ในมุมเกาหลีเหนือการรวมชาติจะเริ่มขึ้นจริงเมื่อประเทศอยู่ในบรรยากาศปลอดภัย ไม่มีใครคิดล้มล้างอำนาจผู้ปกครอง
แต่เดิมรัฐบาลเกาหลีเหนือชูประเด็นการรวมชาติเรื่อยมา ชี้ว่าเป็นความต้องการของคนเกาหลีทั้งเหนือ-ใต้
เป็นความปรารถนาอย่างยิ่งยวดของทั้งรัฐบาลกับประชาชน ในขณะเดียวกันผู้นำคิม
จ็อง-อึน (Kim Jong-un) กล่าวว่าทุกวันนี้รัฐบาลเกาหลีใต้
“เป็นหุ่นเชิด” ของต่างชาติ อ้างหลักฐานสหรัฐมีฐานทัพในเกาหลีใต้พร้อมทหารนับหมื่น
รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่เป็นอิสระอยู่ใต้การบงการของจักรวรรดินิยมอเมริกา
เกาหลีเหนือเห็นว่าการรวมชาติเป็นเรื่องของคนเกาหลีเท่านั้น
ในขณะที่เกาหลีใต้เห็นว่าต้องรวมภายใต้การสนับสนุนของกองกำลังพันธมิตรต่างชาติซึ่งหมายถึงสหรัฐ
ซ้ำร้ายกว่านั้นคือเกาหลีเหนือต้องเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบเกาหลีใต้
ดังเช่นเยอรมันตะวันออกกรวมกับเยอรมันตะวันตก ด้วยท่าทีของเกาหลีใต้เช่นนี้
รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับไม่ได้ ย้ำเสมอว่าการรวมชาติของเกาหลีใต้คือให้ต่างชาติแทรกแซง
ยกเลิกนโยบายรวมชาติ:
กลางเดือนมกราคม
2024 ในที่ประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ (Supreme
People's Assembly) คิม จ็องอึน (Kim Jong-un) ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวย้ำรัฐบาลสหรัฐต้องการล้มล้างระบอบของตน
การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตอกย้ำเป้าหมายดังกล่าว คิดทำสงคราม
เกาหลีเหนือจึงต้องเตรียมพร้อมป้องกันประเทศ เกาหลีเหนือมีข้อสรุปแล้วว่าไม่อาจรวมชาติกับเกาหลีใต้
เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการล้มล้างระบอบเกาหลีเหนือ
2-3 สัปดาห์ต่อมาเกาหลีเหนือทำลายอนุสาวรีย์สัญลักษณ์ความตั้งใจรวมชาติ
(Arch of Reunification) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2000
การรื้อทำลายอนุสาวรีย์รวมชาติไม่แปลก เป็นส่วนหนึ่งของยุติการรวมชาติ
แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าเกาหลีเหนือคิดเห็นอย่างไร
ผู้นำคิมกล่าวอีกว่าท่าทีกับนโยบายของเกาหลีใต้เผยความตั้งใจต้องการล้มล้างระบอบเกาหลีเหนือชัดเจน
ดังนั้นทั้งคู่เป็นปรปักษ์มากกว่าเป็นมิตร นับวันจะเผชิญหน้ามากขึ้น (รัฐบาลยุน
ซอก-ยอล (Yoon Suk-yeol) ในสมัยไบเดนใกล้ชิดสหรัฐ
ทำข้อตกลงให้กองกำลังนิวเคลียร์สหรัฐสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในเกาหลีใต้ ส่วนเกาหลีใต้กังวลความก้าวหน้าด้านขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ต่างฝ่ายต่างพัฒนาอาวุธ สะสมอาวุธทันสมัย - สรุปคือต่างฝ่ายต่างระแวง
ชี้ว่าอีกฝ่ายเป็นภัยคุกคาม)
อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือไม่มีนโยบายใช้กำลังรุกรานต่างแดนเพื่อรวมชาติ
กองทัพมีเพื่อป้องกันประเทศ พร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์
การรวมชาติจากมุมเกาหลีใต้:
นอกจากพิจารณามุมมองเกาหลีเหนือจำต้องมองจากฝั่งเกาหลีใต้ด้วย การรวมชาติไม่อาจเกิดขึ้นหากเกาหลีใต้ไม่ต้องการรวมด้วย
จากการศึกษาพบว่ารัฐบาลกับประชาชนเกาหลีใต้จำนวนมากต่างคิดว่าไม่ต้องรีบร้อน
ควรดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากนับวัน 2
ประเทศจะแตกต่างกันมาก ลักษณะเศรษฐกิจสังคมเกาหลีใต้ทันสมัยกว่ามาก
