครองชีพกำลังเข้าสู่วิกฤต (cost-of-living
crisis) ความไว้เนื้อเชื่อใจป่นปี้ ความไม่เท่าเทียมแผ่กว้าง ประชาชนทุกข์ยาก
กฎบัตรสหประชาชาติตกอยู่ในอันตราย หน้าที่ของเราคือต้องลงมือแก้ แต่ประชาคมโลกยังไม่พร้อม
ไม่ยินดีจัดการปัญหาใหญ่
ต้องปรับเปลี่ยนระบบการเงินโลกที่สร้างโดยประเทศร่ำรวย
เป็นผู้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากระบบการเงินโลก ต้นเหตุความไม่เท่าเทียม
นับวันประเทศพัฒนากับกำลังพัฒนาแตกต่างมากขึ้น ไม่ไว้วางใจต่อกัน
ไม่อยากร่วมมือกัน ถ้าต้องการพูดถึงความเท่าเทียมและเป็นธรรม เลขาธิการสหประชาชาติสรุปว่า นานาชาติต้องร่วมมือไม่แบ่งแยกสร้างขั้ว
แนวทางนี้จะช่วย “ทั้งโลก”
ยุทธศาสตร์ให้เลือกข้าง:
ถ้ายึดแนวคิดสงครามเย็นใหม่
ทรัมป์ 2.0 กำลังให้นานาชาติเลือกข้าง โดยใช้มาตรการภาษีเป็นเครื่องกดดัน
เป็นส่วนหนึ่งของการจัดระเบียบโลกใหม่
ยุทธศาสตร์ให้เลือกข้างเป็นแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐใช้เรื่อยมา
สมัยสงครามเย็นให้แต่ละประเทศเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยหรือสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
ตีตราว่าฝ่ายหลังชั่วร้าย ต้องกำจัดให้สิ้น
หลังสิ้นสงครามเย็นรัฐบาลสหรัฐยังใช้ยุทธศาสตร์ให้เลือกข้าง
ยกตัวอย่าง
เหตุก่อการร้ายเวิรด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อ 11 กันยา 2001 (เหตุ 9/11) เป็นจุดเริ่มภัยคุกคามใหม่
สื่อตะวันตกโหมข่าวสร้างกระแส รัฐบาลบุชใช้โอกาสดังกล่าวขยายอิทธิพลทั่วโลก
ประกาศว่าประเทศที่ไม่ร่วมมือกับสหรัฐต่อต้านผู้ก่อการร้าย
ถือว่าประเทศนั้นเป็นศัตรู ผลของการเลือกข้างในแง่มุมหนึ่งคือการสกัดกั้นรัสเซียกับจีนที่กำลังก้าวขึ้นมา
รัฐบาลไบเดนพยายามกระชับอำนาจสหรัฐในเวทีโลกด้วยประเด็นประชาธิปไตย
ชี้ว่าระบอบจีนไม่ใช่ประชาธิปไตย เป็นศัตรูประชาธิปไตย
ประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายต้องร่วมกันต้านจีน
กลับสู่แนวคิดแบ่งขั้วด้วยอุดมการณ์การเมือง
เลือกข้างแล้วจะปลอดภัย?:
นาโตเกิดจากนโยบายต้านสหภาพโซเวียต
ในสมัยนั้นกองทัพโซเวียตเข้ายึดหลายประเทศในยุโรปตะวันออก
ใช้แนวทางเศรษฐกิจการเมืองแบบสังคมนิยม ชาติยุโรปตะวันตกอ่อนแอ
การตั้งกลุ่มพันธมิตรทางทหารโดยมีสหรัฐร่วมอยู่ด้วยจึงเป็นประโยชน์
ทุกวันนี้ก็เป็นเช่นนั้น นาโตพยายามรับสมาชิกเพิ่ม เท่ากับลดอิทธิพลรัสเซีย
ดังนั้นความขัดแย้งตั้งแต่สมัยสงครามเย็นยังคงอยู่
รัสเซียพยายามหาช่องลดความตึงเครียด เพิ่มความร่วมมือ
ซึ่งเท่ากับลดความเป็นเอกภาพนาโต ขวางผลประโยชน์สหรัฐ
ทางฝ่ายสหรัฐจึงชี้ว่ารัสเซียต้องการบ่อนทำลายฝ่ายประชาธิปไตย
เป็นระบบคิดที่วนไปวนมาอย่างนี้ ต่างชี้อีกฝ่ายว่าเป็นปรปักษ์
สงครามยูเครนเป็นผลจากยุทธศาสตร์นาโตบ่อนทำลายรัสเซียโดยตรง
ชาติสมาชิกนาโตให้ความร่วมมือ แต่แล้วการเป็นสมาชิกนาโต
พันธมิตรใกล้ชิดกลับไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เมื่อสหรัฐต้องการครอบครองกรีนแลนด์
หวังให้แคนาดาสิ้นชาติ
มีนาคม
