สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 29 มี.ค. 15:20 น.) วิกฤตไซปรัสคือวิกฤตเศรษฐกิจควบคู่กับวิกฤตระบบธนาคารที่รัฐบาลไซปรัสกับทรอยกาขัดแย้งในวิธีแก้ไข ในช่่วงแรกรัฐบาลพยายามจะแก้โดยไม่ให้กระทบต่อผู้ฝากเงิน พยายามรักษากิจการรับเงินฝากต่างชาติ ในขณะที่ทรอยกาต้องการฉวยโอกาสนี้ปรับโครงสร้างระบบธนาคารไซปรัส
หลังจากที่รัฐบาลพยายามหาทางออกด้วยการไปขอความช่วยเหลือจากรัฐเสียและพยายามระดมเงินเข้าคลังจากภายในประเทศ แต่ไม่สำเร็จและไม่เข้าเงื่อนไขทรอยกา รัฐบาลไซปรัสจึงรับเงื่อนไขของทรอยกา จำยอมเก็บภาษีโดยเฉพาะบัญชีเงินฝากที่มากกว่า 1 แสนยูโรขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่คือเงินฝากจากคนต่างชาติ
ธนาคารกลางไซปรัสให้ธนาคารทั้งหมดปิดต่อจนกว่าจะถึงวันพฤหัส (28) ให้เหตุผลว่า “เพื่อให้มั่นใจว่าระบบธนาคารทั้งหมดจะกลับมาทำงานอย่างราบรื่น” ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางประเทศว่าจะธนาคารทั้งหมดจะเปิดทำการตามปกติในวันอังคาร ยกเว้นสองธนาคารที่มีปัญหาเท่านั้นที่จะปิดทำการต่อ (ธนาคารปิดตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.)
และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม ธนาคารพาณิชย์ของไซปรัสเปิดทำการ ด้วยมาตรการหลายอย่างเพื่อป้องกันลูกค้าแห่ถอนเงิน เช่น จำกัดถอนเงินได้เพียงวันละ 300 ยูโร จำกัดวงเงินบัตรเครดิตต่อเดือนห้ามใช้เกิน 5 พันยูโร บริษัทเอกชนสามารถย้ายเงินไม่เกิน 5 พันยูโรต่อวัน ลูกค้าหลายคนเข้าธนาคารด้วยสีหน้าไม่สู้ดีแต่ไม่มีเหตุร้ายรุนแรงเกิดขึ้น ธนาคารสามารดำเนินกิจการอย่างสงบเรียบร้อย (แหล่งข่าว Spiegel International, http://www.spiegel.de/international/europe/banks-in-cyprus-open-amid-calm-and-fear-a-891608.html)
และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม ธนาคารพาณิชย์ของไซปรัสเปิดทำการ ด้วยมาตรการหลายอย่างเพื่อป้องกันลูกค้าแห่ถอนเงิน เช่น จำกัดถอนเงินได้เพียงวันละ 300 ยูโร จำกัดวงเงินบัตรเครดิตต่อเดือนห้ามใช้เกิน 5 พันยูโร บริษัทเอกชนสามารถย้ายเงินไม่เกิน 5 พันยูโรต่อวัน ลูกค้าหลายคนเข้าธนาคารด้วยสีหน้าไม่สู้ดีแต่ไม่มีเหตุร้ายรุนแรงเกิดขึ้น ธนาคารสามารดำเนินกิจการอย่างสงบเรียบร้อย (แหล่งข่าว Spiegel International, http://www.spiegel.de/international/europe/banks-in-cyprus-open-amid-calm-and-fear-a-891608.html)
วิเคราะห์: (อัพเดท 29 มี.ค. 15:20 น.)
การรายงานข่าวสถานการณ์ที่สงบเงียบวันนี้อาจไม่ได้หมายถึงว่าสถานการณ์ประเทศกลับสู่ความสงบอย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าไม่เพียงแต่ผู้ฝากต่างชาติรายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ประกอบการ SME ที่ฝากเงินในธนาคาร ‘Popular Bank’ หรือ Laiki ที่คาดว่าจะต้องปิดกิจการจะได้รับผลกระทบด้วย เช่น ถ้าฝากไว้ 5 แสนยูโร เงิน 1 แสนยูโรจะได้รับความคุ้มครอง ส่วนอีก 4 แสนอาจต้องกินอีกเวลาอีกเป็นปีจึงจะถอนได้และจะเหลือเพียงบางส่วนหลังถูกหักภาษีเงินฝาก
การรายงานข่าวสถานการณ์ที่สงบเงียบวันนี้อาจไม่ได้หมายถึงว่าสถานการณ์ประเทศกลับสู่ความสงบอย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าไม่เพียงแต่ผู้ฝากต่างชาติรายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ประกอบการ SME ที่ฝากเงินในธนาคาร ‘Popular Bank’ หรือ Laiki ที่คาดว่าจะต้องปิดกิจการจะได้รับผลกระทบด้วย เช่น ถ้าฝากไว้ 5 แสนยูโร เงิน 1 แสนยูโรจะได้รับความคุ้มครอง ส่วนอีก 4 แสนอาจต้องกินอีกเวลาอีกเป็นปีจึงจะถอนได้และจะเหลือเพียงบางส่วนหลังถูกหักภาษีเงินฝาก
เรื่องสำคัญอีกหลายเรื่องที่ควรติดตาม เช่น จะเก็บภาษีเงินฝากกี่เปอร์เซ็นต์ ใช่ร้อยละ 40 หรือไม่ ผลจากมาตรการต่างๆ รวมทั้งการช่วยเหลือจากทรอยกาจะสามารถช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ หวังว่านับจากวันนี้ข่าวร้ายของไซปรัสจะไม่หวนกลับมาอีก
29 มีนาคม 2013
ชาญชัย คุ้มปัญญา
--------------------