สรุปสถานการณ์: (อัพเดท
28 ส.ค. 9.30 น.) ประธานาธิบดีโอบามากำลังพิจารณาโจมตีซีเรียแบบจำกัดขอบเขตและจำกัดระยะเวลา เพื่อลงโทษที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี
การโจมตีอาจกินเวลาไม่เกินสองวัน โดยใช้จรวดร่อนทั้งจากเรือรบและจากเครื่องบินทิ้งระเบิด
โจมตีที่ตั้งทางทหารซึ่งอาจไม่เกี่ยวข้องกับคลังเก็บอาวุธเคมี
นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าจากหลักฐานเท่าที่มี ไม่จำต้องรอการพิสูจน์ใดๆ อีก
คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท
28 ส.ค. 17.30 น.)
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่าการโจมตีจะต้องทำอย่างเจาะจงเป้าหมาย และไม่เป็นเหตุชักนำให้ประเทศเข้าสู่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มากที่เป็นอยู่ “นี่ไม่ใช่การเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามในตะวันออกกลาง หรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนของเราต่อซีเรีย หรือถลำลึกสู่ความขัดแย้ง” “ต้นเหตุจากอาวุธเคมี การใช้อาวุธเคมีนั้นไม่ถูกต้องและโลกไม่ควรยืนดูเฉยๆ”
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่าการโจมตีจะต้องทำอย่างเจาะจงเป้าหมาย และไม่เป็นเหตุชักนำให้ประเทศเข้าสู่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มากที่เป็นอยู่ “นี่ไม่ใช่การเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามในตะวันออกกลาง หรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนของเราต่อซีเรีย หรือถลำลึกสู่ความขัดแย้ง” “ต้นเหตุจากอาวุธเคมี การใช้อาวุธเคมีนั้นไม่ถูกต้องและโลกไม่ควรยืนดูเฉยๆ”
นาย Nick Clegg รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า “ถ้าเรานิ่งเฉยเท่ากับว่าได้วางบรรทัดฐานให้จอมเผด็จการหรือผู้ปกครองที่โหดร้ายรู้สึกว่าพวกเขาสามารถใช้อาวุธเคมีอย่างสบายใจ”
ทั้งยังกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ “ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือล้มรัฐบาลอัสซาด หรือพยายามยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียในทางใดทางหนึ่ง”
การยุติความขัดแย้งในซีเรีย “จะต้องใช้วีทางการเมือง” รัฐบาลอังกฤษไม่คิดเปิดศึกสงคราม
“ด้วยทหารราบอย่างที่เห็นในอิรัก”
ขณะนี้รัฐบาลโอบามาอยู่กำลังพิจารณาแผนการรบ แนวทางหนึ่งคือ
“การโจมตีแบบห่างๆ” ด้านพลเอก Martin Dempsey
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเคยกล่าวว่า “เป้าหมายที่มีความเป็นไปได้คือระบบป้องกันภัยทางอากาศ
ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ขีปนาวุธพื้นสู่พื้น กองเรือรบ
อาคารที่ตั้งที่สนับสนุนกองทัพ และกองบัญชาการ” ด้วยการโจมตีทางอากาศและจรวดต่อเป้าหมายหลายร้อยจุดขึ้นกับว่าจะเลือกที่ใด
Prince Saud
Al-Faisal ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียเรียกร้องให้นานาชาติจัดการรัฐบาลอัสซาดอย่าง
“เฉียบขาด จริงจัง” เนื่องจากเหตุการใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือน เห็นว่าระบอบอัสซาดสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ของอาหรับ
และไม่เป็นของประเทศซีเรียอีกต่อไป
สันนิบาตอาหรับออกแถลงการณ์ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรียควรได้รับการลงโทษตามหลักกฎหมายสากล
เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแสดงบทบาท รัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบ
ด้านนาย Walid
Muallem รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย ประกาศกร้าวว่า “เรามีทางเลือกสองทาง
คือ ยอมแพ้หรือป้องกันตนเองด้วยทุกวิถีทาง...ทางเลือกที่สองคือทางเลือกที่ดีที่สุด
เราจะทำการปกป้องตนเอง” พร้อมกับเตือนว่าการโจมตีจะเป็นประโยชน์ต่ออิสราเอลกับอัลกออิดะห์เท่านั้น
รัสเซียได้อพยพคนของตนออกจากประเทศซีเรียแล้ว กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย
(Russian Emergency Situations Ministry) ประกาศว่าได้อพยพ
89 คนออกจากซีเรีย
นาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า
การแทรกแซงทางทหาร “จะทำให้ประเทศซีเรียและภูมิภาคไร้เสถียรภาพยาวนานขึ้น”
วิเคราะห์: (อัพเดท 28
ส.ค. 17.30 น.)