2025 Melanie Joly รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแคนาดากล่าวว่า
“สหรัฐอเมริกาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิด ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว”
รัฐบาลสหรัฐครั้งหนึ่งมีบทบาทสำคัญปกป้องนาโต
บัดนี้กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงของสมาชิกนาโตเสียเอง ประกาศต้องการยึดครองกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก
แคนาดาต้องสิ้นชาติ ตามแนวทางจักรวรรดินิยม
รัฐบาลแคนาดาประกาศว่าตนกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมมากที่สุด
นั่นคือการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ต่อต้านปรปักษ์ผู้รุกราน
โลกหวังอยู่ดีมีสุขไม่ใช่เศรษฐกิจถดถอย:
รัฐบาลทรัมป์
2.0 ขึ้นภาษีศุลกากรหลายสิบประเทศทั่วโลกตามใจชอบ
ละเมิดกติกาการค้าเสรีขององค์การค้าโลก ไม่สนใจคำทักท้วงของนานาชาติ
เป็นหลักฐานชี้ชัดว่ารัฐบาลสหรัฐละทิ้งการค้าเสรีแล้ว กระทบชีวิตหลายพันล้านคนทั่วโลก
ดังที่หลายสถาบันฟันธงแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว คนตกงาน อดอยากยากไร้มากขึ้น
ที่เห็นตอนนี้คือระบบเศรษฐกิจปั่นป่วนวุ่นวาย ธุรกิจการค้าไม่แน่นอน
ซ้ำเติมสภาพปัญหาที่มีอยู่แล้วให้ปวดหัวกว่าเดิม หากสงครามเศรษฐกิจยืดเยื้อจะยิ่งเสียหาย
สหรัฐได้รับผลเสียเช่นกัน
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าการเก็บภาษีช่วยลดขาดดุลการค้า
แต่สินค้าแพงทำให้การจับจ่ายซื้อของลดลง ส่งผลเป็นลูกโซ่ แต่ทรัมป์ 2.0
ไม่ยอมรับคำเตือน ชี้ว่ามาถูกทางแล้ว
เมษายน
2025 เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน 104% กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศว่าจะไม่ยอมให้ใครละเมิดหนทางพัฒนาประเทศของจีน
จะไม่อดทนต่อการละเมิดอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์
จะตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิกับผลประโยชน์อันชอบธรรม ย้ำว่าไม่มีใครชนะในสงครามภาษี
กองทุนการเงินระหว่างประเทศกับนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก ประเมินความเสียหายอย่างละเอียดทั้งระดับโลกและแต่ละประเทศ
เตือนเศรษฐกิจอาจถดถอย
ตรงข้ามกับการกีดกันคือส่งเสริมการค้าการพัฒนา
ประธานาธิบดีสี
จิ้นผิง กล่าวว่า “ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง” (Belt and Road Initiative: BRI) ไม่ใช่แผนลับอะไรของจีนตาม แต่มุ่งผลประโยชน์แก่ทุกประเทศและประชาชน
ด้วยการปรึกษาหารือและร่วมมือกัน บนฐานคิดแบ่งปันผลประโยชน์อย่างยุติธรรม
จีนเป็นฝ่ายได้ดุลจากการค้าระหว่างประเทศ
มีเงินสะสมมากมาย BRI คือการนำเงินกำไรที่ได้ไปลงทุนอีกครั้งเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง
ในรูปการกู้ยืมระหว่างประเทศเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เชื่อมต่อทั้งเอเชีย
ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้
