ตรรกะวิบัติของกำแพงภาษีทรัมป์ 2.0
นักวิชาการหลายคนชี้ว่าหลักกำแพงภาษีทรัมป์ไม่ถูกต้อง ตรรกะวิบัติชัดเจน สร้างผลเสียมากกว่าผลดี ประเทศต่างๆ ต้องคิดให้ดีว่าควรเพิ่มการค้ากับใครดี
นโยบายกำแพงภาษีไม่ใช่เรื่องใหม่ ทรัมป์สมัยแรกเคยใช้กับบางประเทศแล้ว
ขึ้นภาษีสินค้าจีน 20-30% เพื่อลดขาดดุลการค้า
ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ตั้งแต่ครั้งนั้นถูกตีความว่าเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลถัดมาหรือสมัยไบเดนคงภาษีที่กำหนดโดยรัฐบาลทรัมป์ไว้หลายส่วน
ทั้งยังขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มหลายรายการ โดยเฉพาะพวกรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ แผงโซล่าเซลล์
และเซมิคอนดักเตอร์
รัฐบาลสหรัฐไม่ว่าจะรีพับลิกันหรือเดโมแครทล้วนทำสงครามการค้ากับจีน
3 ใน 4 ยอมรับแล้วว่าสินค้าแพงขึ้น:
ในรายละเอียด
พวกรีพับลิกันมองสภาพการเงินของตนดีขึ้นเมื่อทรัมป์เป็นประธานาธิบดี
ส่วนใหญ่ยังมองอนาคตในแง่ดี ส่วนพวกเดโมแครทมองแง่ลบ หลายคนตื่นตระหนกจากนโยบายของทรัมป์
วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
ไม่ว่าทรัมป์
2.0 จะชี้แจงอย่างไร ย้ำผลดีในระยะยาว หลายภาคส่วนสะท้อนผลลบออกมาแล้ว
โดยเฉพาะด้านจิตวิทยา
ตรรกะวิบัติของกำแพงภาษีทรัมป์ 2.0:
นักวิเคราะห์ได้รวบรวมเหตุผลที่ชี้ว่านโยบายกำแพงภาษีทรัมป์ 2.0
นั้นไม่ชอบธรรม ไม่สมเหตุผล ดังนี้
ประการแรก
ขึ้นภาษีสินค้าที่ไม่มีหรือผลิตไม่ได้
ทำนองเดียวกับแร่ธาตุหลายชนิดที่จำต้องนำเข้า
การเก็บภาษีสินค้าพวกนี้มีแต่สร้างภาระแก่อุตสาหกรรมที่ต้องนำเข้าและต่อผู้บริโภค
ยิ่งภาษีสูงเท่าใดสุดท้ายคนอเมริกันต้องควักเงินจ่าย
ถ้าผลิตเพื่อส่งขายเท่ากับรัฐเพิ่มต้นทุนให้กับสินค้า
ประการที่
2 ไม่ควรผลิตสินค้าแรงงานราคาถูก
ในมุมเอกชน รัฐบาลทรัมป์มาแล้วก็ไป
ไม่มีหลักประกันว่ารัฐบาลชุดหน้าจะยังคงส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตสินค้าราคาถูก
ใช้แรงงานมาก การลงทุนกว่าจะคืนทุนต้องใช้เวลาหลายปี เอกชนจึงเห็นว่าไม่ควรเสี่ยง
ดังนั้นไม่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีกี่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ไม่จูงใจ
ประการที่ 3 โดนโต้กลับ
ผลคือหลายประเทศโต้กลับด้วยกำแพงภาษี
และเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ บัดนี้หลายประเทศแสดงออกชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐไม่น่าเชื่อถือ
นี่คือ American decline ที่แท้จริง
ประการที่ 4 ไม่เพิ่มการจ้างงานมากอย่างที่คิด
ประการที่ 5 ทำให้เศรษฐกิจโตช้าและอาจถดถอย
นักเศรษฐศาสตร์คำนวณแล้วว่าการเก็บภาษีจำนวนมากช่วยลดขาดดุลการค้า
แต่สินค้าแพงทำให้การจับจ่ายซื้อของลดลง
และเนื่องจากจีดีพีสหรัฐขึ้นกับการบริโภคภายในเป็นหลัก
จึงส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวม ทำให้โตช้าและอาจถดถอย
ประการที่ 6 ภาษีตอบโต้ไม่ควรตั้งบนฐานการขาดดุล
ตามหลักเศรษฐศาสตร์
อัตราภาษีตอบโต้หรืออัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) ไม่ควรตั้งบนฐานการขาดดุลการค้า แต่ให้ตั้งบนผลิตภัณฑ์ (คิดเป็นรายตัว)
