ไบเดนชี้ว่าทรัมป์กับพวกเป็นพวกสุดโต่งสร้างความแตกแยก ไม่เป็นประชาธิปไตย สิ่งที่ไบเดนกำลังทำคือตอกย้ำแบ่งแยกคนอเมริกันเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายประชาธิปไตยกับพวกสุดโต่ง
ในช่วงนี้ที่กำลังหาเสียงสำหรับเลือกตั้งกลางเทอมพฤศจิกายน
2022 ประธานาธิบดีไบเดนหาเสียงในหลายเวทีด้วยยุทธศาสตร์ชี้ทรัมป์ไม่เป็นประชาธิปไตย
เป็นพวกสุดโต่งกึ่งเผด็จการ
ต้นเดือนกันยายน
2022 ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ
MAGA Republicans เป็นพวกสุดโต่ง (an extremism – ไม่ใช่พวกประชาธิปไตย) กำลังคุกคามรากฐานของประเทศ
คนเหล่านี้เป็นคนส่วนน้อยของพรรครีพับลิกันแต่ตอนนี้พรรคถูกควบคุมและชี้นำโดยโดนัลด์
ทรัมป์กับ MAGA Republicans
“MAGA Republicans” หมายถึงพวกรีพับลิกันที่สนับสนุนคำขวัญ
“Make America Great Again” ของทรัมป์ เป็นคำรวมๆ ที่ชี้ว่าเป็นพวกสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันและไบเดนใช้ในความหมายเชิงลบ
โจมตีคำขวัญดังกล่าวว่าแฝงด้วยแนวทางสุดโต่ง เป็นปรัชญา “กึ่งเผด็จการ” (semi-fascism) เล็งให้เข้าใจว่าไม่ใช่ความคิดของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เป็น “ปรัชญา” (philosophy) ที่ถูกสร้างขึ้นและถ่ายทอดอย่างกว้างขวาง ทำนองเดียวกับ White
Supremacy ที่มีมานานและถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดยเฉพาะในหมู่พวกรีพับลิกัน
กึ่งเผด็จการหรืออำนาจนิยม :
พวกที่จงรักภักดีต่อทรัมป์เป็นพวกนิยมความรุนแรง จงเกลียดจงชัง
สร้างความแตกแยก รวมความแล้วประธานาธิบดีไบเดนตีตราว่าเป็นพวกกึ่งเผด็จการ (semi-fascism) เป็นพวกสุดโต่ง (extremist)
ที่สังกัดพรรครีพับลิกันซึ่งอาจรวมถึง ส.ส. ส.ว. บางคนด้วย
พวกเขาส่งเสริมผู้นำอำนาจนิยม
(Authoritarian
leaders) โหมกระแสก่อความรุนแรงทางการเมือง คุกคามเสรีภาพ คุกคามกระบวนการยุติธรรม
หลักนิติธรรม จิตวิญญาณ (soul) ของประเทศ
เป็นพวกที่บุกเข้ารัฐสภาเมื่อ
6 มกราคม โจมตีกระบวนการทางกฎหมาย (ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม)
หวังล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 และพยายามชี้ว่านี่คือการกระทำของคนรักชาติ
ย้อนหลังเลือกตั้งปี 2020 ผลโพลหลายสำนักชี้ตรงกันว่าพวกรีพับลิกันราว 70% เห็นว่าไบเดนไม่ได้ชนะเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ทรัมป์ย้ำตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่าตนจะถูกโกงเลือกตั้ง
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาโกงอย่างเป็นระบบ ทรัมป์ยืนยันเรื่องนี้เรื่อยมาและจนบัดนี้ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
แม้คณะกรรมการเลือกตั้ง
ศาลหลายรัฐได้พิจารณาและสรุปแล้วว่าการเลือกตั้งมีจุดผิดพลาดบ้าง
แต่ไม่ใช่การโกงอย่างเป็นระบบ ไบเดนชนะเลือกตั้งตามกฎหมาย
ทุกวันนี้ทรัมป์กับ MAGA Republicans
ตอกย้ำการโกงเลือกตั้งดังกล่าวเสมอ
เป็นเหตุที่ไบเดนชี้ว่าคนพวกนี้ไม่เคารพประชาธิปไตยซึ่งหมายถึงกระบวนการเลือกตั้ง
การพิจารณาของศาล
ในขณะที่ฝ่ายทรัมป์ยกประเด็นนี้เพื่อกระตุ้นให้คนไปคูหาเลือกตนหวังชนะอย่างถล่มทลาย
ไบเดนกล่าวว่า
MAGA
Republicans ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อในหลักนิติธรรม ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
สนับสนุนพวกที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง เหล่านี้จะนำสู่ความโกลาหลวุ่นวาย บ่อนทำลายประชาธิปไตย
ประเทศถดถอย
ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่
