เกาะติดประเด็นร้อน “ความขัดแย้งในประเทศซีเรีย” (4)

สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 14 มิ.ย. 13.30 น.) หลังความสับสนเรื่องใครเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีในซีเรียที่ดำเนินมาสองสามเดือน มีข้อมูลสองด้าน ด้านหนึ่งชี้ว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมี อีกด้านชี้ว่าฝ่ายต่อต้านเป็นผู้ใช้ ต่อมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นายลอรอนต์ แฟบิอุส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่ามีการใช้อาวุธเคมีซารินหลายครั้งในซีเรีย รัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง กล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยว่ารัฐบาล (ซีเรีย) กับผู้ร่วมสมคบเป็นผู้ใช้”
            หลักฐานที่ฝรั่งเศสกับอังกฤษเปิดเผยทำให้ ทำเนียบขาวขอเวลาเพื่อหาคำตอบและ “ต้องการหลักฐานยืนยันสนับสนุน”
            ในที่สุดรัฐบาลโอบามาออกมาประกาศว่าระบอบอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีโจมตีฝ่ายต่อต้าน ถือเป็นการ “ล้ำเส้นต้องห้าม” ที่ประธานาธิบดีโอบามาประกาศว่าอาจจัดการขั้นเด็ดขาดหากรัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมี
คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 14 มิ.ย. 13.30 น.)
          ทำเนียบขาวประกาศเมื่อวาน (13 มิ.ย.) ว่ารัฐบาลโอบามามีหลักฐานที่สรุปได้แล้วว่าระบอบอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีโจมตีฝ่ายต่อต้าน มีผู้สังเวยชีวิตถึง 150 คนเมื่อปีก่อน และถือว่าได้ “ล้ำเส้นต้องห้าม” ของประธานาธิบดีโอบามาแล้ว
            ทำเนียบขาวแถลงว่า “การใช้อาวุธเคมีเป็นการละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศและล้ำเส้นต้องห้ามบรรทัดฐานของประชาคมโลกที่มีมานานหลายทศวรรษแล้ว” เป็นเหตุให้ประธานาธิบดีตัดสินใจเปลี่ยนจุดยืน
            หลักฐานใหม่ที่รัฐบาลโอบามาได้รับคือหลักฐานที่ฝรั่งเศสกับอังกฤษส่งให้สหประชาชาติที่ประกาศว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมี
(Syrian president has used chemical weapons, crossing 'red line,' US says, FoxNews.com/AP)
            ด้านวุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน แสดงความเห็นว่า การสนับสนุนอาวุธแก่ฝ่ายต่อต้านไม่ทำให้สถานการณ์สู้รบเปลี่ยนไป “Free Syrian Amry ต้องการอาวุธ อาวุธหนักที่สามารถต่อกรกับรถถัง เครื่องบินรบ พวกเขาต้องการเขตห้ามบิน
(White House: U.S. to give Syria rebels military aid after chemical attacks, The Ticket)
            ล่าสุด ประธานาธิบดีโอบามาอนุมัติจัดส่งอาวุธแก่พวกฝ่ายต่อต้านแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่เห็นชอบที่จะส่งทหารอเมริกันไปร่วมรบหรือการจัดทำเขตห้ามบิน (no-fly zone ) ในซีเรีย
(Obama to step up military support of Syrian rebels, AP)

วิเคราะห์: (อัพเดท 14 มิ.ย. 13.30 น.)
            สถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรียกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง เพราะรัฐบาลโอบามาตัดสินใจช่วยเหลือฝ่ายต่อต้าน Supreme Military Council (SMC) ด้วยอาวุธ เป็นการเปลี่ยนแปลงจุดยืนครั้งสำคัญของโอบามา
            ก่อนหน้านี้ รัฐบาลโอบามาเกรงว่าหากมอบอาวุธชั้นดีแก่ฝ่ายต่อต้าน อาวุธเหล่านี้จะตกอยู่ในของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อสหรัฐฯ แม้กระทั่งตกอยู่ในมือของอัลกออิดะห์
            อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า การให้อาวุธแก่ฝ่ายต่อต้านไม่ช่วยให้ฝ่ายต่อต้านชนะการรบแต่อย่างไร สิ่งที่ฝ่ายต่อต้านต้องการจริงๆ คือการจัดทำเขตห้ามบิน (อ่านบทวิเคราะห์ สหภาพยุโรปกับการเสริมเขี้ยวเล็บแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย)
            เป็นไปได้ว่ารัฐบาลโอบามาพยายามดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวัง เนื่องจากต้องการดูปฏิกิริยาจากนานาชาติ โดยเฉพาะรัสเซียกับจีน รวมทั้งจากคนอเมริกัน
            และอาจหวังว่าการเปลี่ยนจุดยืนครั้งนี้ จะเพิ่มแรงกดดันต่อระบอบอัสซาดให้ก้าวลงจากอำนาจ การเจรจาประชุมเจรจาสันติภาพเจนีวา 2 ที่น่าจะจัดขึ้นในเดือนหน้าอาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับการเจรจา
            สหประชาชาติเพิ่งรายงานตัวเลขยอดผู้เสียชีวิต 93,000 คนจากความขัดแย้งในซีเรีย การเข้าแทรกแซงของอเมริกาจะช่วยลดหรือเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป
14 มิถุนายน 2013

ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
ข่าวการใช้อาวุธเคมีซารินในซีเรียกลายเป็นเรื่องจริง แต่ยังสับสนว่าฝ่ายใดเป็นผู้ใช้ ที่ผ่านมาซารินทำให้ผู้คนเสียชีวิตบาดเจ็บไม่มาก แต่กลับมีผลทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างมากทั้งต่อซีเรียและชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกา
(อัพเดท 5 มิ.ย. 10.30 น.) สถานการณ์ซีเรียยังมีเหตุให้ต้องจับตาต่อเนื่อง สัปดาห์ที่แล้วมีประเด็นว่ารัฐบาลซีเรียได้รับขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 หรือไม่ วันนี้ประเด็นการใช้อาวุธเคมีกลับมามีความสำคัญอีก เพราะเจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายงานว่าค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ด้านฝรั่งเศสยืนยันว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้
สมาชิกสหภาพยุโรปมีทั้งประเทศที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับการเสริมเขี้ยวเล็บแก่ฝ่ายต่อต้าน และมติยกเลิกคว่ำบาตรขายอาวุธแก่ฝ่ายต่อต้านไม่น่าจะมีผลใดๆ ทั้งด้านการรบกับการเมืองของซีเรีย เพราะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องและอาจไม่ตรงความต้องการของฝ่ายต่อต้าน
--------------------