บทความ 19 สิงหาคม 2012
ชาญชัย
1. ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะยานสู่ 100 ดอลลาร์
คนที่มีรถยนต์ส่วนตัวจะสังเกตได้ว่าราคาน้ำมันในช่วงไม่ถึงสองเดือนนี้ปรับเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง
ข้อมูลพลังงานขายปลีกของบริษัท ปตท. ชี้ว่านับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมจนถึงวันนี้
ในเวลาเพียงเดือนครึ่ง ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 7 ครั้ง (อ้างอิงราคาน้ำมัน E20, website ปตท.)
ราคาน้ำมันขายปลีกไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบโลก ยกตัวอย่าง
น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ปิดที่ 96.01
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นมา (Bloomberg)
ไม่ว่าปัจจัยพื้นฐานที่กล่าวอ้างจะเป็นเรื่องของดัชนีเศรษฐกิจบางตัวที่ดีขึ้น
สถานการณ์รุนแรงในภูมิภาคตะวันออกลางหรือผลเกี่ยวเนื่องจากภัยแล้งสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบโลกสูงขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนแล้ว
แม้โฆษกทำเนียบขาวจะออกมาให้ข่าวว่าเป็นนโยบายของประธานาธิบดีโอบามา
ที่การระบายน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) เป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง (AFP)
และโอบามาเคยใช้มาครั้งหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าพอใจเพราะในเวลา
2 สัปดาห์ราคาน้ำมันดิบที่ถูกกดให้ต่ำกลับดีดตัวขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 100
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในอีกมุมมองหนึ่ง ครั้งนี้อาจแตกต่างจากเดิม
เพราะโอบามากำลังอยู่ในช่วงหาเสียงอย่างเข้มข้น ท่านอาจมีวิธีสามารถสยบราคาน้ำมันดิบโลก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องคอยดูว่าตลาดน้ำมันดิบโลกจะตอบสนองอย่างไร
อาจจะมีโอกาสเห็นราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ 100
ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก็เป็นได้
2 ความหวังสันติภาพในซีเรียริบหรี่ลง
โฆษกสหประชาชาติรายงานว่า กองกำลังสังเกตการณ์สหประชาชาติชุดสุดท้ายกำลังถอนตัวออกจากประเทศซีเรียเนื่องด้วยภารกิจจะยุติลงในเที่ยงคืนวันอาทิตย์
(AP)
การถอนตัวดังกล่าวเท่ากับว่าความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีหยุดชะงักไปด้วย
และไม่รู้ว่าจะมีความพยายามอย่างจริงจังเกิดขึ้นอีกเมื่อไร
แม้สหประชาชาติจะแต่งตั้งนายลักคาร์ บราฮิมี (Lakhdar Brahimi) เป็นทูตสันติภาพแทนนายโคฟี่ อันนัน (Al Jazeera) ที่ขอลาออก ก็ไม่อาจแทนที่นายอันนัน
บุคคลทรงเกียรติเป็นที่ยอมรับจากทุกชาติมหาอำนาจ จากชาติอาหรับ
รวมทั้งจากประธานาธิบดีซีเรีย เรื่องทั้งหมดสรุปความได้ว่าสหประชาชาติยอมรับแล้วว่าไม่อาจแก้ปัญหาซีเรียด้วยสันติวิธี
อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง
การไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ความหมายในอีกด้านหนึ่งของเหรียญคือ
ความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 17 เดือนจะยืดเยื้อต่อไป
ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากทุกฝ่ายที่มีผู้ประเมินว่าถึง 2
หมื่นคนก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าประชาชนชาวซีเรียจะต้องทนทุกข์กับเรื่องนี้อีกนานเท่าใด
นายเอ็ดมันด์
มูเล็ท (Edmond Mulet) รองหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบสหประชาชาติ
กล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายเลือกที่จะทำสงคราม
เลือกที่จะขัดแย้ง ส่วนโอกาสที่จะพูดคุยทางการเมือง การระงับความเป็นศัตรู และการเจรจาเหลือน้อยลงทุกที"
(REUTERS)
ถ้ามองภาพที่กว้างกว่าประเทศซีเรีย
ภูมิภาคตะวันออกกลางยังจะร้อนระอุ และมีโอกาสขยายวงความขัดแย้งออกไป
หากประเทศที่เกี่ยวข้องต้องการเช่นนั้น
สันติภาพในซีเรียที่ริบหรี่จึงกลายเป็นโอกาสก่อความร้อนระอุแก่ภูมิภาคตะวันออกกลาง