ความสงบสันติเท่านั้นจึงจะนำมาซึ่งการพัฒนา
ชีวิตที่สงบสุข ผู้คนอยู่ดีกินดี คนทั่วโลกอยากเข้ามาท่องเที่ยว
แต่จะได้มาเพราะเลือกสหายที่อยู่ไกลหรือมิตรที่อยู่ใกล้ เป็นคำถามที่ต้องตอบให้ชัด
สมุดปกขาวกับปฏิญญาซิดนีย์ :
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแมลคัม
เทิร์นบุลล์ ( Malcolm Turnbull) กล่าวในสมุดปกขาวนโยบายต่างประเทศ
2017 (2017 Foreign Policy White Paper) ว่า
ออสเตรเลียเป็นประเทศประชาธิปไตยเก่าแก่ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
และเป็นพหุสังคมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
กำลังเผชิญภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนับจากสิ้นสงครามเย็นเป็นต้นมา
ทำอย่างไรประเทศจึงจะได้ผลประโยชน์มากสุด
ผลประโยชน์ดังกล่าวคือประเทศที่ปลอดภัย มั่นคงและมีเสรี
นับจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ออสเตรเลียอยู่ฝ่ายสหรัฐและได้ประโยชน์จากระเบียบโลกใหม่ที่มีสหรัฐเป็นแกนนำ
คำถามสำคัญคือ ในบริบทที่กำลังเปลี่ยนไปออสเตรเลียควรวางตัวอย่างไร
การเป็นสมาชิกอาเซียนหรือไม่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของออสเตรเลีย
เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่
ชมคลิป 4 นาที
ปฏิญญาซิดนีย์ (The
Sydney Declaration) อันเป็นผลจาก “การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ” (ASEAN-Australia Special Summit) ปี 2018 ซึ่งมีความยาวเพียง 10 หน้า และควรจะสั้นกว่านี้เพราะใช้ตัวอักษรใหญ่กว่าปกติ มีสาระสำคัญว่า …
เป้าหมายเบื้องต้นคือยกระดับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายให้สูงขึ้นจากเดิมที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic
Partnership) ที่จัดทำเมื่อปี 2014 ย้ำเตือนว่าความเป็นไปของภูมิภาคมีผลสำคัญยิ่งยวด
(vital stake) ต่อทั้ง 2 ฝ่าย
ปรารถนากระชับความร่วมมือเพื่อความมั่นคงและความมั่งคั่ง
ยืนยันและยึดมั่นว่าอาเซียนเป็นศูนย์กลางของโครงสร้างความมั่นคงภูมิภาค
ดำเนินการตามกลไกอาเซียน จะร่วมกันรักษาสันติภาพและความมั่นคง
แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ไม่คุกคามอีกฝ่ายด้วยกำลัง เคารพอธิปไตยของอีกฝ่าย
ยึดมั่นสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of
Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC)
ทั้ง 2 ฝ่ายประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบ
จะร่วมมือต่อต้านก่อการร้ายให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
เป็นกังวลต่อความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ ขอให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
ยืนยันที่จะยึดแนวทางใช้ทะเลกับมหาสมุทรในทางสันติ
มีเสรีภาพในการเดินเรือ การบินเหนือพื้นน้ำ เสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน
หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนกว่าเดิม
ดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ ยึดมั่น “ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้”
(Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea: DOC) และกำลังหาข้อสรุปเบื้องต้นของ “แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้”
(Code of Conduct on South China Sea: CoC)
ใช้กลไกด้านความมั่นคงผ่าน
ARF กับ ADMM Plus
จะยึดมั่นการค้าเสรี
ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยจะเพิ่มความพยายามอีกเท่าตัวเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ทั้งระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค ลดภาษีศุลกากร ส่งเสริมการค้ายุคดิจิทัล
พร้อมวางระบบป้องกัน สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนด้วยกันเอง
ให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้ง 2 ฝ่ายจะส่งเสริมการเชื่อมต่อของประชาชน 2 ฝ่าย
