เกาะติดประเด็นร้อน “ความขัดแย้งในประเทศซีเรีย” (2)

สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 30 พ.ค. 17.40 น.)
            หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรเรื่องการขายหรือส่งมอบอาวุธแก่ฝ่ายต่อต้านเมื่อวันที่ 27 พ.ค. วันต่อมารัฐบาลรัสเซียก็ออกมาประกาศว่าอาจขายขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 ที่มีสมรรถนะสูงแก่รัฐบาลซีเรีย มาวันนี้ประธานาธิบดีบาร์ชา อัล อัสซาดกล่าวว่าได้รับอาวุธชุดแรกแล้ว
คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 30 พ.ค. 17.40 น.)
          เทปการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีบาร์ชา อัล อัสซาดที่ออกอากาศวันนี้ (30) ผู้นำประเทศซีเรียกล่าวว่าซีเรียได้รับขีปนาวุธ S-300 ชุดแรกแล้ว และจะได้รับที่เหลือในไม่ช้า
(Assad vows response to Israeli attack, Al Jazeera, 30 May 2013)
            Moshe Ya’alon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ยอมรับว่าอาวุธดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ
(Assad says Syria received first S-300 shipment from Russia, The Jerusalem Post, 30 May 2013)
            ผู้เชี่ยวชาญทางทหารชี้ว่าซีเรียต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถใช้ขีปนาวุธ S-300 เมื่อขีปนาวุธเข้าประจำการพร้อมด้วยระบบเรดาห์ทันสมัย ขีปนาวุธจะมีระยะยิงครอบคลุม 200 กิโลเมตร เป็นภัยคุกคามต่อกองทัพอากาศอิสราเอล
(‘Time needed for Syria to master the S-300’ The Jerusalem Post, 19 May 2013)