FBI กำลังเป็นเหยื่อถูกจ้องทำร้ายจากผู้ร้าย มีการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง
ชุมนุมพร้อมกับก่อเหตุรุนแรง เหล่านี้ล้วนผิดกฎหมาย คนอเมริกันต้องร่วมใจพูดว่าเราไม่เป็นคนเช่นนี้
ไม่ปล่อยให้ความรุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติของสังคม
คนอเมริกันต้องไม่มองการเมืองเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ (total war – ทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง) ต้องไม่เลือกที่จะรักประเทศเพราะเหตุพวกตนชนะเลือกตั้งเท่านั้น
ประชาธิปไตยจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อยอมรับหลักนิติธรรม รัฐธรรมนูญที่ก่อให้เกิดรัฐสภา
อีกประเด็นที่ควรเอ่ยถึงคือยุครัฐบาลทรัมป์สนับสนุน
“ความจริงอีกแบบ” (alternative facts) หมายถึงข้อมูลหรือเรื่องราวที่ทรัมป์กับพวกเชื่อ
เช่น ไวรัสโควิด-19 มาจากห้องทดลองจีนตามทฤษฎีสมคบคิด เรื่องที่ผู้สนับสนุนทรัมป์คิดว่าพรรคเดโมแครทต้องการเปลี่ยนประเทศเป็นสังคมนิยม
ผลที่ตามมาคือเกิดค่านิยมสนับสนุน
“ความจริงอีกแบบ” ใครอยากเชื่ออะไรก็เชื่อไป
ไม่ต้องคำนึงเหตุผลความจริง ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นแบบอย่างเรื่องนี้
พูดจริงบ้างเท็จบ้างตลอดเวลา ยืนยันคำพูดตนแม้ถูกพิสูจน์ว่ากล่าวเท็จก็ตาม
ผู้สนับสนุนทรัมป์มักจะเชื่อคำพูดของเขาและกระจายความคิดแบบนั้นออกไป
นี่คือเหตุผลที่ไบเดนชี้ว่า MAGA Republicans หวังเปลี่ยนประเทศด้วยการพูดเท็จ
หว่านความหวาดกลัวและจงเกลียดจงชัง
ผลร้ายคือ
สังคมแบ่งแยกทางความคิดเพราะยึดถือ “ความจริง” ที่แตกต่างและไม่อาจบรรจบกันได้ นำสู่ความขัดแย้งแบ่งแยกไม่สิ้นสุด
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนเป็นตัวอย่างที่ดีแล้วแต่ใครจะเชื่อว่าเลือกตั้งโกงหรือไม่โกง
ไม่สนใจการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการเลือกตั้ง ศาล
เจมส์ แมตทิส (James
Mattis) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าทรัมป์คือประธานาธิบดีคนแรกที่ไม่พยายามรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว
พยายามสร้างความแตกแยก
ไบเดนกล่าวว่าประวัติศาสตร์สอนว่าถ้าเราจงรักภักดีต่อผู้นำแบบไม่ลืมหูลืมตา
ผู้นำที่นิยมความรุนแรงทางการเมือง แปลว่าประชาธิปไตยล้มเหลวไปแล้ว
ตรงข้ามกับเดโมแครทที่ส่งเสริมความเป็นเอกภาพ มีความหวังและมองโลกแง่บวก (unity,
hope and optimism)
การตอบโต้จากทรัมป์และเลือกตั้งกลางเทอม
:
ทรัมป์โต้กลับว่าในขณะที่ไบเดนกล่าวหาคนอื่น
คำปราศรัยของเขานั่นแหละที่ชี้ว่าประธานาธิบดีไบเดนโหยหาความรุนแรง (vicious)
จงเกลียดจงชัง สร้างความแตกแยก ตัวเขานั่นแหละที่เป็นศัตรูของชาติ
(enemy of the state)
ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร
ใครพูดจริงหรือเท็จ ความจริงคือยังมีผู้ที่สนับสนุนทรัมป์จำนวนมากและเหนียวแน่น
คนเหล่านี้หวังให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะทรัมป์ยังเป็นที่นิยมในพรรค
ส่วนคะแนนนิยมไบเดนตกต่ำ เป็นอีกประเด็นที่น่าติดตาม
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าประชาธิปไตยอเมริกาไม่เคยสมบูรณ์
ประชาชนมีความหลากหลาย ต่างความคิด แต่นี่แหละคือประชาธิปไตยที่เปิดประตูให้
หน้าที่ของรัฐบาลคือทำให้ประเทศเสรีและเป็นธรรม ยุติธรรมและเข้มแข็ง
ประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วยการพูด เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองและไปเลือกตั้ง