โดยเฉพาะผู้นำประเทศของทั้งคู่ การเชื่อมต่อระหว่างเยาวชนผ่านกิจกรรมหลากหลาย
รวมทั้งการศึกษา ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนตามแนวทางของอาเซียนกับออสเตรเลีย
ถ้ามองจากมุมอาเซียน
เนื้อหาส่วนใหญ่คือแบบฉบับอาเซียน มีเพียงเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เอ่ยถึงแนวทางของออสเตรเลียด้วย
แม้ครั้งนี้ไม่ประกาศตอบรับ :
การประชุมสุดยอดครั้งนี้
ข้อสรุปที่เป็นจริงเป็นจังคือบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายสากลระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย
ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ปรากฏในปฏิญญาส่วนใหญ่เป็นแนวคิดหรือความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว
และค่อนไปทางเดียวกับอาเซียน
ที่ไม่ปรากฏคือ ผลการหารือเรื่องเชิญออสเตรเลียเป็นสมาชิกอาเซียน
การไม่ปรากฏข้อสรุปใดๆ ไม่ได้แปลว่าไม่ได้หารือ และไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อสรุป
อาจมีข้อสรุปแต่ไม่ใส่ในปฏิญญา ที่แน่นอนคือชาติสมาชิกอาเซียนได้เอ่ยปากเชื้อเชิญอย่างเป็นทางการแล้ว
ถ้ามองจากมุมออสเตรเลีย
เป็นไปได้หรือไม่ว่าออสเตรเลียได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐมากว่าจะต้องสนับสนุนสหรัฐทุกอย่าง
เพิ่มงบกลาโหม แสดงตัวอยู่ฝ่ายรัฐบาลสหรัฐทุกเรื่อง รัฐบาลออสเตรเลียแม้อยู่ฝ่ายสหรัฐแต่ไม่ต้องการรับแรงกดดันมากเกินไป
จึงวางตัวว่าอาจมีโอกาสเข้าไปอยู่ฝ่ายอาเซียน หรืออาจวางตัวห่างจากสหรัฐมากขึ้น
สหรัฐคือพันธมิตรหลัก :
สมุดปกขาว 2017ระบุว่า
ความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐคือศูนย์กลางแนวทางปฏิสัมพันธ์กับภูมิภาคอินโด-แปซิกฟิก สนับสนุนการเข้าพัวพันและความเข้มแข็งของสหรัฐในทุกด้าน
หากปราศจากสหรัฐภูมิภาคจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญมากคือ Five–Eyes intelligence partners
เป็นกลุ่มพันธมิตรเพื่อการสอดแนม 5 ชาติ
ประกอบด้วย อังกฤษ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและสหรัฐ
ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ก่อนสงครามเย็น หน่วยสอดแนมออสเตรเลียอยู่ในฐานะเป็น “ลูกข่าย” ที่มีสหรัฐเป็น “แม่ข่าย”
สามารถดักจับสัญญาณทั่วโลก ทั้งสัญญาณโทรศัพท์ แฟกซ์ อีเมล
สัญญาณดาวเทียม สัญญาณไมโครเวฟ สัญญาณโทรศัพท์มือถือ (cellular) และสัญญาณที่ผ่านสายไฟเบอร์ออฟติก ผ่านสถานีดักฟังที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ
ทั่วโลก รวมทั้งระบบดาวเทียมจารกรรม
ความเป็นผู้นำโลกของสหรัฐ เศรษฐกิจโลกแบบเปิด สถาบันและกฎเกณฑ์นานาชาติ
เอื้อความมั่นคงและความมั่งคงของออสเตรเลีย
ลำพังออสเตรเลียแม้ร่วมมือกับประเทศอื่นก็ไม่อาจทำเช่นนั้น
เชื่อว่าการเข้าพัวพันโลกของสหรัฐเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐและต่อโลกโดยรวม
ส่งเสริมความมั่นคงและมั่งคั่ง ถ้าปราศจากสหรัฐกฎระเบียบที่อิงหลักเสรีจะลดลง
ด้วยเหตุนี้ออสเตรเลียจึงส่งเสริมความเป็นผู้นำโลกของสหรัฐ
รวมถึงระบบพันธมิตรของสหรัฐ จะเพิ่มงบประมาณกลาโหมให้ถึงร้อยละ 2 ของจีดีพี ร่วมปฏิบัติการทางทหารในทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก
ความตอนหนึ่งกล่าวว่า ความเป็นผู้นำสหรัฐส่งเสริมความมั่นคงแก่โลก
ไม่ว่าประโยคนี้จะตีความอย่างไร ข้อนี้นับวันจะไม่เป็นจริงในเอเชียแปซิฟิก
อันเป็นผลโดยตรงจากการก้าวขึ้นมาของจีน รัฐบาลออสเตรเลียยอมรับเรื่องนี้
คำถามคือ ออสเตรเลียจะผูกความมั่นคงไว้กับสหรัฐได้อีกนานเพียงไร
คำถามที่สำคัญกว่าคือการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐเอื้อให้ออสเตรเลียมั่นคงมั่งคั่งขึ้นจริงหรือ
หรือจะชักนำสู่ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจมากเกินจำเป็น
จีนในยุคนี้ไม่ได้เผยแพร่อุดมการณ์คอมมิวนิสต์
แต่เผยแพร่ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการกินดีอยู่ดี ดังเช่นยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม (Silk Road Strategy) หรือ “One Belt, One Road” (OBOR) อิทธิพลของจีนคือด้านเศรษฐกิจ