การรวมประเทศอย่างปัจจุบันทันด่วนไม่ส่งผลดีต่อทั้ง 2 เกาหลี
เช่น ฉุดรั้งเศรษฐกิจ ชาวเกาหลีเหนือปรับตัวไม่ทัน
ถ้าพิจารณาปัจจัยทางสังคม
สงครามเกาหลีผ่านมาแล้ว 6 ทศวรรษ
ความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างผู้ที่อยู่ทางเหนือกับทางใต้นับวันจะเหินห่าง
คนรุ่นใหม่ไม่ผูกพันญาติของตนที่อยู่อีกฝ่าย ประเด็นการรวมชาตินับวันไม่น่าสนใจ
ผนวกกับการดำเนินชีวิตของคนเกาหลีใต้อยู่ในภาวะแข่งขันสูง
ต้องคิดหนักหากการรวมชาติกระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ปัญหาของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องของคนเกาหลีเหนือมากกว่าเกาหลีใต้
ดังนั้น
นโยบายรวมเกาหลีด้วยเหตุผลประวัติศาสตร์ ความผูกพันของเครือญาตินับวันจะหดหายไป
การรวมชาติในอนาคตน่าจะเกิดจากเหตุผลอื่นๆ พิจารณาผลดีหรือเสียทุกมิติ
นอกจากนี้ ถ้าต้องการรวมชาติจริงๆ
ต้องมองภาพในระดับกว้าง ต้องพิจารณาว่าจีนกับสหรัฐคิดเห็นอย่างไร เกาหลีใต้ไม่อาจรวมชาติได้แน่ถ้ารัฐบาลสหรัฐไม่สนับสนุน
(สหรัฐยืนยันว่าเมื่อรวมแล้วทั้งเหนือใต้ต้องเป็นฝ่ายประชาธิปไตย) เกาหลีใต้คงไม่ประสงค์ให้การรวมชาติเป็นเหตุเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างจีนกับสหรัฐ
ที่สุดแล้วรัฐบาลเกาหลีใต้จะต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เห็นว่ามีผลดีจริงๆ
ไม่สุ่มเสี่ยงเกิดปัญหาความมั่นคง
ในด้านเศรษฐกิจ
จีนเป็นคู่ค้ารายสำคัญที่สุดของเกาหลีใต้ทั้งด้านการส่งออกและนำเข้า
ดังนั้นหากพูดถึงความสัมพันธ์ทางการค้า
เกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนมากกว่าสหรัฐและญี่ปุ่น
เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างระมัดระวัง
ไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าของตน จึงจำต้องรักษาความสัมพันธ์การค้ากับจีนที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่
ในภาพที่กว้างขึ้นต้องรักษาบรรยากาศภูมิภาคให้สงบเรียบร้อยเหมาะแก่การค้าการลงทุน
คำถามบรรทัดสุดคือการรวมชาติช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือไม่ ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่าไหม
โลกแห่งความจริงการแข่งขันสะสมอาวุธ:
ข่าวที่ปรากฎทั่วโลกคือทั้ง
2
เกาหลีต่างเร่งพัฒนากองทัพ นับวันนโยบายให้คาบสมุทรปลอดนิวเคลียร์มีแต่จะเรือนลาง
ในขณะที่การรวมชาติไม่แน่นอน
เดินหน้าบ้างถอยหลังบ้าง ส่วนการแข่งขันสร้างสะสมอาวุธก้าวหน้าต่อเนื่องมากกว่า
โดยเฉพาะใน 2-3
ปีนี้เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธใหม่ไม่หยุด ไม่กี่วันนี้เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธร่อนอีกหลายลูก
ขีปนาวุธร่อนบางชนิด เช่น พุลฮวาซัล-3-31(Pulhwasal-3-31) สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์มีระยะยิงไม่ต่ำกว่า
1,500 กิโลเมตร (และอาจไกลถึง 2,000 กิโลเมตร)
สามารถยิงจากเรือดำน้ำ พฤกษาคม 2021 นายพล Mark Milley ประธานคณะเสนาธิการร่วมชี้โครงการขีปนาวุธข้ามทวีปกับอาวุธใหม่ๆ
ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามจริง ("real danger") คุกคามทั้งสหรัฐกับพันธมิตร
เพียงเท่านี้ก็เห็นอนาคตแล้ว
เป็นอีกหลักฐานสำคัญชี้โอกาสรวมชาติว่าเป็นแค่นโยบายมองโลกสวย
เป็นแค่ความปรารถนาที่ยากจะสำเร็จในโลกแห่งความจริง