นี่คือหน้าที่ของทุกคนต่อการรักษาประชาธิปไตย แน่นอนว่าพวกเราจะไม่นิ่งเฉย
คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ยอมรับอุดมการณ์ของพวกเขา
พวกเราต้องร่วมกันต่อต้านพวกที่โจมตีประชาธิปไตย
เป็นเวลาที่คนอเมริกันต้องเลือกว่าจะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลังเข้าคลอง ต้องเลือกว่าจะร่วมกันสร้างชาติแห่งความหวัง
เป็นเอกภาพ มองโลกในแง่ดี หรือประเทศที่ปกคลุมด้วยความหวาดกลัว
การแบ่งแยกและอยู่ในอำนาจมืด
ถ้าต้องการปกป้องระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเลือกพรรคเดโมแครท
นี่คือประโยคบรรทัดสุดท้ายของไบเดน
สรุป :
แท้จริงแล้วแนวทางหาเสียงของไบเดนไม่ใช่ของใหม่
Robert
Boxwell ชี้ว่านับจากทรัมป์เริ่มรับตำแหน่งประธานาธิบดี พวกพรรคเดโมแครทเรียกประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็น
“เผด็จการ” (dictator) “กษัตริย์” (king) หรือไม่ก็ “ฟาสซิสต์” (fascist) คำเหล่านี้มีความหมายไม่แตกต่างกันในแง่
“ไม่เป็นประชาธิปไตย” เป็นศัตรูของประชาธิปไตย
สิ่งที่ไบเดนกำลังทำคือตอกย้ำการแบ่งแยกคนอเมริกันเป็น
2 ฝ่าย คือ ฝ่ายประชาธิปไตยกับพวกสุดโต่ง ใส่ความคิดว่าในการเลือกตั้งกลางเทอมพฤศจิกายนปีนี้
(เลือก ส.ส. กับ ส.ว. บางส่วน) เป็นเลือกระหว่าง “ประชาธิปไตย” กับ “ลัทธิสุดโต่ง”
พวกยึดหลักอำนาจนิยม
อีกประเด็นที่น่าคิดคือไบเดนชี้ว่าพวกสุดโต่งเป็นเพียงส่วนน้อยที่กำลังชี้นำพรรค
ควรเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ส.ว. รีพับลิกัน สมาชิกระดับต่างๆ ที่ต้องร่วมกันแก้ไขจัดการ
หาไม่แล้วอาจถูกเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของพวกสุดโต่งเหล่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง:
1. 61% say Trump doesn't respect democratic norms,
56% say 'honesty' doesn't describe him: AP-NORC poll. (2019,
November 1). The Japan Times. Retrieved from
https://www.japantimes.co.jp/news/2019/11/01/world/politics-diplomacy-world/61-say-trump-doesnt-respect-democratic-norms-56-say-honesty-doesnt-describe-ap-norc-poll/#.Xbt2m5IzbZ4
2. Biden slams ‘semi-fascism’ in GOP as he rallies
for Democrats. (2022, August 26). Al Jazeera. Retrieved from
https://www.aljazeera.com/news/2022/8/26/biden-asks-democrats-to-defeat-semi-fascism-in-midterm-election
3. Fact-checking Joe Biden’s speech about democracy
before the 2022 midterms. (2022, September 2). PoliticalFact. Retrieved
from
https://www.politifact.com/article/2022/sep/02/fact-checking-joe-bidens-speech-about-democracy-20/
4. James Mattis Denounces President Trump, Describes
Him as a Threat to the Constitution. (2020, June 3). The Atlantic.
Retrieved from
https://www.theatlantic.com/politics/archive/2020/06/james-mattis-denounces-trump-protests-militarization/612640/
5. President Biden Delivers Remarks on Democracy From
Philadelphia. (2022, September 1). C-SPAN. Retrieved from
https://www.c-span.org/video/?522563-1/president-biden-delivers-remarks-democracy-philadelphia
6. Trump Rips Biden's Speech As 'Vicious, Hateful,
And Divisive'. (2022, September 3). Huff Post. Retrieved from
https://www.huffpost.com/entry/donald-trump-vicious-divisive-biden-wilkes-barre-pennsylvania-rally_n_6313f3f9e4b0536be045e9d0
-----------------------