เกาะติดประเด็นร้อน “ความขัดแย้งในประเทศซีเรีย” (11)

สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 30 ส.ค. 10.25 น.) ประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าวว่ารัฐบาลได้สรุปแล้วว่าระบอบอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี แต่ตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะโจมตีซีเรีย ยังอยู่ระหว่างการหารือกับทีมที่ปรึกษา
            ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติไม่มีข้อมติอนุมัติการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย เนื่องจากรัสเซียใช้สิทธิยับยั้ง
            พรรคแรงงาน พรรคฝ่ายค้านของอังกฤษต้องการให้รัฐบาลแสดงหลักฐานที่มีน้ำหนักว่ารัฐบาลซีเรียผู้เป็นใช้อาวุธเคมีก่อนสนับสนุนรัฐบาลโจมตีซีเรีย
คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 30 ส.ค. 10.25 น.)
            ล่าสุด รัฐสภาอังกฤษไม่เห็นชอบที่รัฐบาลจะโจมตีซีเรีย นายกรัฐมนตรีคาเมรอนประกาศยกเลิกแผนร่วมโจมตี
            นาย Paul Flynn สมาชิกรัฐสภาพจากพรรคแรงงาน เห็นว่าการที่รัฐบาลโอบามาต้องการโจมตีซีเรียเป็นผลจากนโยบายเส้นต้องห้าม (red line) เชื่อว่าที่รัฐบาลอเมริกันกำลังทำคือต้องการรักษาหน้ามากกว่า

            ทำเนียบขาวพูดเป็นนัยว่าสหรัฐฯ อาจโจมตีซีเรียตามลำพัง หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษไม่สามารถโน้มนำให้รัฐสภาเห็นชอบต่อการโจมตี เพราะเห็นว่าสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์มากกว่าถ้าเลือกที่จะโจมตี
            คุณ Caitlin Hayden โฆษกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า “ท่านประธานาธิบดีเชื่อว่าการลงโทษต่อประเทศที่กระทำผิดกฎเกณฑ์เรื่องอาวุธเคมี เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สำคัญของสหรัฐฯ”  
            ด้านรัฐบาลฝรั่งเศสกลับเยอรมัน เรียกร้องให้เลื่อนปฏิบัติการทางทหาร จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติได้ทบทวนหลักฐานที่เก็บรวมรวมจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ

วิเคราะห์(อัพเดท 30 ส.ค. 10.25 น.)
            (เกาะติดประเด็นร้อนฉบับนี้จะมุ่งติดตามคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุด กับรายงานผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน)
            วิเคราะห์ประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ:
            ประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด ณ ขณะนี้คือ การที่รัฐบาลฝรั่งเศสกับเยอรมัน เรียกร้องให้เลื่อนปฏิบัติการทางทหาร จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติได้พิจารณาหลักฐานที่เก็บรวมรวมจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ
            ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าภารกิจดั้งเดิมของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวคือค้นหาความจริงว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียหรือไม่เท่านั้น ภารกิจไม่ครอบคลุมถึงการสรุปว่าใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้
            จากหลักฐานที่ปรากฏ เหตุการณ์ที่ชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม น่าจะเป็นการใช้อาวุธเคมี ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานต่อคณะมนตรีฯ อย่างมากได้แต่สรุปว่ามีการใช้อาวุธเคมีจริงในวันนั้น แต่จะไม่มีคำตอบว่าใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้

            ดังที่เคยวิเคราะห์ในบทก่อนๆ ว่าคำตอบที่สำคัญที่สุดคือ การตอบว่าใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี เพราะที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลอัสซาดกับฝ่ายต่อต้านต่างกล่าวหากันไปมา (รายละเอียดดูในบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้)
            สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะไม่มีข้อสรุปว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และกลายเป็นว่าขึ้นกับรัฐบาลของแต่ละประเทศว่าจะตัดสินใจอย่างไร
            รัฐบาลโอบามาจะยืนกรานจุดยืนเดิมหรือไม่ หรือกำลังหาทางลงจากหลังเสือ
            เช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศสกับเยอรมันที่กำลังทบทวนว่าควรโจมตีหรือไม่ กำลังคำนวณผลดีผลเสียอีกทั้ง โดยเฉพาะผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศ ที่เยอรมันกำลังจะมีการเลือกตั้ง ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสที่อ่อนแอยู่แล้วอาจพลาดพลั้งทางการเมืองหากตัดสินใจผิดพลาด

            ผลกระทบต่อตลาดทุน:
            (ข้อมูลส่วนนี้จะปรับตามเวลา เพื่อแสดงสถานะล่าสุด)
            วันนี้ (30 ส.ค.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วเอเชียเช้านี้ผันผวน ปรับตัวบวกลบไปมา หุ้นพลังงานเป็นตัวฉุดตลาด หลังจากที่รัฐสภาอังกฤษไม่เห็นที่รัฐบาลจะร่วมโจมตีซีเรีย
            ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX อ่อนตัวอย่างหนักจากข่าวอังกฤษ นักลงทุนคลายความวิตก เช้านี้อยู่ระหว่าง 107-108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

