แนวคิดกำจัดผู้นำฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ยาพิษสมัยใหม่ไร้รสไร้กลิ่น ขนาดเพียงเม็ดฝุ่นฆ่าคนได้แล้ว มีกระแสชวนให้คิดลอบสังหารประธานาธิบดีปูติน มีเหตุผลรองรับ
มีนาคม 2022 หน่วยข่าวกรองยูเครนเผยว่ามีกลุ่มชนชั้นนำรัสเซียที่วางแผนลอบสังหารวลาดีมีร์
ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย กลุ่มดังกล่าวมีทั้งนักธุรกิจกับนักการเมือง
เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับชาติตะวันตก ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ถึงขั้นวางตัวคนแทนปูตินแล้ว อาจกำจัดปูตินด้วยยาพิษ
อยู่ดีๆ ก็ล้มป่วยหรืออุบัติเหตุอื่นๆ
กำจัดปูตินเป็นเรื่องชอบธรรม :
ในหมู่นักวิชาการตะวันตก
ข้อเขียนที่เผยแพร่ทางสื่อมากมายถกกันว่าทำอย่างไรยุโรปจะมีสันติภาพถาวร
ถ้ามองกรอบยูเครน ฝ่ายยุทธวิธีคิดถึงการเอาชนะหลายรูปแบบตั้งแต่การรบพุ่งทางทหาร ทำลายเศรษฐกิจ
อีกวิธีคือทำให้ปูตินพ้นจากตำแหน่ง เชื่อว่าจะนำความสงบสุขแก่ยูเครนและยุโรปทั้งมวล
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวเมื่อมีนาคมว่าไม่อาจปล่อยให้ปูติน
“อยู่ในอำนาจอีกต่อไป”
Lloyd
Austin รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพูดเรื่องเดียวกันว่าตนคิดถึง “ทำให้รัสเซียอ่อนแอจนไม่ทำเรื่องอย่างรุกรานยูเครนอีก”
การกำจัดปูตินเป็นวิธีนำสู่ความสงบสุขระยะยาว
โดยรวมแล้วเหตุผลที่มักพูดถึงเสมอคือ
ประการแรก
ยึดและผนวกดินแดนยูเครน
นักวิชาการบางคนเห็นว่าการที่รัฐบาลรัสเซียยึดและผนวกดินแดนเข้ามาเป็นของตนก็เพียงพอที่จะกำจัดผู้นำประเทศรัสเซียแล้ว
ข้อนี้มีเหตุผลเพราะรัสเซียได้ผนวกไครเมียในปี 2014 และทำเช่นนี้ซ้ำกับพื้นที่บางส่วนทางภาคตะวันออกกับภาคใต้ยูเครน
จำต้องหยุดไม่ให้รัสเซียทำเช่นนี้ซ้ำอีก
บางคนอาจคิดว่าคำพูดของประธานาธิบดีกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐไม่เหมาะสม
แต่หนีไม่พ้นความจริงว่าปูตินอาจก่อเหตุซ้ำอีกในอนาคต
ประการที่
2 ป้องกันสงครามนิวเคลียร์
บางคนเกรงว่ารัฐบาลปูตินจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำให้บาดเจ็บเสียชีวิตนับแสนนับล้าน
เศรษฐกิจโลกพังพินาศ ข่าวและคำพูดต่างๆ ที่ออกมาจากฝ่ายตะวันตกชี้ว่ารัสเซียคิดใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน
จึงควรสังหารผู้นำรัสเซียก่อนสถานการณ์จะสุ่มเสี่ยงกว่านี้ ชิงสังหารก่อนเพื่อระงับความเสียหายร้ายแรง
ปลายเดือนกันยายน Dmitry Medvedev
รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย (Deputy Chairman of the Security Council
of the Russian Federation) กล่าวว่ารัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ต่อยูเครนหรือใช้นิวเคลียร์ต่อสหรัฐเพื่อป้องกันตนเอง
บางคนตีความว่าในที่สุดรัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพราะกองทัพรัสเซียกำลังพ่ายศึกยูเครน
และผู้นำรัสเซียไม่ยอมให้เกิดเช่นนั้น ด้านหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐกำลังเร่งตรวจสอบว่ารัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธมหาประลัยนั้นอยู่หรือไม่
แน่ละสหรัฐกับนาโตพร้อมตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน มีแผนรองรับอยู่แล้ว ยิ่งข่าวใช้อาวุธนิวเคลียร์โหมกระพือยิ่งคิดถึงการลอบสังหาร
หรือไม่ก็ยิงขีปนาวุธสังหารผู้นำรัสเซียโดยตรง
ประการที่ 3 กระแสต่อต้านภายในรัสเซีย
ก่อนกองทัพรัสเซียบุกยูเครน รัฐบาลสหรัฐกับนาโตประกาศชัดว่าจะเป็นการปะทะทางทหารระหว่างกองทัพยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น
สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกทำคือคว่ำบาตรรัสเซีย มาตรการหลักได้แก่
เลิกซื้อพลังงานรัสเซีย ปิดกั้นการทำธุรกรรมการเงิน อายัดทรัพย์สินที่อยู่ต่างแดนของรัฐบาลรัสเซีย
มหาเศรษฐีและชนชั้นนำ เป็นการทำสงครามเศรษฐกิจทำให้คนรัสเซียทุกข์ยากและโทษว่าเป็นความผิดรัฐบาล
ชนชั้นนำที่เคยสนับสนุนหันมาต่อต้านปูติน นำสู่การล้มรัฐบาลและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับชาติตะวันตก
แม้รัฐบาลรัสเซียมีประสบการณ์ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรเมื่อรัสเซียยึดไครเมีย
พยายามควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว แต่ไม่อาจปิดผลกระทบได้ทั้งหมด คนรัสเซียได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจริง
กันยายน 2022 สภาท้องถิ่นที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กถูกยุบหลังกลุ่มดังกล่าวประกาศปลดปูตินออกจากตำแหน่งเนื่องจากกองทัพสูญเสียมาก
เศรษฐกิจมีปัญหา แหล่งข่าวระบุว่าตัวแทนเทศบาล (municipal representatives) 65 คนจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
มอสโกและอีกหลายพื้นที่ลงนามเรียกร้องให้ปูตินลาออก
Nikita
Yuferev จากสภาท้องถิ่นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกล่าวว่า “วลาดีมีร์
ปูตินเป็นภัยคุกคามหลักของรัสเซีย” เรียกร้องให้ผู้นำประเทศลาออก
เพื่อความสงบสุขของคนรัสเซีย
คนเหล่านี้มีอำนาจเพียงเล็กน้อยและเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ
แต่ได้สะท้อนชาวรัสเซียบางส่วนที่คิดเช่นนี้
แม้เหตุการณ์ไม่กระทบรัฐบาลแต่เป็นปรากฏการณ์ที่หายาก
กระทั่งคนใกล้ชิดปูตินยังตั้งข้อสงสัยว่ากองทัพรัสเซียชนะจริงหรือ
ประชาชนจำนวนไม่น้อยคิดว่ารัฐบาลกำลังโกหกพวกเขา ยิ่งรัฐบาลบอกว่าชนะคนยิ่งสงสัย
ข่าวกองทัพรัสเซียถอยจากบางพื้นที่ปลุกเร้ากระแสดังกล่าว
ล่าสุด Mark Milley หัวหน้าคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐประเมินว่ากว่า
2 แสนรายบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสงครามยูเครน ในจำนวนนี้เป็นทหารรัสเซีย
1 แสนราย ที่เหลือคือฝ่ายยูเครน เฉพาะพลเรือนบาดเจ็บหรือชีวิต
40,000 คน (ด้านรัฐบาลรัสเซียระบุตัวเลขต่ำกว่านี้มาก)
Tatiana
Stanovaya นักวิเคราะห์รัสเซียเตือนว่าหากรัฐบาลตอบโต้การต่อต้านผิดวิธีจะยิ่งบั่นทอนรัฐบาลมากกว่าเดิม
ด้าน Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบกล่าวว่ารัฐบาลอดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดกฎหมาย
รัสเซียเป็นพหุสังคมแต่ต้องระวังที่จะไม่ทำผิด
กระแสต่อต้านในประเทศเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้กำจัดผู้นำรัสเซียคนนี้
ข้อโต้แย้ง ข้อเท็จจริง :
แนวคิดสังหารประธานาธิบดีคนเดียวแล้วจะหยุดสงครามอาจไม่ถูกต้อง
หากสหรัฐใช้ขีปนาวุธรัสเซียน่าจะตรวจจับได้และตอบโต้ไม่ว่าปูตินจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม
การกำจัดปูตินอาจเป็นชนวนสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกก็เป็นได้
ความเข้าใจสำคัญคือปูตินไม่ได้ปกครองรัสเซียตัวคนเดียว
เป็นระบอบที่พัฒนามานาน (อย่างน้อยพอๆ กับการครองอำนาจของท่าน)
หากจะเปลี่ยนรัสเซียต้องล้มทั้งระบอบซึ่งไม่ง่าย และไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผลสุดท้ายเป็นอย่างไร
หากปูตินเสียชีวิตจากการลอบสังหาร
