เบร็กซิท (Brexit) ความไม่แน่นอนที่แน่นอน

การลงมติรอบนี้ลงเอยด้วยสภาไม่รับรองร่างข้อตกลงแยกตัวฉบับล่าสุด พร้อมกับมติขยายเวลาออกจากอียู แม้น่าจะได้เวลาเพิ่มแต่คำถามที่เป็นปัญหายังรอคำตอบ พร้อมกับความไม่แน่นอนหลังออกจากอียู
            นับจากการทำประชามติเบร็กซิท (Brexit) เมื่อมิถุนายน 2016 สังคมสหราชอาณาจักรยังถกเถียงว่าประเทศควรถอนตัวออกจากอียูหรือไม่ ทั้งๆ ได้ประชามติให้ถอนตัวแล้ว อีกประเด็นที่ถกเถียงกันมากคือจะถอนตัวแบบไหน แบบมีข้อตกลงหรือไร้ข้อตกลง (no deal) ตามกำหนดการต้องได้คำตอบภายใน 29 มีนาคมนี้
            ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎรประชุม 3 วัน 3 รอบเพื่อลงมติ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือการยอมรับร่างข้อตกลงแยกตัว (Withdrawal Agreement) ฉบับที่อียูเห็นชอบแล้ว เรื่องที่ 2 ขอมติการถอนตัวออกโดยปราศจากข้อตกลง และเรื่องสุดท้ายคือควรขยายเวลาการถอนตัวออกไปหรือไม่
ไม่กี่วันก่อนลงมตินายกฯ เทเรซา เมย์ (Theresa May) หารือกับอียูเพื่อได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด และชี้แจงว่าเป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดในขณะนี้ แต่ก่อนเริ่มลงมติมีกระแสข่าวว่าสภาผู้แทนฯ จะล้มร่างข้อตกลง ผลออกมาตามคาดสภาคัดค้านร่างข้อตกลงเบร็กซิทของรัฐบาลเมย์อีกรอบ ด้วยคะแนนคัดค้าน 391 ต่อ 242
ขั้นต่อมาคือลงมติว่าจะต้องออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ผลออกมาคือไม่เห็นด้วยแบบเฉียดฉิว ด้วยคะแนน 312 ต่อ 308 ค่าเงินปอนด์รับข่าวดีดังกล่าวแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน นักธุรกิจหลายคนยินดีกับข่าวนี้ ตรงตามที่นายกฯ เมย์ย้ำว่าอยากให้ประเทศออกจากอียูอย่างเป็นระบบระเบียบตามข้อตกลง
            นำสู่การลงมติเรื่องที่ 3 คือ ควรยืดการเจรจาเบร็กซิทออกไปหรือไม่ (article 50 extension) ผลปรากฏว่าได้รับเสียงรับรองท่วมท้น ด้วยคะแนน 413 ต่อ 202
            เป็นอันจบรอบลงมติเบร็กซิทในสภารอบ 2 ลงเอยว่าไม่รับร่างข้อตกลงการถอนตัวของรัฐบาลเมย์ พร้อมกับเสนอให้ยืดขยายเวลาออกไป

ควรยืดการเจรจาออกไปอีกระยะ :
            ก่อนการลงมติรอบนี้ บางคนเห็นว่าควรลงมติยืดการเจรจาเบร็กซิทออกยาวๆ ถึง 1 ปี เพื่อสังคมจะมีเวลาหารือมากขึ้น บางคนเสนอให้ทำประชามติใหม่อีกรอบ
ก่อนการประชุมสภาเพื่อตัดสินใจเบร็กซิท Antonio Tajani ประธานสภาสหภาพยุโรปแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยหากสหราชอาณาจักรจะถอนตัวออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลง เพราะจะเกิดความโกลาหลวุ่นวาย น่าจะเลื่อนกำหนดเส้นตายวันถอนตัวจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม
ไม่กี่วันต่อมานางอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่าผู้นำอียูน่าจะเห็นด้วยหากสหราชอาณาจักรจะขอยืดเบร็กซิทออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน  มีกระแสข่าวว่าฝ่ายบริษัทเอกชนเห็นด้วยกับแนวทางนี้และควรยืดเวลามากพอ
จะเห็นว่าท่าทีของนายกฯ แมร์เคิลสอดคล้องกับท่าทีของ Antonio Tajani ดังนั้นโอกาสที่อียูจะยอมขยายเวลาน่าจะมีไม่น้อย เหลือแต่ประเด็นว่าจะยืดกี่เดือนกี่ปีเท่านั้น
ไอร์แลนด์เหนือ คำถามที่รอคำตอบ :
            แม้จะผ่านการเจรจาเป็นปีมีประเด็นหนึ่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือข้อตกลงพรมแดนระหว่าง ไอร์แลนด์เหนือ (ส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร) กับ ประเทศไอร์แลนด์” (ที่เป็นสมาชิกอียู)
