หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้านเวียดนาม-ไบเดน

ข้อตกลงล่าสุดส่งเสริมและอยู่ภายใต้กรอบอาเซียนอย่างชัดเจน ไม่อาจตีความว่ากระทบความมั่นคงอาเซียน ไม่น่าจะทำให้จีนกังวลเกินไปว่าเวียดนามเอนเอียงเข้าหาสหรัฐ

 

            ความสัมพันธ์รอบด้านเวียดนาม-สหรัฐเริ่มปี 2013 จากข้อตกลง “Vietnam–U.S. Comprehensive Partnership” ในสมัยรัฐบาลโอบามา มุ่งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ร่วมมืออย่างกว้างขวาง ต่างยอมรับระบอบการปกครองของกันแต่กัน เคารพอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ข้อตกลง ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน’ (Comprehensive Strategic Partnership) ฉบับกันยายน 2023 เป็นฉบับสมัยรัฐบาลไบเดน ยกระดับความสัมพันธ์ให้สูงขึ้นอีก มีสาระสำคัญ ดังนี้

            ประการแรก ความสัมพันธ์ทางการเมืองกับการทูต

            ทั้ง 2 ประเทศตั้งใจผูกสัมพันธ์การเมืองกับการทูตลงลึกกว่าเดิม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน ส่งเสริมความร่วมมือระดับหน่วยงานของกันและกัน เคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน

          ประการที่ 2 ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ

            ปี 2022 การค้าทวิภาคีมีมูลค่า 138,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สุดของเวียดนาม ครอบคลุมสารพัดสินค้าตั้งแต่สิ่งทอ รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนเวียดนามนำเข้าฝ้าย ถั่วเหลือง เป็นที่หมายการลงทุนของภาคเอกชนสหรัฐ อีกทั้งเวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ที่ตั้งขึ้นสมัยรัฐบาลไบเดนและสหรัฐกำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงนี้

            ข้อนี้เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ทวิภาคี เอื้ออำนวยให้ต่างฝ่ายต่างลงทุน เปิดตลาดต่อกัน จัดการเงื่อนไขกับข้อกีดขวางต่างๆ สหรัฐชื่นชมเวียดนามปฏิรูปเศรษฐกิจแบบตลาด ดำเนินนโยบายการเงินกับอัตราแลกเปลี่ยนที่โปร่งใส ช่วยให้มั่นใจระบบสถาบันการเงินเวียดนาม รัฐบาลสหรัฐยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่ 

            ทั้งคู่จะส่งเสริมระบบการค้าระหว่างประเทศที่ไม่เลือกปฏิบัติ มีความยุติธรรม รวมทุกฝ่ายเข้าด้วยกันอย่างเสมอภาค โปร่งใส ควบคู่กับองค์การค้าโลก ชื่นชมความก้าวหน้าของกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) อีกทั้งเคารพสิทธิแรงงาน

          ประการที่ 3 ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง

            ทั้งคู่ตระหนักความสำคัญของเสถียรภาพกับสันติภาพโลก การช่วยเหลือเมื่อเผชิญภัยพิบัติ จะวางระบบสื่อสารระหว่างกระทรวงกลาโหมจนถึงระดับหน่วยงาน ร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพในกรอบของสหประชาชาติ แพทย์ทหาร บังคับใช้กฎหมายทางทะเล ส่งเสริมขีดความสามารถป้องกันทางทะเล การป้องกันชายฝั่ง การประมงผิดกฎหมาย เพิ่มศักยภาพเวียดนามด้านการตรวจตราทางทะเลและอื่นๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วม

            ทั้งคู่เห็นพ้องส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมาย การร่วมทำงานของหน่วยงานยุติธรรม หน่วยการข่าวความมั่นคง ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับทะเล โจรสลัด การค้ามนุษย์ การฟอกเงิน ยาเสพติด สารเคมีที่เป็นภัย อาชญกรรมไซเบอร์ ต่อต้านก่อการร้าย ลัทธิสุดโต่งทุกรูปแบบสอดคล้องกฎบัตรสหประชาชาติ 

            จะร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เข้มข้นขึ้น ซื้อขายอาวุธระหว่างกัน สหรัฐจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถป้องกันประเทศของเวียดนามตามความจำเป็น 