เกาะติดประเด็นร้อนฉบับนี้จะมุ่งอธิบาย จำลองภาพการรบที่อาจจะเกิดขึ้น
และรายงานผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน
ยุทธการจำลอง:
1.แผนการรบขึ้นกับวัตถุประสงค์หลัก:
วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อลดทอนอำนาจทางทหารของรัฐบาลอัสซาด
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พลเอก Martin Dempsey ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสหรัฐฯ เสนอแนวทางช่วยเหลือฝ่ายต่อต้าน 5 แนวทาง
เพื่อให้ฝ่ายบริหารประกอบการตัดสินใจ หนึ่งในแนวทางนั้นคือ โจมตีเป้าหมายสำคัญ โดยสหรัฐฯ
จะโจมตีเป้าหมายทางทหารที่สำคัญ เช่น ระบบต่อต้านอากาศยาน ขีปนาวุธต่างๆ
รวมทั้งกองกำลังนาวีซีเรีย ศูนย์บัญชาการ
แนวทางนี้ต้องอาศัยเครื่องบินรบหลายร้อยลำ เรือรบ เรือดำน้ำ และอื่นๆ
ใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ และอาจทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องเสียชีวิต
2.เป้าหมายตามวัตถุประสงค์:
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลัก เป้าหมายที่น่าจะเป็นไปได้คือ
2.1
ศูนย์บัญชาการใหญ่ ศูนย์บัญชาการที่สำคัญ
ศูนย์บัญชาการเป็นหัวใจของการศึก
เป็นเป้าหมายสำคัญลำดับแรก
2.2
ระบบการสื่อสาร
หากทำลายระบบการสื่อสาร เท่ากับการทำลายระบบการรับรู้ รับฟังต่างๆ
กองทัพอัสซาดจะเปรียบเหมือนคนตาบอด หน่วยทหารต่างๆ ยากจะติดต่อประสานงานกัน
2.3
สนามบิน ระบบต่อต้านอากาศยาน
เพื่อป้องกันการโจมตีกลับ
ป้องกันเครื่องบินของตนที่ส่งไปโจมตี
2.4
คลังอาวุธ
เพื่อทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพอัสซาด
2.5
ฐานทัพที่สำคัญๆ ที่ตั้งกองทหารต่างๆ
เพื่อบั่นทอนกำลังรบให้มากที่สุด
3.ยุทธวิธีหลัก: จากคำแถลงของประธานาธิบดีโอบามา
นายกรัฐมนตรีคาเมรอน ยุทธวิธีหลักคือใช้การโจมตีจากระยะไกล
ไม่ส่งทหารราบเข้าร่วมสมรภูมิ ดังนั้น คาดว่าคือการโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ด้วยการทิ้งระเบิด
4.อาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น:
4.1 ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
เป็นอาวุธที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด
เนื่องจากเคยใช้ในหลายยุทธการสำคัญๆ โดยเฉพาะในสงครามอ่าวเปอร์เซีย เหมาะสำหรับภารกิจทำลายเป้าหมายสำคัญลำดับแรก
ขีปนาวุธนี้สามารถบินหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวาง บินต่ำหลบการตรวจจับจากเรดาร์ ช่วยให้ไม่ต้องนำชีวิตทหารเข้าเสี่ยง
เนื่องจากมีพิสัยไกลเป็นพันกิโลเมตร
ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
มีหลายรุ่น สามารถยิงจากเรือรบ เรือดำน้ำ เครื่องบินทิ้งระเบิด สามารถติดหัวรบหลากหลายชนิด
รวมทั้งหัวรบนิวเคลียร์
4.2
คาดว่าสหรัฐฯ ได้แอบส่งเรือดำน้ำที่สามารถปล่อยขีปนาวุธโทมาฮอว์กไปประจำการในตำแหน่งพร้อมยิงแล้ว
5. การทดสอบอาวุธใหม่ๆ
จากประวัติการรบครั้งสำคัญๆ
ในอดีต กองทัพอเมริกันมักใช้ยุทธการจริงในการใช้/ทดสอบอาวุธใหม่ๆ
6.การสนับสนุนจากมิตรประเทศ
จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ
อังกฤษกับฝรั่งเศสจะมีส่วนร่วมในยุทธการครั้งนี้ด้วย มีข่าวว่าได้ส่งเรือดำน้ำชั้น
Trafalgar ที่สามารถยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
7.ระยะเวลาโจมตี
สื่อบางฉบับรายงานแหล่งข่าวว่าการโจมตีจะกินเวลาสองวัน
ข้อวิพากษ์คือแม้มีการระบุชัดว่าเป็นการโจมตีอย่างจำกัด
แต่การบรรลุเป้าหมายมีความสำคัญกว่า ดังนั้น อาจกินเวลาสองวันหรือมากกว่า
และอาจโจมตีหลายระลอก เช่น โจมตีสองวันแล้วหยุด
จากนั้นอีกสองสามวันเกิดการโจมตีระลอกใหม่ จึงขึ้นกับการประเมินความสำเร็จ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ
เช่น การตอบโต้จากซีเรีย การตอบโต้จากประเทศอื่นๆ สถานการณ์ภายในภูมิภาค
รวมถึงการเมืองภายในประเทศของแต่ละประเทศด้วย
อนึ่ง สิ่งที่เสนอเป็นเพียงยุทธการจำลองเท่านั้น
เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพการรบที่จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าไม่ถูกต้องทั้งหมด และมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องกล่าวถึงในโอกาสต่อไป
ผลกระทบต่อตลาดทุน:
(ข้อมูลส่วนนี้จะปรับตามเวลา เพื่อแสดงสถานะล่าสุด)
ตลาดหุ้นทั้งสามตลาดใหญ่ เอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า
จากความกังวลว่าสหรัฐฯ จะโจมตีซีเรีย หลังจากที่รัฐบาลโอบามาเห็นว่ารัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบเรื่องการใช้การอาวุธเคมี
ตลาดหุ้นเอเชียกับยุโรปวันนี้ (28 ส.ค.) ร่วงต่อทั้งตลาดต่อเป็นวันที่สอง
ราคาน้ำมันดิบ
WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ปรับสูงสุดในรอบสองปีหรือตั้งแต่พฤษภาคม
2011 ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (บางช่วงขึ้นถึง 112)
นาย Stephen Schork ประธานบริษัท Schork
Group Inc ชี้ว่าสถานการณ์ที่น่ากลัวมากสุดคือ การโจมตีซีเรียขยายวงกลายเป็นการต่อสู้กับผู้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาด
คุณ Michael Wittner หัวหน้านักวิจัยของ Societe
Generale ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจแตะ 150
ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถ้าการโจมตีบานปลายกระทบทั่วทั้งภูมิภาคกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
นาย
Matthew Sherwood หัวหน้านักวิจัยด้านการลงทุนของ Perpetual
Investments ประเทศออสเตรเลีย อธิบายว่า
สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ผนวกกับความไม่แน่นอนในนโยบายทางการเงินของอเมริกา
เป็นสองปัจจัยหลักที่กระทบตลาดในขณะนี้ คาดว่า “ตลาดน่าจะลงต่อ”
นาย
Tim Hoyle ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย Radnor,
Pennsylvania-based Haverford Investments ชี้ว่า ในระยะสั้น
ความผันผวน ความขัดแย้งในตะวันออกกลางส่งผลลบต่อตลาด โดยเฉพาะตลาดน้ำมันกับตลาดหลักทรัพย์
นักลงทุนใช้วิธีโยกย้ายเงินมาซื้อขายน้ำมันแทน
นาย Trevor Houser จาก Rhodium Group ไม่คาดว่าน้ำมันดิบเบรนท์จะขึ้นทะลุ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหากเกิดการโจมตี
ในช่วงที่เกิดการโจมตีตลาดอาจรอดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ
ก่อนเพื่อตัดสินใจว่าราคาควรขยับขึ้นลงอย่างไร สองสามปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ
ผลิตน้ำมันดิบได้ถึง 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้ตลาดตึงตัวมากอย่างที่เคยเป็นในอดีต
การวิเคราะห์ผลยุทธการต่อตลาดทุน ราคาน้ำมัน ควรแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงก่อนโจมตี
ช่วงระหว่างโจมตี และช่วงหลังโจมตี
1)ช่วงก่อนโจมตี
เป็นช่วงที่กระแสข่าวการเตรียมโจมตีโหมกระพือ
เป็นสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนี้
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเป็นช่วงที่นักลงทุนจากเคลื่อนย้ายเงินทุนสู่การลงทุนในน้ำมัน
หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
คาดว่าจะอยู่ในสภาวะเช่นนี้อีกจนถึงสัปดาห์หน้า
รอดูสัญญาณการเริ่มโจมตีจากสหรัฐฯ
2)ช่วงระหว่างโจมตี
คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ราคาผันผวนมากที่สุด
ขึ้นกับสถานการณ์วันต่อวัน ขึ้นกับการตีความของแต่ละคนว่าเห็นว่าสถานการณ์กำลังสู่ทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง
มีความเป็นไปได้ทั้งการโจมตีอาจสิ้นสุดภายในสองวัน