            Michael McCarthy หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการลงทุนจาก CMC Markets ชี้ว่า เมื่อสถานการณ์กลายเป็นว่าสหรัฐฯ อาจต้องโจมตีตามลำพัง ทำให้ความร้อนแรงลดน้อยลง อีกทั้ง “การโจมตีอาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้”
            นักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะขายออกไปก่อนส่วนหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยง โดยเฉพาะหากอุปทานน้ำมันล้นตลาด
            อนึ่ง การวิเคราะห์นี้มุ่งอธิบายสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุน

            สรุป การที่อังกฤษไม่เข้าร่วมยุทธการ ไม่มีผลต่อปฏิบัติการแต่อย่างไร เพราะกองทัพสหรัฐฯ ไม่จำต้องพึ่งพากองกำลังของอังกฤษ สหรัฐฯ สามารถดำเนินยุทธการได้ด้วยตนเองเพียงประเทศเดียว
            ส่วนในทางการเมืองระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลโอบามาตระหนักตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะต้องเผชิญการต่อต้านโดยเฉพาะจากรัสเซียกับจีน จึงเตรียมใจพร้อมที่จะลงมือแม้ว่าหลายประเทศจะไม่เห็นด้วย ตั้งแต่ต้นก็ตั้งใจจะลงมือโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
            ดังนั้น ณ วันนี้จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าสหรัฐฯ จะโจมตีหรือไม่โจมตีซีเรีย ยังต้องรอสัญญาณต่อไป
            ต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
30 สิงหาคม 2013
ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
(อัพเดท 23 ส.ค. 20.50 น.) ข่าวการใช้อาวุธเคมีล่าสุดในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ทำให้หลายประเทศเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบ ในขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะไม่แทรกแซงซีเรียด้วยกำลังทหาร
(อัพเดท 26 ส.ค. 6.30 น.) สถานการณ์ซีเรียร้อนแรงต่อเนื่อง รัฐบาลอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศสปักใจเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้ใช้อาวุธเคมี สามมหาอำนาจกำลังหาร่วมให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เรือรบสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สหประชาชาติจะเข้าตรวจสอบอาวุธเคมีในวันจันทร์นี้ ภายหลังที่รัฐบาลซีเรียยอมเข้าตรวจสอบจุดต้องสงสัย ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสถานการณ์มาถึงจุดที่สายเกินแก้แล้ว
ราวหนึ่งปีหลังจากที่กล่าวหากันไปมาในที่สุดสหประชาชาติส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย แต่ต้องเข้าใจว่าเป้าหมายของการตรวจสอบคือเพื่อพิสูจน์ว่ามีการใช้หรือไม่เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงเรื่องใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้ ที่ผ่านมาอังกฤษกับฝรั่งเศสแสดงท่าทีขึงขังเรียกร้องการแทรกแซงทางการทหาร แต่นั่นหมายถึงต้องมีสหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่ที่ลังเลใจเรื่อยมา
(อัพเดท 27 ส.ค. 20.00 น.) นานาชาติพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับการใช้อาวุธเคมีที่ชานกรุงดามัสกัส เจ้าหน้าที่สหประชาชาติกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศสเชื่อว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด และกำลังพิจารณาใช้กำลังทหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
(อัพเดท 28 ส.ค. 17.30 น.) กระแสข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศล้วนชี้ว่าอเมริกากำลังเตรียมการโจมตี ล่าสุดทางการรัสเซียเริ่มอพยพคนของตนออกจากซีเรีย การวิเคราะห์ผลยุทธการต่อตลาดทุน ราคาน้ำมัน ควรแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงก่อนโจมตี ช่วงระหว่างโจมตี และช่วงหลังโจมตี
(อัพเดท 29 ส.ค. 18.30 น.) ณ วันนี้ยังมีโอกาสที่สหรัฐฯ จะโจมตีหรือไม่โจมตีซีเรียก็ได้ ตลาดเงินตลาดทุนกำลังรอดูสัญญาณ เพื่อทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ การถอนตัวของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติกับการประกาศพร้อมโจมตีของกองทัพฝรั่งเศสคือสัญญาณล่าสุด

บรรณานุกรม:
1. U.K. under pressure to produce Syria evidence, USA Today, 29 August 2013, http://www.usatoday.com/story/news/world/2013/08/29/syria-united-kingdom-debate/2725999/
2.Britain’s Rejection of Syrian Response Reflects Fear of Rushing to Act, The New York Times, 30 August 2013, http://www.nytimes.com/2013/08/30/world/middleeast/syria.html?_r=0
3. U.S. willing to act alone on Syria attack, Los Angeles Times, 30 August 2013, http://www.latimes.com/world/middleeast/la-fg-us-syria-intel-20130830,0,1708580.story
4. WTI Declines a Second Day as U.K Lawmakers Reject Syrian Action, Bloomberg, 29 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-30/wti-declines-a-second-day-as-u-k-lawmakers-reject-syrian-action.html
5. “Asia Stocks Swing From Loss to Gain; Energy Shares Fall”, Bloomberg, 30 August 2013, http://www.bloomberg.com/news/2013-08-30/asia-shares-rise-as-japan-u-s-data-boost-global-growth-outlook.html
----------