เช่น โดนวางยา ย่อมมีผู้นำใหม่ขึ้นแทน ไม่มีอะไรประกันว่ากองทัพรัสเซียจะไม่หยุดทำสงคราม
อาจเป็นเหตุให้สงครามขยายกว้างออกไป กลับไปสู่ฉากทัศน์สงครามนิวเคลียร์ล้างโลก
วิเคราะห์ลึกลงกว่านี้หากผู้นำรัสเซียเสียชีวิตด้วยเหตุผิดปกติ
เช่น โดนวางยา เป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจโต้กลับด้วยการวางยาผู้นำประเทศอื่นๆ บ้าง ต้องถามกลับว่าบรรดาผู้นำชาติตะวันตกทั้งหลายอยากอยู่ในความเสี่ยงเช่นนี้หรือไม่
คุ้มค่าหรือไม่
ส่วนรัสเซียจะแพ้ศึกยูเครนหรือไม่ต้องติดตามต่อไป
การลอบสังหารผู้นำด้วยยาพิษไม่ใช่เรื่องแปลก
มีข้อมูลว่าอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander The Great) เสียชีวิตด้วยยาพิษเมื่อปี
323 ก่อนคริสต์ศักราช ปัจจุบันยาพิษพัฒนามาก ยกตัวอย่าง สารกัมมันตรังสีพอโลเนียม
-210 (Polonium-210) เพียง 1 ไมโครกรัมซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเศษฝุ่นสามารถสังหารคนได้สบายๆ
เมื่อเตรียมสารนี้เป็นสารละลายพวกซิเตรด ไตเตรดหรือเกลืออื่นๆ จะไม่มีรสชาติ มียาพิษหลายชนิดที่ไร้รส
ไร้กลิ่น
ความคิดลอบสังหารผู้นำฝ่ายตรงข้ามในกรณีปูติน
มักเริ่มต้นด้วยคำถามทำอย่างไรโลกจะสงบสุข จะหยุดสงครามยูเครนได้อย่างไร จะลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของคนยูเครนได้อย่างไร
ฯลฯ ท้ายที่สุดเข้าสู่ประเด็นว่าถ้าไม่มีปูตินสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ จะเรียกว่าเป็นการถกเชิงวิชาการ
การแสดงความคิดเห็นของบุคคลสำคัญ (ฝ่ายที่ตรงข้ามกับปูติน) หรือการกล่อมเกลาสังคมให้ยอมรับก็ได้
---------------------
1. Biden Thinks Non-Nuclear
Threats Will Stop Putin. His Military Doesn't. (2022, September 29). euractivdotcom.
Retrieved from https://www.newsweek.com/2022/10/14/biden-thinks-non-nuclear-threats-will-stop-putin-his-military-doesnt-1747343.html
2. How to defeat Vladimir
Putin. (2021, April 19). The Hill. Retrieved from https://thehill.com/opinion/international/548843-how-to-defeat-vladimir-putin/
3. Putin Has Left the World
No Other Option But Regime Change. (2022, October 2). The Daily Beast. Retrieved
from https://www.thedailybeast.com/putin-has-left-the-world-no-other-option-but-regime-change
4. Russian council faces
dissolution after call for Putin's removal. (2022, September 14). Reuters. Retrieved
from https://www.reuters.com/world/europe/russian-council-faces-dissolution-after-call-putins-removal-2022-09-13/
5. Russia's elite wants to
eliminate Putin, they have already chosen a successor - intelligence. (2022,
March 20). Pravda. Retrieved from https://www.pravda.com.ua/eng/news/2022/03/20/7332985/
6. The War Won’t End Until
Putin Loses. (2022, May 23). The Atlantic. Retrieved from https://www.theatlantic.com/ideas/archive/2022/05/why-ukraine-must-defeat-putin-russia/629940/
7. The word 'war' is
off-limits in Russia, but some politicians are accusing Putin of treason.
(2022, September 16). CBC News. Retrieved from https://www.cbc.ca/news/world/russia-war-putin-treason-1.6585186
8. Ukraine war: US estimates
200,000 military casualties on all sides. (2022, November 10). BBC. Retrieved
from https://www.bbc.com/news/world-europe-63580372
-----------------------