หรืออาจยืดยาวกว่านั้น อาจมีการโจมตีหลายระลอก (ดังที่อธิบายในส่วนยุทธการจำลอง)
การจะสรุปว่าการโจมตีสิ้นสุดจึงต้องดูที่การประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอเมริกันเป็นหลัก
3)ช่วงหลังโจมตี
เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลโอบามาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าภารกิจเสร็จสิ้น
บรรลุเป้าหมาย จะต้องทำการสำรวจความเสียหาย ผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจมีเฉพาะต่อประเทศซีเรีย
หรืออาจขยายวงสู่ประเทศอื่นๆ ด้วย
หากผลกระทบจำกัดเพียงภายในประเทศซีเรีย
และไม่ผลต่ออุปสงค์อุปทานน้ำมัน เชื่อว่าราคาน้ำมันจะกลับสู่ดุลยภาพในเวลาไม่ช้า
อนึ่ง
การวิเคราะห์นี้มุ่งอธิบายสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุน
สรุปแล้ว ณ ขณะนี้สำนักข่าวทั่วโลกเฝ้าจับตาความคืบหน้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ
อังกฤษ ฝรั่งเศส ว่าได้เตรียมการโจมตีถึงขั้นใดแล้ว
เพื่อประเมินว่าการรบจะเป็นอย่างไร ส่วนตลาดทุนในช่วงนี้ได้รับข่าวร้ายจากสถานการณ์ดังกล่าว
ต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
28 สิงหาคม 2013
ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
(อัพเดท 23 ส.ค. 20.50 น.)
ข่าวการใช้อาวุธเคมีล่าสุดในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ทำให้หลายประเทศเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบ
ในขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะไม่แทรกแซงซีเรียด้วยกำลังทหาร
(อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.)
สถานการณ์ซีเรียร้อนแรงต่อเนื่อง รัฐบาลอเมริกา
อังกฤษและฝรั่งเศสปักใจเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้ใช้อาวุธเคมี
สามมหาอำนาจกำลังหาร่วมให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เรือรบสหรัฐฯ
ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สหประชาชาติจะเข้าตรวจสอบอาวุธเคมีในวันจันทร์นี้
ภายหลังที่รัฐบาลซีเรียยอมเข้าตรวจสอบจุดต้องสงสัย
ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสถานการณ์มาถึงจุดที่สายเกินแก้แล้ว
ราวหนึ่งปีหลังจากที่กล่าวหากันไปมาในที่สุดสหประชาชาติส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
แต่ต้องเข้าใจว่าเป้าหมายของการตรวจสอบคือเพื่อพิสูจน์ว่ามีการใช้หรือไม่เท่านั้น
ไม่ครอบคลุมถึงเรื่องใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้
ที่ผ่านมาอังกฤษกับฝรั่งเศสแสดงท่าทีขึงขังเรียกร้องการแทรกแซงทางการทหาร
แต่นั่นหมายถึงต้องมีสหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่ที่ลังเลใจเรื่อยมา
(อัพเดท 27 ส.ค. 20.00 น.) นานาชาติพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับการใช้อาวุธเคมีที่ชานกรุงดามัสกัส
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สหรัฐฯ อังกฤษ
ฝรั่งเศสเชื่อว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด
และกำลังพิจารณาใช้กำลังทหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
บรรณานุกรม:
1. Cameron and Clegg pave the way for
UK role in Syria strike, The Guardian, 27 August 2013, http://www.theguardian.com/politics/2013/aug/27/cameron-clegg-uk-role-syria-strike
2. After Syria chemical allegations, Obama considering
limited military strike, The Washington Post, 27 August 2013, http://www.washingtonpost.com/world/national-security/kerry-obama-determined-to-hold-syria-accountable-for-using-chemical-weapons/2013/08/26/599450c2-0e70-11e3-8cdd-bcdc09410972_story.html
3. Syria crisis: Western military options, BBC, 27