วิเคราะห์: (อัพเดท 30 พ.ค. 17.40 น.)
          สองสามวันก่อนเกิดการตอบโต้ระหว่างสหภาพยุโรปกับรัสเซียที่ต่างจะเสริมเขี้ยวเล็บทันสมัยแก่ฝ่ายของตน อังกฤษกับฝรั่งเศสเป็นสองประเทศในอียูที่เตรียมขายอาวุธ ทันสมัย แก่ฝ่ายต่อต้าน รัสเซียตอบโต้ด้วยการประกาศว่าไม่ยกเลิกแผนขายขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 แก่รัฐบาลซีเรีย
            มาวันนี้ประธานาธิบดีบาร์ชาร อัล อัสซาดแห่งซีเรียออกมาประกาศว่าได้รับขีปนาวุธ S-300 ชุดแรกแล้ว
            ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเปรียบเทียบขีปนาวุธ S-300 กับขีปนาวุธแพทริออตของอเมริกา บางคนถึงกับอ้างว่าเหนือกว่าแพทริออตหลายด้าน สามารถยิงต่อต้านทั้งเครื่องบินและขีปนาวุธ มีเพียงเครื่องบินรบ F-22 ที่มีขีดความสามารถรอดพ้นการถูกยิง ส่วนเครื่องบินรบรุ่น F-15, F-16, F-18, F-35 ยากจะรอดพ้นถูกโจมตี ปัจจุบันอิสราเอลกับซาอุดิอาระเบียยังไม่มีเครื่องบิน F-22 อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ ได้ประจำการเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจำนวนหนึ่งในตะวันออกกลาง
            ดังที่วิเคราะห์ว่า ขีปนาวุธ S-300 ไม่ช่วยให้ฝ่ายรัฐบาลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการต่อกรกับฝ่ายต่อต้าน เพราะฝ่ายต่อต้านไม่มีเครื่องบินรบ แต่หากรัฐบาลซีเรียมีขีปนาวุธ S-300 จะส่งผลกระทบสำคัญต่อแผนการจัดตั้งเขตห้ามบิน (No-fly-zone) ที่ฝ่ายต่อต่อต้านกับประเทศเพื่อนบ้านซีเรียหลายประเทศเรียกร้องมาตลอด อีกทั้งทำให้อากาศยานทั้งเครื่องบินรบ เครื่องบินพลเรือนในย่านนั้นตกเป็นเป้าทันที เพราะขีปนาวุธดังกล่าวสามารถยิงอากาศยานที่ไกลออกไปถึง 100 กิโลเมตร สูงสุดที่ระดับ 100,000 ฟุต (ขึ้นกับรุ่นด้วย)
            อีกเหตุผลหนึ่งคือจะกระทบต่อการโจมตีทางอากาศจากประเทศอื่นๆ เช่น กรณีเครื่องบินรบอิสราเอลโจมตีฐานที่มั่น โจมตีรถลำเลียงของซีเรียที่ฝ่ายอิสราเอลอ้างว่ากำลังส่งมอบอาวุธแก่ฮิซบุลลอฮ์ ไม่ว่าอิสราเอลจะอ้างอย่างไรนั่นเป็นการโจมตีในดินแดนอธิปไตยของซีเรีย ผลกระทบอีกกรณีหนึ่งคือรัฐบาลโอบามาประกาศว่าจะไม่ยอมให้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียตกอยู่ในมือของพวกผู้ก่อการร้าย คำกล่าวดังกล่าวมีความเป็นไปได้ว่าอาจชิงโจมตีคลังอาวุธเหล่านั้น ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าสหรัฐฯ ได้ส่งหน่วยรบพิเศษมาประจำที่ตุรกี ปฏิบัติการจู่โจมจากสหรัฐฯ หรืออิสราเอลจะมีความเสี่ยงมากขึ้น
            ดังนั้น ขีปนาวุธ S-300 จึงไม่ส่งผลโดยตรงต่อการรบกับฝ่ายต่อต้าน แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่คิดจะใช้กำลังอากาศกับซีเรีย
            ประเด็นข้อสงสัยคือ ขีปนาวุธชุดแรกที่ได้รับนั้น เป็นเพียงบางส่วนหรือเป็นอุปกรณ์ครบชุดสามารถประจำการได้ทันที ระบบของขีปนาวุธ S-300 เป็นระบบขนาดใหญ่มีทั้งส่วนแท่นยิงจรวด ระบบเรดาห์หลายตัวที่แยกออกจากกัน หากซีเรียได้ไม่ครบชุดย่อมหมายความว่ายังไม่สามารถใช้อาวุธดังกล่าว
            การส่งมอบอาวุธบางส่วนก่อน อาจเป็นการส่งสัญญาณเตือนแบบแรงๆ จากรัสเซียถึงชาติตะวันที่หวังเสริมเขี้ยวเล็บฝ่ายต่อต้าน
            เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะท่าทีจากชาติตะวันตก อิสราเอล
            ประเด็นขีปนาวุธ S-300 กลายเป็นประเด็นระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกและอิสราเอล
30 พฤษภาคม 2013

ชาญชัย คุ้มปัญญา
----------------------
บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง:
เขตปลอดภัยกับเขตห้ามบินมีความหมายแตกต่างกัน บทวิเคราะห์นี้จะอธิบาย คำสองคำดังกล่าวพร้อมวิเคราะห์ความแตกต่าง ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
(อัพเดท 29 พ.ค. 8.30 น.) อียูอนุมัติให้ชาติสมาชิกสามารถขายอาวุธทันสมัยแก่ฝ่ายต่อต้าน รัฐบาลรัสเซียจึงออกมาตอบโต้ด้วยการประกาศว่าไม่ได้ระงับแผนขายขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 แก่ทางการซีเรีย ขีปนาวุธ S-300 จึงไม่ส่งผลโดยตรงต่อการรบกับฝ่ายต่อต้าน แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่คิดจะใช้กำลังอากาศกับซีเรีย
--------------------