ระหว่างปลุกเร้าแบ่งขั้วกับแก้ปัญหาภายในข้อไหนดีกว่า

รัฐบาลสหรัฐควรทำให้ตัวเองเป็นแบบอย่างประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นตลกร้ายถ้าช่วยให้ประเทศอื่นเป็นประชาธิปไตยแต่ตัวเองหันเข้าสู่อำนาจนิยมมากขึ้น 

            ในงาน Summit for Democracy เมื่อ 9 ธันวาคมประธานาธิบดีโจ ไบเดนพูดชัดเรื่องการรวมตัวของฝ่ายประชาธิปไตย นอกจากร่วมสร้างประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง อีกเป้าหมายสำคัญคือต่อต้านลัทธิอำนาจนิยมซึ่งเท่ากับแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้ว คือฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยม การประชุมสุดยอดนี้วางกรอบทำงานร่วม 1 ปีและจะกลับมารายงานในปีหน้า ถือได้ว่าการประชุมสุดยอดประชาธิปไตยครั้งแรกนี้เริ่มการแบ่งขั้วครั้งใหม่ ต่อสู้เชิงอุดมการณ์การเมืองอีกรอบ

การเผชิญหน้าระหว่างประชาธิปไตย 2 แบบ :

            เอกสาร “China: Democracy That Works” ชี้ว่าประชาธิปไตยของจีนเป็นสังคมนิยมประชาธิปไตย (socialist democracy) เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างสมบูรณ์ โดยที่ทุกคนต้องจงรักภักดีต่อลัทธิมาร์กซ์ ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชน ใช้คู่กับระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม (socialist market economy) มีกิจการที่ชุมชุนหรือรัฐเป็นเจ้าของควบคู่กับกิจการของเอกชน มุ่งเป้าให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็งอยู่ในอำนาจประชาชน ไม่ขาดสิ่งของจำเป็น หลายสิบปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าจีนพัฒนาก้าวหน้าตามลำดับ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนดีวันดีคืน ปัจจุบันทุกคนมีกินมีใช้ไม่ขัดสน โดยรวมแล้วประเทศสงบเรียบร้อยภายใต้กฎหมาย รัฐบาลจีนไม่คิด “ส่งออก” ระบอบการเมืองการปกครองและเคารพทุกระบอบ เคารพอธิปไตยทุกประเทศ

            ในมุมมองของจีน ประชาธิปไตยเป็นสิทธิของมนุษยชาติ ไม่จำกัดรูปแบบ จะพัฒนาหรือเลือกใช้แบบใดขึ้นกับการตัดสินของคนประเทศนั้นตามบริบทวัฒนธรรม จึงไม่มีรูปแบบเฉพาะและไม่ต้องทำตามคำบงการของใครที่คอยชี้ว่าต้องเป็นประชาธิปไตยแบบใด

            ไม่ว่าจีนเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ประชาธิปไตยของใครดีกว่า ท้ายที่สุดควรให้ประชาชนประเทศนั้นตัดสิน ยอมรับความจริงว่าไม่จำต้องยึดระบอบใดระบอบหนึ่ง เพราะการปกครองโลกมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา แม้กระทั่งนิยามประชาธิปไตย รูปแบบประชาธิปไตยและประชาธิปไตยอเมริกา ขึ้นกับว่ามนุษย์จะคิดเห็นการปกครองอย่างไร ผู้กุมอำนาจตัดสินใจอย่างไร

การอยู่ร่วมของประชาธิปไตยกับอีกฝ่าย :

            อันที่จริงแล้วทุกวันนี้ประเทศต่างๆ ปกครองในหลายรูปแบบ ถ้าพูดเฉพาะสังคมนิยมกับประชาธิปไตย หรือแบบผสมสังคมนิยมประชาธิปไตย ชาติตะวันตกที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตยไม่ว่าจะฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนีผู้มีบทบาทสูงในอียูล้วนมีพรรคการเมืองและเคยมีหรือมีรัฐบาลที่ยึดแนวทางสังคมนิยมประชาธิปไตย

            นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนล่าสุดโอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) เป็นหัวหน้าพรรค SPD จัดตั้งรัฐบาลร่วมโดยมีแนวทางสังคมนิยมผสมอยู่ด้วย พรรคแรงงานอังกฤษ (Labour Party) เดิมยึดแนวทางสังคมนิยมประชาธิปไตยอยู่คู่การปกครองอังกฤษมากว่าศตวรรษแล้ว เพิ่งหันมาเน้นทุนนิยมในสมัยโทนี แบร์ (Tony Blair)