August 2013, http://www.bbc.co.uk/news/world-us-canada-23849386
4. Asian Stocks Drop While Oil Climbs on Syria; Aussie Slips,
Bloomberg, 28 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-27/asian-futures-slump-as-u-s-stocks-slide-syria-fuels-oil.html
5. Oil prices seen higher but shock not yet in the cards, CNBC,
27 August 2013, http://www.cnbc.com/id/100991763
6. “Brent may hit $150 if Syria impacts Iraq, SocGen warns”,
CNBC, 28 August 2013, http://www.cnbc.com/id/100992467
7. “Oil Gains on Syria as Lira, Rupee Drop; U.S. Futures
Rise”, Bloomberg, 28 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-27/asian-futures-slump-as-u-s-stocks-slide-syria-fuels-oil.html
8. Russia evacuates citizens from Syria, Houston Chronicle/AP, 28 August 2013, http://www.chron.com/news/world/article/Russia-evacuates-citizens-from-Syria-4766712.php
9. KSA, Arab League seek decisive world stand on Syria, Arab
News, 28 August 2013, http://www.arabnews.com/news/462760
----------
นาย Nick Clegg รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า “ถ้าเรานิ่งเฉยเท่ากับว่าได้วางบรรทัดฐานให้จอมเผด็จการหรือผู้ปกครองที่โหดร้ายรู้สึกว่าพวกเขาสามารถใช้อาวุธเคมีอย่างสบายใจ”
ทั้งยังกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ “ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือล้มรัฐบาลอัสซาด หรือพยายามยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียในทางใดทางหนึ่ง”
การยุติความขัดแย้งในซีเรีย “จะต้องใช้วีทางการเมือง” รัฐบาลอังกฤษไม่คิดเปิดศึกสงคราม
“ด้วยทหารราบอย่างที่เห็นในอิรัก”
ขณะนี้รัฐบาลโอบามาอยู่กำลังพิจารณาแผนการรบ แนวทางหนึ่งคือ
“การโจมตีแบบห่างๆ” ด้านพลเอก Martin Dempsey
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเคยกล่าวว่า “เป้าหมายที่มีความเป็นไปได้คือระบบป้องกันภัยทางอากาศ
ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ขีปนาวุธพื้นสู่พื้น กองเรือรบ
อาคารที่ตั้งที่สนับสนุนกองทัพ และกองบัญชาการ” ด้วยการโจมตีทางอากาศและจรวดต่อเป้าหมายหลายร้อยจุดขึ้นกับว่าจะเลือกที่ใด
Prince Saud
Al-Faisal ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียเรียกร้องให้นานาชาติจัดการรัฐบาลอัสซาดอย่าง
“เฉียบขาด จริงจัง” เนื่องจากเหตุการใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือน เห็นว่าระบอบอัสซาดสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ของอาหรับ
และไม่เป็นของประเทศซีเรียอีกต่อไป
สันนิบาตอาหรับออกแถลงการณ์ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรียควรได้รับการลงโทษตามหลักกฎหมายสากล
เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแสดงบทบาท รัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบ
ด้านนาย Walid
Muallem รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย ประกาศกร้าวว่า “เรามีทางเลือกสองทาง
คือ ยอมแพ้หรือป้องกันตนเองด้วยทุกวิถีทาง...ทางเลือกที่สองคือทางเลือกที่ดีที่สุด
เราจะทำการปกป้องตนเอง” พร้อมกับเตือนว่าการโจมตีจะเป็นประโยชน์ต่ออิสราเอลกับอัลกออิดะห์เท่านั้น
รัสเซียได้อพยพคนของตนออกจากประเทศซีเรียแล้ว กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย
(Russian Emergency Situations Ministry) ประกาศว่าได้อพยพ
89 คนออกจากซีเรีย
นาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า
การแทรกแซงทางทหาร “จะทำให้ประเทศซีเรียและภูมิภาคไร้เสถียรภาพยาวนานขึ้น”
วิเคราะห์: (อัพเดท 28 ส.ค. 17.30 น.)
วิเคราะห์: (อัพเดท 28 ส.ค. 17.30 น.)