พร้อมกับคนจีนหลายร้อยล้านคนที่จะกระจายไปตามยุทธศาสตร์ OBOR จึงเป็นที่ต้องการของนานาชาติ ไกลไปถึงยุโรปตะวันตก
จีนไม่คิดทำสงครามใหญ่
ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้เป็นเพียงเวทีเพื่อแสดงพลัง แสดงท่าทีบางอย่างเท่านั้น
ไม่ควรยึดติดกับทะเลจีนใต้จนละทิ้งภาพใหญ่
เกิดคำถามว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถปิดล้อมจีนด้วยกำลังทหาร
ด้วยการคว่ำบาตรเศรษฐกิจได้หรือ
ร่วมอาเซียนถ่วงดุลมหาอำนาจดีหรือไม่ :
สมุดปกขาวนโยบายต่างประเทศ
2017 เห็นว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า
สหรัฐยังคงความเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่ง และจะมีมหาอำนาจอื่นๆ ก้าวขึ้นมาท้าทาย
ที่ผ่านมาออสเตรเลียยึดหลักว่าจะขออยู่ฝ่ายมหาอำนาจอันดับหนึ่ง
แต่จะยังส่งผลดีหรือไม่ หากต้องรับผลจากแรงเสียดทานระหว่างมหาอำนาจ
การวางตัวเป็นกลางหรือถ่วงดุลมหาอำนาจจะดีกว่าไหม
ความจริงข้อหนึ่งที่ต้องยึดให้มั่นคือ ออสเตรเลียไม่เป็นภัยต่ออาเซียน
เช่นเดียวกับที่อาเซียนไม่เป็นภัยต่อออสเตรเลีย แต่มหาอำนาจ
การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจก่อความตึงเครียด และนำประเทศต่างๆ
ในภูมิภาคเข้าสู่ความตึงเครียดนี้
หากเป็นสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลียยังคงระบอบปกครองเดิม ใช้ระบบเศรษฐกิจเดิม
สามารถยึดถือค่านิยมเดิม (เพราะสมาชิกอาเซียนอื่นไม่สนใจอยู่แล้ว)
สามารถคงความร่วมมือเดิมหลายอย่าง
เว้นแต่การเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศกับสหรัฐอย่างเข้มข้น
คำถามจึงอยู่ที่ออสเตรเลียจะยอมเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ
ยอมที่จะเข้าร่วมความตึงเครียดนี้หรือไม่
ถ้าจะถามออสเตรเลีย ประเทศนี้จะเลือกสหายที่อยู่ไกลหรือมิตรที่อยู่ใกล้
ควรวางตำแหน่งระยะห่างอย่างไร ดังที่ตระหนักว่าความสงบสันติเท่านั้นจึงจะนำมาซึ่งการพัฒนา
ชีวิตที่สงบสุข อยู่ดีกินดี เป็นประเทศที่ผู้คนทั่วโลกอยากเข้ามาท่องเที่ยว
ออสเตรเลียอาจยังไม่ต้องสรุปวันนี้ แต่คำถามจะคงวนเวียนต่อไป
จนกว่าได้ข้อสรุป
25 มีนาคม
2018
ชาญชัย
คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
22 ฉบับที่ 7806 วันอาทิตย์ที่ 25
มีนาคม พ.ศ.2561)
---------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
อาเซียนก้าวหน้าอีกขั้นด้วยการเชิญออสเตรเลียเป็นสมาชิก
เป็นการคิดนอกกรอบอีกครั้ง และน่าจะด้วยเหตุผลเดิม นั่นคือ
ผลจากบริบทความมั่นคงระหว่างประเทศ
บรรณานุกรม :
1. Asean-Australia Special Summit matters to us all. (2018, March 15). Borneo Bulletin. Retrieved from https://borneobulletin.com.bn/asean-australia-special-summit-matters-to-us-all/
บรรณานุกรม :
1. Asean-Australia Special Summit matters to us all. (2018, March 15). Borneo Bulletin. Retrieved from https://borneobulletin.com.bn/asean-australia-special-summit-matters-to-us-all/
2. ASEAN’s Time to Invest in Timor-Leste. (2012, December 17).
Retrieved from http://cogitasia.com/asean%E2%80%99s-time-to-invest-in-timor-leste/
3. Indonesia wants Australia as full ASEAN member. (2018,
March 16). Channel NewsAsia. Retrieved from https://www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/indonesia-wants-australia-as-full-asean-member-10048682
4. Indonesia wants Australia as full ASEAN member. (2018,
March 15). The Jakarta Post. Retrieved from http://www.thejakartapost.com/seasia/2018/03/16/indonesia-wants-australia-as-full-asean-member.html
5. Papua New Guinea as an ASEAN Member? (2012, December 7).
Retrieved from http://aseanec.blogspot.com/2012/12/papua-new-guinea-as-asean-member.html
-----------------------------