          ประการที่ 4 ความร่วมมือด้านอื่นๆ

            สหรัฐจะเพิ่มฝึกทักษะแรงงานไฮเทค ยอมรับว่าเวียดนามมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เร่งส่งเสริมด้านนี้ ให้เวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ เป้าหมายคือผลิตเพื่อป้อนตลาดสหรัฐ ตามหนังสือ Memorandum of Cooperation on Semiconductor Supply Chains, Workforce and Ecosystem Development

            ความร่วมมือนี้เป็นกลไกที่สหรัฐจะถ่ายทอดเทคโนโลยี ฝึกอบรมทักษะ ให้เวียดนามสามารถป้อนเซมิคอนดักเตอร์ตรงตามความต้องการของตน

            จะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาด้านดิจิทัล รวมทั้งโครงข่ายสื่อสาร 5G วิจัยร่วมกัน ฝึกอบรมหลายหลายโครงการ เช่นจากความร่วมมือ Vietnam-U.S. Science and Technology Agreement for Research (VUSTAR)

            นอกจากนี้ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับโลหะหายาก (Rare Earth Elements) สหรัฐจะช่วยพัฒนาแหล่งทรัพยกรนี้

            ด้านการศึกษาและฝึกทักษะ ปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาเวียดนามเกือบ 30,000 คนกำลังศึกษาต่อที่สหรัฐ (มากเป็นอันดับที่ 5) และอาจเพิ่มมากกว่านี้ สนับสนุนให้มหาวิทยาลัย 2 ฝ่ายร่วมงานวิจัย สหรัฐจะเพิ่มจำนวนทุนการศึกษา

            ทั้งคู่จะช่วยแก้ไขความเสียหายอันเนื่องจากสงคราม (เวียดนาม) อันจะช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน ขจัดสารพิษที่ยังตกค้าง วัตถุระเบิดต่างๆ เพิ่มความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพิการจากสงคราม พิสูจน์ศพทหารด้วยการตรวจ DNA รวมทั้งทหารอเมริกัน

            วิเคราะห์: สงครามเวียดนามสร้างบาดแผลต่อชาวเวียดนามทั้งประเทศ ผลของสงครามยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ระเบิดจำนวนมากที่ยังไม่ระเบิด สารพิษตกค้าง จนถึงทุกวันนี้ยังต้องเยียวยารักษา

            หลายปีที่ผ่านมาการติดต่อระหว่างประชาชนสองประเทศเพิ่มขึ้นมาก ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การติดต่อทางธุรกิจ วิชาชีพและการศึกษา จะลงลึกถึงระดับจังหวัด ชุมชน ให้ความสำคัญคนหนุ่มสาว ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การกีฬา

            ทั้ง 2 ประเทศย้ำความสำคัญของการ ส่งเสริมและป้องกันสิทธิมนุษยชนตามกรอบรัฐธรรมนูญของตนและตามกฎระเบียบนนาชาติ จะพูดคุยอย่างเปิดอกสร้างสรรค์โดยใช้กลไก U.S. Human Rights Dialogue and Vietnam – U.S. Labor Dialogue สร้างความเข้าใจและลดช่องว่างต่อกันและกัน

          ประการที่ 5 ประเด็นภูมิภาคกับโลก

            ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือต่อประเด็นภูมิภาคกับโลกบนพื้นฐานได้ประโยชน์ร่วม ส่งเสริมการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาภูมิภาคและโลก ยึดมั่นความร่วมมือในกรอบนานาชาติ เช่น สหประชาชาติ APEC, East Asia Summit, ARF, ADMM Plus และกลไกอื่นๆ ของอาเซียน ส่งเสริมพหุภาคีนิยม เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ สถาปัตยกรรมภูมิภาคที่อาเซียนเป็นแกนกลาง  “มุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก” (AOIP)

            จะส่งเสริมแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ข่มขู่ ไม่ใช่กำลัง พร้อมกับส่งเสริมเสรีภาพการเดินเรือการบินเหนือทะเลจีนใต้ เคารพเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 (United Nations Convention on the Law of the Sea: UNCLOS) ที่ให้แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี หลักเดินเรือเสรีและการบินผ่านน่านน้ำเสรี ฯลฯ ยึดมั่น “แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้” (code of conduct for the South China Sea หรือ COC) ของอาเซียน