เกาะติดประเด็นร้อนฉบับนี้จะมุ่งอธิบาย จำลองภาพการรบที่อาจจะเกิดขึ้น
และรายงานผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน
ยุทธการจำลอง:
1.แผนการรบขึ้นกับวัตถุประสงค์หลัก:
วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อลดทอนอำนาจทางทหารของรัฐบาลอัสซาด
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พลเอก Martin Dempsey ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสหรัฐฯ เสนอแนวทางช่วยเหลือฝ่ายต่อต้าน 5 แนวทาง
เพื่อให้ฝ่ายบริหารประกอบการตัดสินใจ หนึ่งในแนวทางนั้นคือ โจมตีเป้าหมายสำคัญ โดยสหรัฐฯ
จะโจมตีเป้าหมายทางทหารที่สำคัญ เช่น ระบบต่อต้านอากาศยาน ขีปนาวุธต่างๆ
รวมทั้งกองกำลังนาวีซีเรีย ศูนย์บัญชาการ
แนวทางนี้ต้องอาศัยเครื่องบินรบหลายร้อยลำ เรือรบ เรือดำน้ำ และอื่นๆ
ใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ และอาจทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องเสียชีวิต
2.เป้าหมายตามวัตถุประสงค์:
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลัก เป้าหมายที่น่าจะเป็นไปได้คือ
2.1
ศูนย์บัญชาการใหญ่ ศูนย์บัญชาการที่สำคัญ
ศูนย์บัญชาการเป็นหัวใจของการศึก
เป็นเป้าหมายสำคัญลำดับแรก
2.2
ระบบการสื่อสาร
หากทำลายระบบการสื่อสาร เท่ากับการทำลายระบบการรับรู้ รับฟังต่างๆ
กองทัพอัสซาดจะเปรียบเหมือนคนตาบอด หน่วยทหารต่างๆ ยากจะติดต่อประสานงานกัน
2.3
สนามบิน ระบบต่อต้านอากาศยาน
เพื่อป้องกันการโจมตีกลับ
ป้องกันเครื่องบินของตนที่ส่งไปโจมตี
2.4
คลังอาวุธ
เพื่อทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพอัสซาด
2.5
ฐานทัพที่สำคัญๆ ที่ตั้งกองทหารต่างๆ
เพื่อบั่นทอนกำลังรบให้มากที่สุด
3.ยุทธวิธีหลัก: จากคำแถลงของประธานาธิบดีโอบามา
นายกรัฐมนตรีคาเมรอน ยุทธวิธีหลักคือใช้การโจมตีจากระยะไกล
ไม่ส่งทหารราบเข้าร่วมสมรภูมิ ดังนั้น คาดว่าคือการโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ด้วยการทิ้งระเบิด
4.อาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น:
4.1 ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
เป็นอาวุธที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด
เนื่องจากเคยใช้ในหลายยุทธการสำคัญๆ โดยเฉพาะในสงครามอ่าวเปอร์เซีย เหมาะสำหรับภารกิจทำลายเป้าหมายสำคัญลำดับแรก
ขีปนาวุธนี้สามารถบินหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวาง บินต่ำหลบการตรวจจับจากเรดาร์ ช่วยให้ไม่ต้องนำชีวิตทหารเข้าเสี่ยง
เนื่องจากมีพิสัยไกลเป็นพันกิโลเมตร
ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
มีหลายรุ่น สามารถยิงจากเรือรบ เรือดำน้ำ เครื่องบินทิ้งระเบิด สามารถติดหัวรบหลากหลายชนิด
รวมทั้งหัวรบนิวเคลียร์
4.2
คาดว่าสหรัฐฯ ได้แอบส่งเรือดำน้ำที่สามารถปล่อยขีปนาวุธโทมาฮอว์กไปประจำการในตำแหน่งพร้อมยิงแล้ว
5. การทดสอบอาวุธใหม่ๆ
จากประวัติการรบครั้งสำคัญๆ
ในอดีต กองทัพอเมริกันมักใช้ยุทธการจริงในการใช้/ทดสอบอาวุธใหม่ๆ
6.การสนับสนุนจากมิตรประเทศ
จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ
อังกฤษกับฝรั่งเศสจะมีส่วนร่วมในยุทธการครั้งนี้ด้วย มีข่าวว่าได้ส่งเรือดำน้ำชั้น
Trafalgar ที่สามารถยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก
7.ระยะเวลาโจมตี
สื่อบางฉบับรายงานแหล่งข่าวว่าการโจมตีจะกินเวลาสองวัน
ข้อวิพากษ์คือแม้มีการระบุชัดว่าเป็นการโจมตีอย่างจำกัด
แต่การบรรลุเป้าหมายมีความสำคัญกว่า ดังนั้น อาจกินเวลาสองวันหรือมากกว่า
และอาจโจมตีหลายระลอก เช่น โจมตีสองวันแล้วหยุด
จากนั้นอีกสองสามวันเกิดการโจมตีระลอกใหม่ จึงขึ้นกับการประเมินความสำเร็จ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ
เช่น การตอบโต้จากซีเรีย การตอบโต้จากประเทศอื่นๆ สถานการณ์ภายในภูมิภาค
รวมถึงการเมืองภายในประเทศของแต่ละประเทศด้วย
อนึ่ง สิ่งที่เสนอเป็นเพียงยุทธการจำลองเท่านั้น
เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพการรบที่จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าไม่ถูกต้องทั้งหมด และมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องกล่าวถึงในโอกาสต่อไป
ผลกระทบต่อตลาดทุน:
(ข้อมูลส่วนนี้จะปรับตามเวลา เพื่อแสดงสถานะล่าสุด)
ตลาดหุ้นทั้งสามตลาดใหญ่ เอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า