อย่างไรก็ตาม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลของ BRI ทำให้อิทธิพลจีนขยายตัวอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่อาจปฏิเสธเช่นกันว่าล่าสุด
150 ประเทศเข้าร่วม สร้างกว่า 1,100 โครงการ
ไม่เพียงจีนลงทุนต่างประเทศ
นักลงทุนต่างชาติยังเห็นจีนน่าลงทุนมาก ปี 2024 บริษัทต่างชาติเกือบ 60,000
แห่งทำธุรกิจในจีน สูงกว่าปีก่อน 9.9%
ในขณะที่ฝ่ายสหรัฐพยายามปิดล้อม
จีนดำเนินนโยบายเปิดกว้าง ติดต่อเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม
จีนที่มีรัฐบาลคอมมิวนิสต์ยึดการค้าเสรีร่วมกับนานาชาติ
ส่วนรัฐบาลสหรัฐหันหลังให้ทุนนิยมเสรีมากขึ้นทุกที
จีนที่ก้าวขึ้นมา:
เมื่อชาติใดๆ
มั่งคั่งมั่นคงย่อมมีสิทธิถูกมองว่าคุกคามอีกประเทศหนึ่ง บั่นทอนผลประโยชน์
ในแวดวงวิชาการมีความเห็นหลากหลาย
ทั้งกลุ่มที่เห็นว่าจีนจะก้าวขึ้นมาเทียบเคียงสหรัฐ
กับอีกพวกที่เห็นว่าจีนยากจะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ
Robert R.
Bianchi จาก University of Chicago คิดว่า
“เส้นทางสายไหมใหม่เป็นหัวหอกนโยบายสร้างความเป็นมหาอำนาจของจีน”
จีนเจาะเข้าประเทศต่างๆ เข้าไปมีอิทธิพลต่อสังคมวัฒนธรรมประเทศเหล่านี้
ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบงการของชนชั้นปกครองจีน
การวิเคราะห์ชี้ว่าสงครามการค้ารอบนี้สืบเนื่องจากทรัมป์สมัยแรก
จีนยังเป็นเป้าหมายหลัก จีนที่ก้าวขึ้นมาคุกคามสหรัฐ ฝ่ายสหรัฐจึงพยายามจัดการ
การแข่งขันช่วงชิงดำเนินต่อไป
----------------
1. China urges U.S. to cancel "reciprocal
tariffs": commerce ministry. (2025, April 13). Xinhua. Retrieved
from https://english.news.cn/20250413/e9eb274039da4b2ab53798816cdafdc9/c.html
2.Ellis, James O. (2011). The Impact of 9/11 on U.S.
Foreign Policy. In The 9/11 encyclopedia. (2nd Ed. pp.1-4). USA: ABC-CLIO,
LLC.
3. Facing Trump’s threats, Canada shifts defense links away
from US. (2025, March 21). Defense News. Retrieved from
https://www.defensenews.com/global/the-americas/2025/03/20/facing-trumps-threats-canada-shifts-defense-links-away-from-us/
4. New Silk Road spearhead of China’s campaign to become
great power on world stage: Bianchi. (2018, June 12). Tehran Times.
Retrieved from
http://www.tehrantimes.com/news/424363/New-Silk-Road-spearhead-of-China-s-campaign-to-become-great-power
5. U.S. tariffs: The world needs prosperity, not recession.
(2025, April 30). Xinhua. Retrieved from
https://en.people.cn/n3/2025/0430/c98649-20309850.html
6. What is NATO and why was it created? (2023, June 13). DW.
Retrieved from
https://www.dw.com/en/what-is-nato-and-why-was-it-created/a-60688639
7. Xi says Belt and Road Initiative not an intrigue of
China. (2018, April 12). Xinhua. Retrieved from
http://www.xinhuanet.com/english/2018-04/11/c_137103588.htm
-----------------