ดังนั้นการตั้งกำแพงภาษีหลายสิบประเทศเท่ากัน 10% จึงผิดหลักการชัดเจน
และควรคำนวณโดยใช้ข้อมูลย้อนหลังหลายปี (ทรัมป์ใช้ปีเดียว)
เพื่อได้ค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม เนื่องจากตัวเลขขาดดุลแต่ละปีมักขึ้นๆ ลงๆ
ประการที่ 7 นักลงทุนนานาชาติไม่เชื่อถือ
เอกชนอ่อนไหวต่อกำไรขาดทุน
การจะตัดสินใจลงทุนต้องคิดรอบคอบ
สหรัฐกลายเป็นความเสี่ยงภัยที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ หากจะทำการค้าด้วยต้องเตรียมตัวล่วงหน้าว่าสามารถรับความเสี่ยง
ปรับลดสัดส่วนลงทุนหรือทำการค้าแต่น้อย พร้อมรับความเสียหายส่วนนี้
ประการที่ 8 ควรทำการค้ากับใครดี... สหรัฐหรือจีน
ตอนนี้ที่การค้าระหว่างสหรัฐ-จีนส่อว่าจะลดลงอย่างมาก
สหรัฐต้องการนำเข้าสินค้ามากมายแทนสินค้าจีน
ในแง่หนึ่งเป็นโอกาสที่ดีแก่ประเทศที่หวังเพิ่มการส่งออก
แต่ในอีกด้านต้องตระหนักว่า จุดยืนสหรัฐคือห้ามใครเกินดุล
เมื่อเกินดุลสหรัฐจะเรียกร้องบางอย่าง อาจเป็นการขึ้นภาษีหรืออื่นๆ
ดังนั้นหากจะค้าขายเพิ่มเติม ต้องคำนึงผลที่ตามมา สุดท้ายรัฐบาลประเทศต่างๆ
ต้องคิดให้ดีว่าควรเพิ่มการค้ากับใครดี
เพราะเชื่อทรัมป์แบบไม่ลืมหูลืมตา:
คนที่ติดตามสถานการณ์โลกจะรู้ว่าตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สถาบันเศรษฐกิจ
นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก ล้วนเตือนว่านโยบายกำแพงภาษีจะสร้างความเสียหายต่อสหรัฐและโลก
แต่ทรัมป์ยืนยันว่านโยบายของเขาถูกต้อง
จึงเดินหน้าท่ามกลางเสียงคัดค้านทั้งจากในและต่างประเทศ
ในอีกด้านต้องยอมรับว่า
ทรัมป์มีผู้สนับสนุนอย่างเหนียวแน่นหลายล้านคน พวก MAGA กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์มองฝ่ายตรงข้ามพูดผิดหมด
ประสงค์ร้ายต่อทรัมป์ จึงรับฟังแต่ทรัมป์เท่านั้น รับสื่อข้างเดียว ล่าสุดพวกที่สนับสนุนทรัมป์อย่างเข้มแข็งยังคงเชียร์รัฐบาลอย่างเหนียวแน่น
คิดแบบทรัมป์ว่าที่สุดแล้วจะกลายเป็นผลดี ทำกำไรแก่ประเทศนับแสนล้านดอลลาร์
เหตุการณ์นี้คงช่วยให้คนอเมริกันฉลาดขึ้น
ไม่ฟังความข้างเดียว ไม่สนับสนุนแบบไม่ลืมหูลืมตา
รู้จักแยกแยะว่าในแต่ละเรื่องผู้นำประเทศพูดจริงหรือพูดเท็จ
หลักการที่ตนยึดถือเหมาะสมหรือไม่ ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ถูกต้องมากน้อยเพียงใด
รวมความแล้ว นักวิชาการหลายคนชี้ว่าหลักกำแพงภาษีทรัมป์ไม่ถูกต้อง
ตรรกะวิบัติชัดเจน สร้างผลเสียมากกว่าผลดี ในมุมมองที่กว้างขึ้นควรพิจารณามากกว่าหลักเศรษฐศาสตร์
มีประเด็นที่ไม่ใช่เรื่องของเศรษฐกิจการค้า
------------------
บรรณานุกรม :
1. 15 reasons these Trump tariffs are a mistake.
(2025, April 9). Asia Times. Retrieved from
https://asiatimes.com/2025/04/15-reasons-these-tariffs-are-a-mistake/
2. Americans' Economic, Financial Expectations Sink in April.
(2025, April 21). WSJ. Retrieved from
https://news.gallup.com/poll/659630/americans-economic-financial-expectations-sink-april.aspx