จากความกังวลว่าสหรัฐฯ จะโจมตีซีเรีย หลังจากที่รัฐบาลโอบามาเห็นว่ารัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบเรื่องการใช้การอาวุธเคมี
ตลาดหุ้นเอเชียกับยุโรปวันนี้ (28 ส.ค.) ร่วงต่อทั้งตลาดต่อเป็นวันที่สอง
ราคาน้ำมันดิบ
WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ปรับสูงสุดในรอบสองปีหรือตั้งแต่พฤษภาคม
2011 ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (บางช่วงขึ้นถึง 112)
นาย Stephen Schork ประธานบริษัท Schork
Group Inc ชี้ว่าสถานการณ์ที่น่ากลัวมากสุดคือ การโจมตีซีเรียขยายวงกลายเป็นการต่อสู้กับผู้สนับสนุนรัฐบาลอัสซาด
คุณ Michael Wittner หัวหน้านักวิจัยของ Societe
Generale ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจแตะ 150
ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถ้าการโจมตีบานปลายกระทบทั่วทั้งภูมิภาคกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
นาย
Matthew Sherwood หัวหน้านักวิจัยด้านการลงทุนของ Perpetual
Investments ประเทศออสเตรเลีย อธิบายว่า
สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ผนวกกับความไม่แน่นอนในนโยบายทางการเงินของอเมริกา
เป็นสองปัจจัยหลักที่กระทบตลาดในขณะนี้ คาดว่า “ตลาดน่าจะลงต่อ”
นาย
Tim Hoyle ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย Radnor,
Pennsylvania-based Haverford Investments ชี้ว่า ในระยะสั้น
ความผันผวน ความขัดแย้งในตะวันออกกลางส่งผลลบต่อตลาด โดยเฉพาะตลาดน้ำมันกับตลาดหลักทรัพย์
นักลงทุนใช้วิธีโยกย้ายเงินมาซื้อขายน้ำมันแทน
นาย Trevor Houser จาก Rhodium Group ไม่คาดว่าน้ำมันดิบเบรนท์จะขึ้นทะลุ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหากเกิดการโจมตี
ในช่วงที่เกิดการโจมตีตลาดอาจรอดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ
ก่อนเพื่อตัดสินใจว่าราคาควรขยับขึ้นลงอย่างไร สองสามปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ
ผลิตน้ำมันดิบได้ถึง 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้ตลาดตึงตัวมากอย่างที่เคยเป็นในอดีต
การวิเคราะห์ผลยุทธการต่อตลาดทุน ราคาน้ำมัน ควรแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงก่อนโจมตี
ช่วงระหว่างโจมตี และช่วงหลังโจมตี
1)ช่วงก่อนโจมตี
เป็นช่วงที่กระแสข่าวการเตรียมโจมตีโหมกระพือ
เป็นสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนี้
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเป็นช่วงที่นักลงทุนจากเคลื่อนย้ายเงินทุนสู่การลงทุนในน้ำมัน
หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
คาดว่าจะอยู่ในสภาวะเช่นนี้อีกจนถึงสัปดาห์หน้า
รอดูสัญญาณการเริ่มโจมตีจากสหรัฐฯ
2)ช่วงระหว่างโจมตี
คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ราคาผันผวนมากที่สุด
ขึ้นกับสถานการณ์วันต่อวัน ขึ้นกับการตีความของแต่ละคนว่าเห็นว่าสถานการณ์กำลังสู่ทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง
มีความเป็นไปได้ทั้งการโจมตีอาจสิ้นสุดภายในสองวัน
หรืออาจยืดยาวกว่านั้น อาจมีการโจมตีหลายระลอก (ดังที่อธิบายในส่วนยุทธการจำลอง)
การจะสรุปว่าการโจมตีสิ้นสุดจึงต้องดูที่การประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอเมริกันเป็นหลัก
3)ช่วงหลังโจมตี
เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลโอบามาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าภารกิจเสร็จสิ้น
บรรลุเป้าหมาย จะต้องทำการสำรวจความเสียหาย ผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจมีเฉพาะต่อประเทศซีเรีย
หรืออาจขยายวงสู่ประเทศอื่นๆ ด้วย
หากผลกระทบจำกัดเพียงภายในประเทศซีเรีย
และไม่ผลต่ออุปสงค์อุปทานน้ำมัน เชื่อว่าราคาน้ำมันจะกลับสู่ดุลยภาพในเวลาไม่ช้า
อนึ่ง
การวิเคราะห์นี้มุ่งอธิบายสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุน
สรุปแล้ว ณ ขณะนี้สำนักข่าวทั่วโลกเฝ้าจับตาความคืบหน้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ
อังกฤษ ฝรั่งเศส ว่าได้เตรียมการโจมตีถึงขั้นใดแล้ว
เพื่อประเมินว่าการรบจะเป็นอย่างไร ส่วนตลาดทุนในช่วงนี้ได้รับข่าวร้ายจากสถานการณ์ดังกล่าว
ต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
28 สิงหาคม 2013
ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
(อัพเดท 23 ส.ค. 20.50 น.)