            ปัจจุบันคน 2 ประเทศเดินทางข้ามไปข้ามมาเป็นประจำเพื่อการทำงาน ขนส่งสินค้า ทุกอย่างกระทำโดยเสรีเนื่องจากเป็นตลาดเดียวภายใต้อียู รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในหมู่ประเทศอียูด้วย
            จุดยืนของชาวไอร์แลนด์เหนือคือต้องการให้เป็นเช่นนี้ต่อไป
            เช่นเดียวกับฝ่ายอียูที่ต้องการให้เปิดพรมแดน ให้ไอร์แลนด์เหนือยึดกฎระเบียบอียูต่อแม้สหราชอาณาจักรจะถอนตัวออกจากอียู ส่วนนี้เรียกว่า "backstop plan" ของอียู
อียูให้เหตุผลว่าเป็นระบบที่ช่วยสลายความขัดแย้งในไอร์แลนด์ที่ได้ผลมาหลายทศวรรษแล้ว หากข้อตกลงสุดท้ายคือกำหนดพรมแดนแบบเข้มงวด (hard border) มีการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจศุลกากร อาจผลักดันให้ไอร์แลนด์เหนือประกาศเอกราช
นักการเมือง พลเมืองไอร์แลนด์เหนือปฏิเสธการกำหนดพรมแดนแบบเข้มงวด เพราะกระทบต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจอย่างร้ายแรง
ด้านนายกฯ เมย์เห็นว่าแผนดังกล่าวจะเป็นการแบ่งแยกประเทศสหราชอาณาจักรออกจากกัน
            บรรดาผู้สนับสนุนการแยกตัวไม่เห็นด้วยกับ "backstop plan" เช่นกัน ชี้ว่าเท่ากับยังอยู่ในระบบศุลกากรอียูต่อไป ซึ่งเท่ากับสหราชอาณาจักรยังอยู่ในตลาดเดียวกับอียูต่อไปนั่นเอง
            รัฐบาลเมย์พยายามเสนอทางเลือกอื่นๆ แทน "backstop plan" แต่จนบัดนี้ยังตกลงกันไม่ได้
เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่การยืดขยายเวลามีความจำเป็น
อนาคตที่ไม่แน่นอน :
            สิ่งที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรต้องการคือเวลาเพื่อต่อเวลาเจรจากับอียูให้ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด อย่างน้อยสามารถตอบพลเมือง สามารถตอบประชาชนผู้สนับสนุน (ทั้ง 2 ฝ่าย) ว่าทำไมจึงพาประเทศออกจากอียูด้วยข้อตกลงเหล่านั้น เป็นโอกาสให้ฝ่ายธุรกิจ ประชาชนต่างๆ ได้เตรียมพร้อมเพิ่มอีกหน่อย แม้ก่อนแบร็กซิทหลายฝ่ายได้นำเสนอคาดการณ์ว่าหลังพ้นสมาชิกภาพอียูจะเป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บางคนเห็นว่าอาจเป็นความ “เปลี่ยนแปลง” ครั้งใหญ่ของประเทศอย่างไม่มีใครคิดถึงเลย เป็นการเปลี่ยนแปลงทุกด้านไม่ว่าจะการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม แบบถึงรากถึงโคน ดังนั้น ทุกคนควรเร่งเรียนรู้การปฏิบัติตัวหลังพ้นสมาชิกภาพ ไม่ว่าท้ายที่สุดจะออกจากอียูโดยมีข้อตกลงหรือไร้ข้อตกลง
ดังที่นายกฯ เมย์เตือนว่าลำพัง การลงมติต้านการออกโดยไร้ข้อตกลงและลงมติให้ยืดขยายเวลาออกไปไม่ช่วยแก้ปัญหาการยืดเวลาออกไปอีกระยะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เป็นการยืดการตัดสินใจออกไปเท่านั้น ท้ายที่สุดก็ยังต้องกลับมาพูดเรื่องเดิม
            ที่ควรตระหนักคือ การยืดเวลาออกไปมีที่สิ้นสุดแน่นอน บัดนี้ใกล้ 3 ปีแล้วนับจากวันที่ลงประชามติเบร็กซิท

ทุกประเทศล้วนมีอธิปไตยของตัวเอง :
            ในมุมมองที่กว้างขึ้น สหราชอาณาจักรลงมติแยกตัวออกจากอียูด้วยหลายเหตุผล หนึ่งในนั้นคือเพื่อรักษาอธิปไตยของตัวเอง ไม่ต้องเดินตามนโยบายอียูที่หลายคนไม่ชอบ เช่น นโยบายเปิดรับผู้อพยพลี้ภัยต่างชาติ