            หลายปีที่ผ่านมาเบอร์นี แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครท (แพ้ฮิลลารี คลินตัน) นำเสนอแนวคิด สังคมนิยมประชาธิปไตย” (Democratic socialism) หวังให้สหรัฐเป็น สังคมนิยมประชาธิปไตย

            จะเห็นว่า การผสมผสานของสังคมนิยมกับทุนนิยมประชาธิปไตยนับวันจะเพิ่มมากขึ้น เป็นที่ยอมรับทั่วไป ดังที่เคยนำเสนอแล้วว่าทุกวันนี้ไม่มีประเทศทุนนิยมเสรีเต็มร้อยและไม่มีประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์เต็มร้อย บรรดาประเทศที่เป็นทุนนิยมเสรีกำลังหันเข้าหาสังคมนิยม พร้อมกับที่สังคมนิยมกำลังหันเข้าหาทุนนิยมเสรี เป็นการที่ 2 ขั้วที่อยู่ปลายสุดของแต่ละข้างกำลังเข้าหาอีกขั้ว หรือกำลังเข้าไปอยู่จุดสมดุลระหว่างทุนนิยมเสรีกับสังคมนิยม

            แทนที่จะมุ่งต่อสู้ทางความคิดว่าลัทธิการเมืองเศรษฐกิจใดดีสุดซึ่งทางวิชาการมีข้อสรุปนานแล้วว่าต่างมีข้อดีข้อเสีย โจทย์ที่ดีกว่าคือควรใช้ระบอบเศรษฐกิจการเมืองใดจึงจะตอบโจทย์ตามบริบทตัวเองมากที่สุด เลือกระบอบที่ดีที่สุดสำหรับตัว ไม่ต่างจากเลือกนโยบายที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

            แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไบเดนไม่ยอมรับแนวทางนี้ ด้วยการสรุปเอาเองว่าต้องเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะปลดปล่อยศักยภาพคนได้มากที่สุด ข้อนี้ถูกโต้แย้งได้เช่นกันว่าเสรีภาพเป็นกลางในตัวเอง เพราะต้องพูดต่ออีกว่าเสรีภาพเพื่ออะไร เพื่อดูแลสุขภาพหรือทำลายสุขภาพ เพื่อสร้างสรรค์หรือทำลายล้าง เพื่ออยู่ร่วมพัฒนาไปด้วยกันหรือคอยเอาเปรียบคนอื่น เพื่อยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นหรือตกต่ำลง

            เสรีภาพแท้เป็นเสรีภาพที่มีขอบเขต รัฐธรรมนูญ กฎหมายอเมริกันและประเทศต่างๆ ยึดหลักการนี้ชัดเจน

ควรมุ่งแก้ปัญหาภายในมากกว่าหรือไม่ :

            หลายปีที่ผ่านมาองค์กรที่ศึกษาดัชนีชี้วัดประชาธิปไตยหลายแห่งต่างได้ข้อสรุปว่าประชาธิปไตยอเมริกาถดถอยและไม่ใช่ถดถอยเฉพาะในสมัยรัฐบาลทรัมป์แต่ถดถอยตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครทล้วนทำให้ประชาธิปไตยอเมริกาเสื่อมเสีย สหรัฐกำลังเข้าสู่อำนาจนิยมมากขึ้นตามลำดับ นับวันคนอเมริกันที่ต้องการประชาธิปไตยไม่พอใจสภาพการเมืองการปกครองที่เป็นอยู่

            กลางเดือนกันยายน CNN รายงานผลโพลของตนที่ทำโดย SSRS ระบุว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ (56%) เห็นว่าประชาธิปไตยของประเทศกำลังถูกทำลาย 51% คิดว่ากรรมการเลือกตั้งสามารถเปลี่ยนผลเลือกตั้งให้ออกมาอย่างที่พวกเขาต้องการ จนถึงทุกวันนี้ทรัมป์ยังยืนยันว่าเขาแพ้เพราะโดนโกง

            ไมว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คนอเมริกันกึ่งหนึ่งไม่เชื่อมั่นการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยอเมริกากำลังถูกทำลาย

            ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการประชุมสุดยอดประชาธิปไตย ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) พูดย้ำว่าทรัมป์ไม่ใช่นักประชาธิปไตย ประชาธิปไตยอเมริกาอาจถึงแก่กาลอวสาน (end of our democracy) ถ้าทรัมป์ชนะตั้งปี 2024 ที่ผ่านมาสื่อบางประเทศชี้ว่าทรัมป์ทำตัวเป็นกษัตริย์ในร่างประธานาธิบดี ประเด็นน่าคิดคือคนอเมริกันจำนวนมากโดยเฉพาะพวกรีพับลิกันสนับสนุนทรัมป์อย่างเข้มแข็ง ถามว่าคนอเมริกันเหล่านี้นิยมประชาธิปไตยมากแค่ไหน คำว่า “ประชาธิปไตย” ในความหมายของพวกเขาเป็นอย่างไร