ข่าวการใช้อาวุธเคมีล่าสุดในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ทำให้หลายประเทศเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบ
ในขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะไม่แทรกแซงซีเรียด้วยกำลังทหาร
(อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.)
สถานการณ์ซีเรียร้อนแรงต่อเนื่อง รัฐบาลอเมริกา
อังกฤษและฝรั่งเศสปักใจเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้ใช้อาวุธเคมี
สามมหาอำนาจกำลังหาร่วมให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เรือรบสหรัฐฯ
ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สหประชาชาติจะเข้าตรวจสอบอาวุธเคมีในวันจันทร์นี้
ภายหลังที่รัฐบาลซีเรียยอมเข้าตรวจสอบจุดต้องสงสัย
ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสถานการณ์มาถึงจุดที่สายเกินแก้แล้ว
ราวหนึ่งปีหลังจากที่กล่าวหากันไปมาในที่สุดสหประชาชาติส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
แต่ต้องเข้าใจว่าเป้าหมายของการตรวจสอบคือเพื่อพิสูจน์ว่ามีการใช้หรือไม่เท่านั้น
ไม่ครอบคลุมถึงเรื่องใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้
ที่ผ่านมาอังกฤษกับฝรั่งเศสแสดงท่าทีขึงขังเรียกร้องการแทรกแซงทางการทหาร
แต่นั่นหมายถึงต้องมีสหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่ที่ลังเลใจเรื่อยมา
(อัพเดท 27 ส.ค. 20.00 น.) นานาชาติพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับการใช้อาวุธเคมีที่ชานกรุงดามัสกัส
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สหรัฐฯ อังกฤษ
ฝรั่งเศสเชื่อว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด
และกำลังพิจารณาใช้กำลังทหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
บรรณานุกรม:
1. Cameron and Clegg pave the way for
UK role in Syria strike, The Guardian, 27 August 2013, http://www.theguardian.com/politics/2013/aug/27/cameron-clegg-uk-role-syria-strike
2. After Syria chemical allegations, Obama considering
limited military strike, The Washington Post, 27 August 2013, http://www.washingtonpost.com/world/national-security/kerry-obama-determined-to-hold-syria-accountable-for-using-chemical-weapons/2013/08/26/599450c2-0e70-11e3-8cdd-bcdc09410972_story.html
3. Syria crisis: Western military options, BBC, 27
August 2013, http://www.bbc.co.uk/news/world-us-canada-23849386
4. Asian Stocks Drop While Oil Climbs on Syria; Aussie Slips,
Bloomberg, 28 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-27/asian-futures-slump-as-u-s-stocks-slide-syria-fuels-oil.html
5. Oil prices seen higher but shock not yet in the cards, CNBC,
27 August 2013, http://www.cnbc.com/id/100991763
6. “Brent may hit $150 if Syria impacts Iraq, SocGen warns”,
CNBC, 28 August 2013, http://www.cnbc.com/id/100992467
7. “Oil Gains on Syria as Lira, Rupee Drop; U.S. Futures
Rise”, Bloomberg, 28 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-27/asian-futures-slump-as-u-s-stocks-slide-syria-fuels-oil.html
8. Russia evacuates citizens from Syria, Houston Chronicle/AP, 28 August 2013, http://www.chron.com/news/world/article/Russia-evacuates-citizens-from-Syria-4766712.php
9. KSA, Arab League seek decisive world stand on Syria, Arab
News, 28 August 2013, http://www.arabnews.com/news/462760
----------