ข้อวิพากษ์สิทธิมนุษยชนเครื่องมือต่างประเทศของสหรัฐ

โลกนี้ไม่มีประเทศใดเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากบ้างน้อยบ้าง สหรัฐดีกว่าหลายประเทศแต่ยากจะเชื่อว่าเป็นผู้นำโลกด้านนี้และกำลังเสื่อมถอย

สิทธิมนุษยชนเครื่องมือนโยบายต่างประเทศ :

            ยุทธศาสตร์แม่บทของรัฐบาลสหรัฐคือ ส่งเสริมประชาธิปไตย การค้าเสรี หลักสิทธิมนุษยชน ตำรามากมายเอ่ยถึงนโยบายส่งเสริมเรื่องเหล่านี้ เป็นเครื่องมือสำคัญของนโยบายต่างประเทศ ปรากฏเป็นข่าวอยู่เสมอที่รัฐบาลสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ชี้ว่าประเทศนั้นประเทศนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ขู่ตัดความช่วยเหลือจนถึงขั้นคว่ำบาตร คิดล้มรัฐบาลเผด็จการ แต่การปฏิบัติมีความยืดหยุ่นตามบริบท รายงานยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” (Indo-Pacific Strategy Report : IPSR) ของกระทรวงกลาโหมฉบับมิถุนายน 2019 ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐมีค่านิยมและความเชื่อของตัวเองแต่จะไม่พยายามยัดเยียดวิถีของตนแก่ผู้อื่น

            แม้จะไม่ยัดเยียดแต่มีหลายกรณีที่รัฐบาลทรัมป์ใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเล่นงานประเทศอื่นๆ ไม่ต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆ

            เป็นประจำทุกปีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจะออกรายงาน “Human Rights Reports” รายงานนี้ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นำสู่ข้อสรุปเหตุผลว่าทำไมสหรัฐต้องเล่นงานประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จีน เกาหลีเหนือ อิหร่านเป็นตัวอย่างที่ถูกเอ่ยถึง และรายงานปี 2019 ระบุว่าสหรัฐมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่เป็นผู้นำ (champion) เรื่องสิทธิมนุษยชน อุดมการณ์ประชาธิปไตย

เรื่องแปลกแต่จริงคือ ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าตนเป็นผู้นำโลกด้านสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย ออกรายงานสิทธิมนุษยชนของตน แต่กลับไม่ยอมรับการประเมินสิทธิมนุษยชนในประเทศตัวเอง มิถุนายน 2018 รัฐบาลทรัมป์ประกาศสหรัฐอเมริกาได้ถอนตัวออกจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) ด้วยเหตุผลว่า “ไม่คู่ควรกับชื่อ”

UNHRC เป็นคณะที่ประกอบด้วยสมาชิก 47 ประเทศ สมาชิกทั้งหมดมาจากการแต่งตั้งโดยสมัชชาสหประชาชาติ เริ่มทำงานเมื่อปี 2006 เป็นองค์กรย่อยทำหน้าที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆ

Nikki Haley เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติชี้ว่าองค์กรนี้มักชี้ว่าอิสราเอลละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นอคติทางการเมือง ประเทศที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนกลายเป็นแพะรับบาป จึงขาดความน่าเชื่อถือ รัฐบาลสหรัฐเคยเสนอให้ปฏิรูปแต่เมื่อทำไม่ได้จึงจำต้องถอนตัว

การที่รัฐบาลทรัมป์ให้เหตุผลว่าเหตุที่ต้องถอนตัวเพราะไม่เป็นธรรมต่ออิสราเอล ข้อนี้คงเป็นข้ออ้างหนึ่งเท่านั้น การรุกล้ำดินแดน การกระทำต่อปาเลสไตน์เป็นประเด็นที่อิสราเอลละเมิดสุทธิมนุษยชนเรื่อยมา นานาชาติต่างประณาม อีกประเด็นที่น่าคิดคือรัฐบาลสหรัฐละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง มีโอกาสถูกประณาม จึงถอนตัวเพื่อหนีและกีดกันรายงานของ UNHRC

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงว่าเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลสหรัฐแสดงความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ (boorish cynicism) ไม่ยอมรับว่าตัวเองละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังพยายามชี้หน้าว่าประเทศอื่นละเมิดสิทธิมนุษยชน พยายามชักนำให้ UNHRC ทำตามที่ตัวเองต้องการ การถอนตัวดังกล่าวเป็นอีกครั้งที่บ่งชี้ว่าไม่ยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง เป็นพวกปากอย่างใจอย่าง พฤติกรรมเป็นหลักฐานในตัวเอง


ปัญหาสิทธิมนุษยชนในสหรัฐ :

            ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐแสดงตัวเป็นผู้นำโลกเสรี ส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนสากล แต่กลับซ่อนปัญหาสิทธิมนุษยชนที่มีมากมายในประเทศตัวเอง ด้วยวิธีการง่ายๆ คือไม่พูดถึงตัวเองและมุ่งพูดถึงปัญหาของประเทศอื่นๆ โจมตีว่ารัฐบาลประเทศเหล่านั้นไม่เป็นประชาธิปไตย กดขี่ข่มเหงประชาชน ปล่อยปละละเลยเรื่องสิทธิมนุษยชน

เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Michelle Bachelet ประธานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ร้องขอให้สหรัฐเลิก เหยียดผิวเชิงโครงสร้าง” (structural racism) อันเป็นหัวใจสำคัญของการชุมนุมประท้วงที่สหรัฐในขณะนี้ สมควรปฏิรูปอย่างจริงจังเสียที

ประชาธิปไตยอเมริกากำลังเสื่อมถอย :

            สิทธิมนุษยชนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นประชาธิปไตย

กันยายน 2019 ฮิลลารี คลินตัน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของอดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน อดีตวุฒิสมาชิก รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลโอบามากล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์ทำหลายอย่างผิดพลาด ไม่ฟังเสียประชาชน “ณ ขณะนี้ประชาธิปไตยของเราอยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว” สถาบันประชาธิปไตย ธรรมเนียมประชาธิปไตย ไม่อยู่ในมือของประชาชนอีกแล้ว เราจำต้องลุกขึ้นสู้และแพ้ไม่ได้

            ความอีกตอนกล่าวว่าทรัมป์บ่อนทำลายเอกภาพของชาติ ไม่เป็นผู้นำของคนอเมริกันทั้งประเทศ ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นดูแคลนคนอเมริกันเชื้อชาติอื่น เกลียดชังคนบางกลุ่ม สร้างความเกลียดชัง ทำให้คนในชาติแตกแยก

ด้านเจมส์ แมตทิส (James Mattis) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของทรัมป์ชี้ว่า การเมืองในประเทศเป็นภัยต่อชาติมากกว่าศัตรูนอกประเทศ ความแตกแยกทางการเมืองนับวันจะชัดเจนรุนแรง ใช้อารมณ์ ดูหมิ่นเหยียดหยามอีกฝ่าย

คอลิน พอเวลล์ (Colin Powell) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศวิพากษ์ประธานาธิบดีทรัมป์ว่าหลักประชาชนเป็นเจ้าของประเทศกลายเป็น “ฉันผู้เป็นประธานาธิบดี” ที่เป็นใหญ่ ไม่เชื่อว่าทรัมป์เป็นผู้นำที่มีศีลธรรม (moral leader) เพราะเท่าที่ปฏิบัติไม่เป็นเช่นนั้น

Richard Haass ประธานสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations) กล่าวว่า “ยุคนี้เป็นยุคพวกอำนาจนิยม (authoritarian era) … ประชาธิปไตยเสื่อมถอย” และดูเหมือนประชาชนในหลายประเทศก็ไม่สนใจว่ารัฐบาลเป็นอำนาจนิยมหรือไม่ มีคนพูดว่ารัฐบาลสหรัฐในยุคนี้ส่งออกลัทธิประชานิยม (populism) แทนประชาธิปไตย

รายงาน The Economist Intelligence Unit (EIU) เมื่อปี 2018 ชี้ว่าการปกครองของสหรัฐเข้าสู่การเป็น "ประชาธิปไตยที่บกพร่อง" (flawed democracy) ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีอีกต่อไป เป็นหลักฐานเพิ่มเติมอีกชิ้นหนึ่ง ก่อนหน้านี้มีสำนักอื่นที่ชี้ว่า สหรัฐไม่เป็นประชาธิปไตยแท้

ประเด็นที่ควรเข้าใจคือ ชาวอเมริกันยังคงมีอิสรภาพเสรีภาพในการดำเนินชีวิตมากอยู่ แต่การละเมิดสิทธิมนุษยชนมีไม่น้อยเช่นกัน เป็นปัญหาเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนก่อตั้งประเทศเมื่อกว่า 240 ปีเสียอีก คนบางจำพวกยึดถือ White Supremacy ที่ดูหมิ่นดูแคลนคนผิวสี คิดว่าตัวเองเท่านั้นเป็นเจ้าของแผ่นดินที่แท้จริง ต้องการให้คนผิวขาวมีอภิสิทธิ์เหนือพลเมืองอเมริกันอื่นๆ ที่สำคัญคือรัฐบาล ผู้ปกครองประเทศ ไม่ได้ปกครองเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนสามารถแสดงออกแต่ไม่มีผลเปลี่ยนหรือผลักดันนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อสรุปคือเป็นการเมืองการปกครองที่ไม่ได้มีเพื่อประชาชนจริงๆ

สหรัฐควรแก้ปัญหาตนเองก่อน :

            ไม่ว่าจะเรื่องการเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ ประชาธิปไตย หากอยากจะเป็นผู้นำ ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเสียก่อน ดังคำกล่าวที่ว่า “ชีวิตดังกว่าคำพูด”

ในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่ง (inauguration address) ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เมื่อมกราคม 2017 ความตอนหนึ่งกล่าวว่า จะไม่ยัดเยียดวิถีชีวิตของเรา [เสรีภาพ ประชาธิปไตยแบบอเมริกัน – ผู้เขียน] แก่ต่างชาติ แต่จะแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง

            ไม่ทราบว่าท่านประธานาธิบดียังจำได้หรือไม่ 3 ปีที่ผ่านมาหลายคนพูดว่าได้พิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จแล้ว

            โลกนี้ไม่มีประเทศใดเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากบ้างน้อยบ้าง สหรัฐดีกว่าหลายประเทศแต่ยากจะเชื่อว่าเป็นผู้นำโลกด้านนี้และกำลังเสื่อมถอย ถ้าอเมริกาไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นแบบอย่างสิทธิมนุษยชนจะส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโลกได้อย่างไร นโยบายส่งเสริมสิทธิมนุษยชนประชาธิปไตยมีไว้เพื่อการใดกันแน่

14 มิถุนายน 2020

ชาญชัย คุ้มปัญญา

(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ สถานการณ์โลกไทยโพสต์ ปีที่ 24 ฉบับที่ 8616 วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563)

-------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง 

White Supremacy รากเหง้าการเหยียดผิวในอเมริกา
กว่า 240 ปีที่สหรัฐประกาศเอกราช หลักเสรีภาพ ความเสมอภาคและประชาธิปไตยยังเป็นเพียงเป้าหมายเชิงอุดมคติเท่านั้น เพราะ White Supremacy ฝังรากลึกในสังคมตั้งแต่ก่อนกำเนิดประเทศ

การถดถอยของเสรีประชาธิปไตย
นักวิเคราะห์ตะวันตกบางคนยอมรับมากขึ้นแล้วว่าระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตยตะวันตก (Western liberal democracy) ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างสมควร ลัทธิอำนาจนิยมกำลังเบ่งบาน
บรรณานุกรม :

1. America falls short of being a full democracy for second year running, report finds. (2018, February 5). The Independent. Retrieved from https://www.rt.com/usa/417762-us-nuclear-buildup-russia-threat-excuse/

2. American Democracy Is in Crisis. (2018, September 16). The Atlantic. Retrieved from https://www.theatlantic.com/ideas/archive/2018/09/american-democracy-is-in-crisis/570394/

3. Colin Powell slams Trump as making America: ''Me the president,' as opposed to 'We the People''. (2018, October 7). Daily Mail. Retrieved from https://www.dailymail.co.uk/news/article-6250341/Colin-Powell-slams-Trump-making-America-president-opposed-People.html

4. 'Dividing into hostile tribes': Mattis laments state of politics in the age of Trump. (2019, August 28). Washington Examiner. Retrieved from https://www.washingtonexaminer.com/news/importance-of-patriotism-god-and-children-plummets-among-young-people-poll

5. FULL TEXT: President Donald Trump's Inauguration Speech. (2017, January 20). ABC News. Retrieved from http://abcnews.go.com/Politics/full-text-president-donald-trumps-inauguration-speech/story?id=44915821

6. Rucker, Walter., Upton, James Nathaniel (Eds). (2007). Introduction. In Encyclopedia of American Race Riots (p. xlv). USA: Greenwood Press.

7. Russian Foreign Ministry comments on US exit from US Human Rights Council. (2018, June 20). TASS. Retrieved from http://tass.com/politics/1010291

8. The White House. (2013, September 24). Remarks by President Obama in Address to the United Nations General Assembly. Retrieved from http://www.whitehouse.gov/the-press-office/2013/09/24/remarks-president-obama-address-united-nations-general-assembly

9. 'This is an authoritarian era' — and investors should be worried, says Richard Haass. (2018, October 26). CNBC. Retrieved from https://www.cnbc.com/2018/10/26/this-is-an-authoritarian-era-investors-should-worry-richard-haass.html

10. United Nations Human Rights Council. (2018). Welcome to the Human Rights Council. Retrieved from https://www.ohchr.org/EN/HRBodies/HRC/Pages/AboutCouncil.aspx

11. UN says US must HEAR George Floyd protesters’ voices and get rid of its ‘STRUCTURAL RACISM’. (2020, June 3). RT. Retrieved from https://www.rt.com/news/490691-un-us-structural-racism-protests/

12. US Department of Defense. (2019, June 1). Indo-Pacific Strategy Report: Preparedness, Partnerships, and Promoting a Networked Region. Retrieved from https://media.defense.gov/2019/May/31/2002139210/-1/-1/1/DOD_INDO_PACIFIC_STRATEGY_REPORT_JUNE_2019.PDF

13. U.S. Department of State. (2020, March 11). 2019 Country Reports on Human Rights Practices. Retrieved from https://www.state.gov/reports/2019-country-reports-on-human-rights-practices/

14. US pulls out of UN Human Rights Council. (2018, June 19). The Hill. Retrieved from http://thehill.com/policy/international/393086-us-pulls-out-of-un-human-rights-council

15. Trump Administration Withdraws U.S. From U.N. Human Rights Council. (2018, June 19). The New York Times. Retrieved from https://www.nytimes.com/2018/06/19/us/politics/trump-israel-palestinians-human-rights.html

-----------------------------