            อันที่จริงแล้ว การเข้าร่วมสมาชิกกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะองค์การค้าโลก สหประชาชาติ หรือองค์กรพหุภาคีอื่นๆ มักจะต้องสูญเสียอธิปไตยบางส่วน ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ไม่เห็นด้วยบางข้อ กระทั่งต้องยอมเสียผลประโยชน์บางส่วนเพื่อได้ประโยชน์อื่นที่ต้องการ
            เมื่อสหราชอาณาจักรรู้จักรักษาผลประโยชน์ตัวเอง ทำไมอียูและสมาชิกอียูจะไม่เป็นเช่นนั้นบ้าง
            ฝ่ายสหราชอาณาจักรจะพยายามเจรจาให้ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด แต่โอกาสที่จะได้น้อย เนื่องจากเป็นการเจรจากับ “กลุ่ม” สมาชิกในกลุ่มมีความต้องการหลากหลาย มีจุดยืนของตัวเอง ดังนั้น ยากที่สหราชอาณาจักรจะได้ “สิ่งที่ต้องการ” ที่น่าจะได้คือสิ่งที่อียูพร้อมจะให้ในฐานะองค์กร ดังนั้น เทคนิคยืดเวลาเจรจาไม่น่าจะได้ผลเท่าไหร่
ทำนองเดียวกับที่คนในสหราชอาณาจักรมีผลประโยชน์แตกต่างหลากหลายเช่นกัน กรณีไอร์แลนด์เหนือคือตัวอย่างที่เห็นชัด
17 มีนาคม 2109
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ สถานการณ์โลกไทยโพสต์ ปีที่ 23 ฉบับที่ 8162 วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2562)
----------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
เมื่อสังคมคิดต่างจึงตัดสินด้วยการทำประชามติ แต่กลับไม่นำผลประชามติไปใช้ กลายเป็นความขัดแย้งหลายระดับ และกำลังค้างอยู่เช่นนี้ จนกว่าได้ทางออกที่ลงตัว
บรรณานุกรม :
1. เบร็กซิท: พรมแดนไอร์แลนด์เหนือกับประเทศไอร์แลนด์สำคัญอย่างไร? (2018, กันยายน 20). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/uk-politics-47547887
2. Angela Merkel 'said it would be easy to get EU to extend article 50'. (2019, March 13). The Guardian. Retrieved from https://www.theguardian.com/politics/2019/mar/13/angela-merkel-said-it-would-be-easy-to-get-eu-to-extend-article-50
3. Brexit: May urges EU to agree backstop changes. (2019, March 8). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/uk-politics-47487320
4. Brexit: MPs reject Theresa May's deal for a second time. (2019, March 12). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/uk-politics-47547887
5. Brexit: MPs vote to reject no-deal Brexit. (2019, March 14). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/uk-politics-47562995
6. Crunch Brexit votes are coming that could trigger yet more political chaos. (2019, March 8). CNBC. Retrieved from https://www.cnbc.com/2019/03/08/brexit-votes-are-coming-that-could-bring-a-deal-no-deal-or-delay.html
7. EU's Tajani says Brexit date can be delayed few weeks at most: report. (2019, March 9). Reuters. Retrieved from https://www.reuters.com/article/us-britain-eu-tajani/eus-tajani-says-brexit-date-can-be-delayed-few-weeks-at-most-report-idUSKBN1QQ005
8. Pound jumps to nine-month high. (2019, March 14). BBC. Retrieved from https://www.bbc.com/news/business-47563724
9. Rogers, Ivan. (2019). 9 Lessons in Brexit. London: Short Books.
10. What Brexit game is EU playing? British parliament leader Leadsom asks. (2019, March 9). Reuters. Retrieved from https://www.reuters.com/article/uk-britain-eu-leadsom/what-brexit-game-is-eu-playing-british-parliament-leader-leadsom-asks-idUSKBN1QQ085
-----------------------------