โครงการนิวเคลียร์อิหร่านกับสหรัฐ 2025 (3)
ในมุมอิสราเอล เป้าหมายสุดท้ายต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้ ถ้าอยากจะเข้าใจการเจรจา ต้องเข้าใจเป้าหมายของกันและกัน
ต่อมาสหรัฐเปลี่ยนเงื่อนไขยอมให้เสริมสมรถนะนิวเคลียร์เพียงเล็กน้อย
ซึ่งทางอิหร่านปฏิเสธ เนื่องจากการเสริมสมรถนะของตนกระทำภายใต้กรอบ IAEA ที่นานาชาติสามารถทำและเก็บใช้เพื่อประโยชน์ทางสันติ แต่เงื่อนไขของรัฐบาลสหรัฐเกินว่ามาตรฐานสหประชาชาติ
หากยอมรับเงื่อนไขเท่ากับอิหร่านต้องขออนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ เท่ากับสูญเสียอธิปไตย
แต่รัฐบาลทรัมป์ไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว
น่าสงสัยว่าทำไมไม่ยอมรับ
ความจริงแล้วสหประชาชาติมีกลไก IAEA กำกับให้นานาชาติมีโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ เพียงแค่ดำเนินตามข้อตกลงแก้ไขปัญหาโครงการนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์
(Joint Comprehensive Plan of Action: JCPOA) ที่ลงนามเมื่อปี
2015 นานาชาติก็มั่นใจได้ว่าอิหร่านไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ลบข้อกังวลของสหรัฐกับอิสราเอล
แปลกแต่จริงที่รัฐบาลทรัมป์กับอิสราเอลไม่ยอมรับการทำงานของ IAEA ไม่ยอมรับข้อตกลงนี้ที่ลงนามแล้วในสมัยโอบามา ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด
สุ่มเสี่ยงทำสงคราม
รัฐบาลสหรัฐกับอิสราเอลต้องการทำสงครามกับอิหร่านใช่หรือไม่
การเจรจาที่นำสู่วิกฤต:
ในสงครามฮามาส-อิสราเอลมีการปะทะโดยตรงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล
ต่างยิงอาวุธใส่แผ่นดินของอีกฝ่าย แม้ปะทะเพียงหอมปากหอมคอ
ระวังไม่ให้สงครามบานปลาย แต่ได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ปะทะโดยตรง
นักวิเคราะห์เฝ้าระวังและตั้งคำถามว่าในที่สุดจะกลายเป็นสงครามใหญ่ กระทั่งเป็นสงครามล้างโลกดังที่นักวิชาการเอ่ยถึงหรือไม่
ทรัมป์เคยคิดใช้กำลังทหารกับอิหร่าน:
ทรัมป์
2.0 ขอเปิดเจรจารอบใหม่พร้อมกับขู่ว่าความตึงเครียดอาจนำสู่สงคราม
เป็นหัวข้อที่ต้องวิเคราะห์และน่าติดตามมากที่สุด
เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่ารัฐบาลประชาธิปไตยทรัมป์
2.0 มาพร้อมกับการข่มขู่สารพัดถึงขั้นขู่ใช้กำลังทหาร
ประกาศยึดคลองปานามาเป็นของสหรัฐ
จนบริษัท CK Hutchison Holding ของจีนประกาศขายหุ้นท่าเรือของตนในปานามาแก่บริษัทสัญชาติอเมริกัน
ข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้าเดนมาร์กอย่างหนักหากไม่ยอมขายกรีนแลนด์ให้ตน
และอาจใช้มาตรการทางทหารถ้าจำเป็น ย้ำประเทศแคนาดาต้องสิ้นชาติเพื่อความรุ่งโรจน์แห่งยุคทองอเมริกา
ย้อนหลังพฤษภาคม
2019 ทรัมป์ 1.0 เคยสั่งเคลื่อนกองเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องรบ B-52,
F-35, F-15 เตรียมพร้อมระบบต่อต้านขีปนาวุธ และกำลังพลจำนวนหนึ่งเข้าใกล้อ่าวเปอร์เซียเพื่อโจมตีอิหร่าน
แต่ในที่สุดทรัมป์สั่งระงับการโจมตี
อ้างว่ากลัวประชาชนบาดเจ็บล้มตาย
จะเห็นว่าการเจรจารอบปี 2025 อาจไม่หวังสงบสันติ
แต่เป็นวิธีการนำสู่สงคราม เป็นวิธีรุกรานประเทศอื่น
อิหร่านไม่มีเส้นต้องห้าม:
วิเคราะห์:
คำพูดของรัฐมนตรี Araghchi ฟังดูย้อนแย้ง
เพราะผู้นำสูงสุดย้ำเสมอว่าอิหร่านไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกับอิสราเอล
ต้องถูกลบออกจากแผนที่โลก ขอยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ชาวปาเลสไตน์ สนับสนุนให้ฮามาส