            ย้ำความสำคัญของการรักษาเสถียรภาพ สันติภาพ การอยู่ดีมีสุข การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ “อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” (ความร่วมมือของ 6 ประเทศ คือ ไทย พม่า สปป.ลาว กัมพูชา จีน และเวียดนาม) เปิดรับความร่วมมือ Mekong – U.S. Partnership และอื่นๆ ในทางนี้ที่สหรัฐเกี่ยวข้องด้วย เช่น Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy (ACMECS)

            วิเคราะห์: จะเห็นว่าเมื่อลงลึกสู่ประเด็นความมั่นคงต่างๆ เวียดนามกับสหรัฐตกลงใช้แนวทางและกลไกอาเซียนมากมาย ข้อตกลง ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน’ ระหว่างเวียดนาม-สหรัฐจึงส่งเสริมและอยู่ภายใต้กรอบอาเซียนอย่างชัดเจน ไม่อาจตีความว่ากระทบความมั่นคงอาเซียน ควรตีความด้วยซ้ำว่าเวียดนามตอกย้ำบทบาทอาเซียน และหากตีความให้ไกลออกไปอีก ไม่น่าจะทำให้จีนกังวลเกินไปว่าเวียดนามเอนเอียงเข้าหาสหรัฐ

            ต่อประเด็นเมียนมา เวียดนามกับสหรัฐย้ำความสำคัญและจะยึดมั่นจุดยืนฉันทามติ 5 ข้อของที่ประชุมผู้นำอาเซียน (Five-Point Consensus) ซึ่งเพิ่งทบทวนใหม่ในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อกันยายน 2023 ขอให้ทุกฝ่ายหยุดยิงทันที ทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เข้าสู่การหารืออย่างสร้างสรรค์

            นับจากมีความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติเมื่อปี 1995 ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างได้รับประโยชน์มหาศาล ข้อตกลง ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน’ ฉบับล่าสุดยกระดับความร่วมมือให้สูงขึ้นอีกและกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น

17 กันยายน 2023
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 27 ฉบับที่ 9803 วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566)

---------------------

บรรณานุกรม :

1. The White House. (2023, April 13). The United States – Vietnam Relationship: Celebrating 10 Years of Comprehensive Partnership and 28 Years of Diplomatic Relations. Retrieved from https://www.state.gov/the-united-states-vietnam-relationship-celebrating-10-years-of-comprehensive-partnership-and-28-years-of-diplomatic-relations/)

2. The White House. (2023, September 10). FACT SHEET: President Joseph R. Biden and General Secretary Nguyen Phu Trong Announce the U.S.-Vietnam Comprehensive Strategic Partnership. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/briefing-room/statements-releases/2023/09/10/fact-sheet-president-joseph-r-biden-and-general-secretary-nguyen-phu-trong-announce-the-u-s-vietnam-comprehensive-strategic-partnership/

3. The White House. (2023, September 11). JOINT LEADERS’ STATEMENT: ELEVATING UNITED STATES-VIETNAM RELATIONS TO A COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/briefing-room/statements-releases/2023/09/11/joint-leaders-statement-elevating-united-states-vietnam-relations-to-a-comprehensive-strategic-partnership/

4. The White House. (2023, September 10). Remarks by President Biden and General Secretary Nguyn Phú Trng of the Communist Party of Vietnam in Joint Press Statements. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/briefing-room/speeches-remarks/2023/09/10/remarks-by-president-biden-and-general-secretary-nguyen-phu-trong-of-the-communist-party-of-vietnam-in-joint-press-statements/

5. The White House. (2023, September 11). JOINT LEADERS’ STATEMENT: ELEVATING UNITED STATES-VIETNAM RELATIONS TO A COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP. Retrieved from https://www.whitehouse.gov/briefing-room/statements-releases/2023/09/11/joint-leaders-statement-elevating-united-states-vietnam-relations-to-a-comprehensive-strategic-partnership/

-----------------