กันยายน 2022 Michiel Hoogeveen นักการเมืองเนเธอร์แลนด์ชี้ว่าถ้าหวังให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ต้องให้เกาหลีเหนือมั่นใจว่าตนปลอดภัยจริงๆ
เริ่มจากการที่ฝ่ายสหรัฐเลิกซ้อมรบ เลิกกระทำการใดๆ ที่ยั่วยุ
ลำพังความช่วยเหลือทางสังคมเศรษฐกิจไม่อาจเปลี่ยนความคิดเกาหลีเหนือ ต้องเป็นการลงทุนจากต่างชาติอย่างจริงจัง
นานาชาติยอมรับ เชื่อว่ารัฐบาลคิม จ็องอึนยินดีเปิดประเทศเปลี่ยนแปลงตนเองหากได้รับโอกาสนั้น
ในมุมเกาหลีเหนือ
การรวมชาติจะเริ่มจริงเมื่อเกาหลีเหนืออยู่ในบรรยากาศปลอดภัย
โดยเฉพาะไม่มีใครคิดล้มล้างระบอบอำนาจผู้ปกครอง
ข้อสรุปไม่อาจรวมชาติกับเกาหลีใต้เป็นข้อสรุปที่ถูกต้อง
เมื่อรวมชาติไม่ได้ก็ไม่ควรเสียเวลาเสียทรัพยากรกับเรื่องนี้
ยกเว้นบริบทในอนาคตจะเปลี่ยนไปจริงๆ ค่อยคิดเรื่องนี้อีกครั้ง การยุตินโยบายรวมชาติคือการตอบสนองสถานการณ์จริง ไม่อยู่ในความเพ้อฝัน
ยุติรวมชาติไม่ใช่ประกาศสงคราม:
แม้รัฐบาลเกาหลีเหนือจะประกาศว่าเกาหลีใต้เป็นศัตรู ยุตินโยบายรวมชาติ
แข่งขันสะสมอาวุธต่อ เหล่านี้ไม่ได้ชี้กองทัพเกาหลีเหนือจะบุกลงใต้หรือจะทำสงครามกับใคร
ถ้ายังจำได้เมื่อไม่กี่ปีก่อนผู้นำคิม จ็องอึนเคยสั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมเข้าทำสงครามเต็มรูปแบบแต่สุดท้ายไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
สถานการณ์ตึงเครียดทำนองนี้เกิดกับคาบสมุทรเกาหลีเป็นระยะ
เป็นเช่นนี้หลายทศวรรษแล้ว กรณีล่าสุดยุติรวมชาติ ชี้เกาหลีใต้เป็นศัตรูเป็นการแสดงท่าทีจุดยืน
น่าจะสัมพันธ์กับการกระชับอำนาจปกครองในประเทศด้วย และควรชื่นชมผู้นำคิมกล่าวถูกต้องว่า
2 เกาหลีไม่อาจรวมชาติ เป็นความจริงตามบริบท
ไม่ว่าจะมองจากมุมนโยบายการเมืองระหว่างประเทศ ปัจจัยเศรษฐกิจสังคมที่ต้องมองทั้ง
2 ฝั่ง
การยุตินโยบายรวมชาติบ่งชี้ว่าคาบสมุทรเกาหลีจะตึงเครียดเป็นระยะๆ
ต่อไป
1. Kim Jong Un
delivered a programmatic policy speech at the 10th Session of the 14th Supreme
People's Assembly of the Democratic People's Republic of Korea. (2024, January 16).
Korean Central News Agency. Retrieved from http://www.kcna.kp/kp/article/q/f4bf631617198851f067bd66d7f48d18.kcmsf
2. National Independence, Key to Achieving Korea's
Reunification. (2014, January 22). KCNA. Retrieved from
http://www.kcna.co.jp/item/2014/201401/news22/20140122-19ee.html
3. N. Korea fires several cruise missiles off west
coast: JCS. (2024, February 2). Yonhap. Retrieved from https://en.yna.co.kr/view/AEN20240202005451315?section=nk/nk
4. N. Korean ICBMs pose 'real danger' to
U.S. homeland: Gen. Milley. (2021, May 28).
Yonhap. Retrieved from https://en.yna.co.kr/view/AEN20210528000300325
5. 'North Korea won't
use nuclear bombs'. (2022, September 22). The Korea Times. Retrieved
from https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2022/09/103_336557.html
6. North Korea
demolishes symbol of hope for reunification with South – report. (2024, January 24). The Guardian.
Retrieved from https://www.theguardian.com/world/2024/jan/24/north-korea-demolishes-the-arch-of-reunification-monument-south-korea-unity-hopes-kim-jong-un
-----------------