ฮิซบอลเลาะห์สู้กับอิสราเอลจนกว่าปลดปล่อยปาเลสไตน์ กรุงเยรูซาเล็ม มัสยิดอัล-อักซอร์
(Al-Aqsa Mosque) แต่เมื่อบรรยากาศเข้มข้นกับพูดว่า “ไม่ต้องการสงคราม
เราต้องการสันติภาพ” ลึกๆ แล้วอิหร่านพร้อมรบใช่หรือไม่
มีนาคม
2025 ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด Abbas Araghchi
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านพร้อมรบทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครกล้ารบด้วย
ประเทศใดที่คิดสู้กับอิหร่านจะคิดทบทวนอีกครั้งถึงการตอบโต้
ทั้งจากกองทัพจนถึงประชาชนอิหร่าน
ศัตรูที่อยู่ร่วมโลกไม่ได้:
ความบาดหมางระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลเป็นเรื่องที่นานาชาติรับรู้กันทั่วไป
เป็นศัตรูที่อยู่ร่วมโลกไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากมุมมองศาสนา
การทำลายล้างอิสราเอล
ลบประเทศนี้ออกจากแผนที่โลกเป็นคำพูดที่ออกจากอิหร่านเป็นระยะ เช่น สมัยมาห์มุด
อาห์มาดิเนจาด (Mahmoud Ahmadinejad) ประธานาธิบดีอิหร่านเคยกล่าวว่า
“ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ระบอบไซออนิสต์จะต้องถูกทำลายราบในที่สุด”
ด้านนายกฯ
เนทันยาฮูกล่าวว่าการรุกรานของฮามาสเมื่อตุลาคม 2023
ทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นทันที วันต่อมาฮิซบอลเลาะห์ฉวยโอกาสโจมตีจากเลบานอน
ถึงวันนี้พวกเขายิงจรวดนานาชนิดใส่เรา พ่วงด้วยพวกฮูตีในเยเมน
กองกำลังชีอะห์ในซีเรียกับอิรักดังที่ทุกคนรับรู้
แต่ไหนแต่ไรนายกฯ
เนทันยาฮูยึดจุดยืนนี้ ย้ำว่าอิสราเอลไม่มีปัญหาอะไรกับชาวอิหร่านแต่ระบอบอิหร่านจะต้องล้มในที่สุด
และเมื่อนั้นทั้งคนอิสราเอลกับชาวอิหร่านจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ในสายตาอิสราเอล อิหร่านเป็นปรปักษ์หลัก ต้นเหตุความขัดแย้ง
เป้าหมายสุดท้ายต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้
ถ้าอยากจะเข้าใจการเจรจา ต้องเข้าใจเป้าหมายของกันและกันก่อน
------------------
บรรณานุกรม :
1. Hitchcock,
Mark. (2006) Iran: The Coming Crisis: Radical Islam, Oil, and the Nuclear
Threat. CO: Multnomah Books.
2. Iran
Ready to Make Nuclear Program More Transparent in Exchange for Lifting
Sanctions. (2025, April 22). Sputnik
globe. Retrieved from https://sputnikglobe.com/20250422/iran-ready-to-make-nuclear-program-more-transparent-in-exchange-for-lifting-sanctions-1121908941.html
3. Iran’s Supreme
Leader Rejects U.S. Nuclear Deal Offer. (2025, June 4). WSJ. Retrieved
from
https://www.tehrantimes.com/news/513894/Leader-Iran-s-nuclear-enrichment-is-none-of-America-s-business
4. No one can
even think of attack on Iran, FM asserts. (2025, March 24). Tehran Times. Retrieved
from
https://www.tehrantimes.com/news/511179/No-one-can-even-think-of-attack-on-Iran-FM-asserts
5. ‘No red lines’
in conflict with Israel, Iran foreign minister says. (2024, October 13). Politico.
Retrieved from
https://www.politico.eu/article/israel-iran-foreign-minister-abbas-araghchi-defense-war/
6. Oman trying to reduce US-Iran tensions:
foreign ministry tweet. (2019, May 24). Arab News. Retrieved from
http://www.arabnews.com/node/1501476/middle-east
-----------------