ชัยชนะของสหรัฐฯในการปิดล้อมจีนทางทะเล

ในที่ประชุม East Asia Summit (EAS) กับ Asean Regional Forum (ARF) เมื่อวานได้ถกในหลายประเด็น แต่เรื่องสำคัญคือข้อพิพาทหมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ (Scarborough shoal) ที่กว่า 6 ประเทศอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะดังกล่าว อันได้แก่จีน ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซียกับบรูไน
ข้อพิพาทนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่กลายเป็นประเด็นทุกครั้งเมื่อประเทศใดประเทศหนึ่งทำการบางอย่างเพื่ออ้างสิทธิ เช่น ส่งเรือประมงไปจับปลาแล้วพูดว่าจับปลาในดินแดนของตน ส่งเรือรบไปลาดตระเวรเพื่อคุ้มครองพื้นที่ของตน ฯลฯ
แม้จีนจะพยายามขอเจรจาแบบทวิภาคีกับคู่กรณีแต่ละประเทศ และพยายามเรียกร้องห้ามประเทศอื่นที่ไม่ได้อ้างสิทธิเหนือพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหลายประเทศในอาเซียนได้ใช้เวทีที่ประชุมด้านความมั่นคงเพื่อพูดคุยเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด เข้าหลัก คนตัวเล็กหลายคนรวมกันเพื่อสู้คนตัวโต
ล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ นางฮิลลารี คลินตันได้เข้าร่วมประชุมและแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “สหรัฐฯไม่ได้อ้างสิทธิเหนือดินแดนดังกล่าวและไม่ต้องการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในเรื่องข้อพิพาททางดินแดนหรือเขตแดนทางทะเล” และกล่าวอีกว่า “แต่เรามีผลประโยชน์เรื่องการเดินเรืออย่างเสรี การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ การเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และขีดขวางการค้าอย่างผิดกฎหมายในทะเลจีนใต้”
แม้สหรัฐฯไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านจีนโดยตรง แต่การเข้ามาร่วมประชุม การแสดงบทบาท จุดยืน สามารถบ่งบอกได้ว่าสหรัฐฯไม่ฟังข้อเรียกร้องของจีนที่ไม่ต้องการให้ประเทศที่ไม่ได้อ้างสิทธิเข้ามายุ่งเกี่ยว พร้อมกับเตือนว่าสหรัฐฯจะไม่ยืนดูอยู่เฉยๆ หากข้อพิพาทสการ์โบโรห์กระทบต่อการเดินเรือ กระทบต่อความมั่นคงในแถบนี้
เป็นอีกครั้งที่หลายประเทศในอาเซียนดึงมหาอำนาจสหรัฐฯเข้ามาเกี่ยวข้องกับประเด็นความมั่นคงของตน เพราะ เมื่อคนตัวเล็กหลายคนสู้คนตัวโตไม่ไหว ก็ต้องหาคนตัวโตพอกันมาเป็นพวก
งานนี้จีนพยายามไม่พูดเรื่องข้อพิพาทสการ์โบโรห์ในที่ประชุม ถือว่าเป็นการยืนยันจุดยืนวิธีการเจรจาของตน แต่คงตระหนักแล้วว่าในยามนี้จีนถูกปิดล้อมทางทะเลไล่มาตั้งแต่เหนือลงล่างคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ลงมาถึงกลุ่มชาติอาเซียน
ฝ่ายที่ยิ้มได้มากที่สุดคือสหรัฐฯ คือรัฐบาลโอบามาที่มีนโยบายชัดเรื่องหวนคืนเอเชีย การเสริมสร้างกำลังทหารในภูมิภาคนี้ และนโยบายถือจีนเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งที่ดำเนินมาหลายปีแล้ว
13 กรกฎาคม 2012
ชาญชัย คุ้มปัญญา
-----------------