            เหล่านี้คือตัวอย่างปัญหาประชาธิปไตยอเมริกาในขณะนี้ หวังว่ารัฐบาลไบเดนจะแก้ได้ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลยอมรับว่ามีปัญหาและกำลังแก้ แต่ยิ่งแก้ยิ่งแย่ลง จะเป็นตลกร้ายถ้า USD ที่ปล่อยออกไปทำให้ประเทศอื่นเป็นประชาธิปไตยในขณะที่อเมริกาหันเข้าสู่ลัทธิอำนาจนิยม

            นักวิเคราะห์ Zachary B. Wolf มองในมุมกว้างชี้ว่าขณะที่รัฐบาลพยายามอ้างภัยคุกคามประชาธิปไตยที่มาจากต่างแดน ตนเห็นว่าภัยคุกคามที่ประสบจริงในประเทศต่างหากที่สำคัญ เช่น อากาศหนาวจัดร้อนจัด พายุหนักอันเนื่องจากการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นทุกปี ปัญหาเศรษฐกิจสังคมอันเนื่องจากโควิด-19 ที่อาจส่งผลกระทบอีกหลายปี หลายคนไม่ร่วมมือฉีดวัคซีนโดยที่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ และการก่อตัวของพวกหัวรุนแรงต่อต้านอำนาจรัฐ ผลการทำงานของรัฐบาล คุณภาพชีวิตประชาชน เหล่านี้เป็นเครื่องชี้วัดระดับประชาธิปไตยอยู่แล้วว่าประชาธิปไตยอเมริกากำลังก้าวหน้าหรือถดถอย

            นักวิชาการหลายคนพูดตรงกันว่าภัยคุกคามประชาธิปไตยอเมริกาอยู่ในประเทศมากกว่าอยู่นอกประเทศ หากรัฐบาลสหรัฐต้องการสร้างโลกที่เป็นประชาธิปไตย ควรเน้นพัฒนาตัวเองเป็นแบบอย่างประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ

            ในทางรัฐศาสตร์การปกครองคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา สำคัญที่การปกครองแต่ละแบบสามารถพิสูจน์ได้ว่าสร้างคุณประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่าระบอบอื่นๆ หรือไม่ รัฐบาลผู้บริหารประเทศเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ระบอบอาจจะดีแต่ต้องขึ้นกับผู้บริหารจัดการด้วย เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมานับพันปีแล้วไม่ใช่หรือ

26 ธันวาคม 2021
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 26 ฉบับที่ 9175 วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564)

-------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง : 
ไบเดนชี้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยกำลังถูกท้าทายจากพวกเผด็จการอำนาจนิยม เรียกร้องให้ฝ่ายประชาธิปไตยทั่วโลกร่วมมือกัน ตั้งงบประมาณอุดหนุนนักสู้เพื่อประชาธิปไตยแก่ทุกประเทศทั่วโลก
ประชาธิปไตยแท้ต้องอยู่ในวิถีชีวิตไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน ต้องถือว่าล้มเหลวถ้าสังคมเป็นประชาธิปไตยแต่รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ประเทศไม่พัฒนา ชีวิตความเป็นอยู่ย่ำแย่

บรรณานุกรม :

1. An existential threat runs into political realities of US democracy. (2021, December 13).
CNN.
Retrieved from https://www.dw.com/en/will-the-us-summit-on-democracy-deliver/a-60036228

2. CNN Poll: Most Americans feel democracy is under attack in the US. (2021, September 15). CNN. Retrieved from https://edition.cnn.com/2021/09/15/politics/cnn-poll-most-americans-democracy-under-attack/index.html

3. Diplomacy Alone Can’t Save Democracy. (2021, December 11). The Atlantic. Retrieved from https://www.theatlantic.com/international/archive/2021/12/main-challenge-facing-biden-democracy-summit/620955/

4. Full Text: China: Democracy That Works. (2021, December 4). Xinhua. Retrieved from http://www.news.cn/english/2021-12/04/c_1310351231.htm

5. Hillary Clinton predicts Trump will run for president in 2024, says his win 'could be the end of our democracy'. (2021, December 12). Business Insider. Retrieved from https://www.businessinsider.com/hillary-clinton-predicts-trump-2024-presidential-campaign-victory-end-democracy-2021-12

--------------------------